posttoday

ยุทธนา เบื้องกลาง ไม่มีอะไรหนักถ้าต้องทำเพื่อครอบครัว

05 กุมภาพันธ์ 2556

ถ้าเอ่ยชื่อ “ยุทธนา เบื้องกลาง” ฟังดูอาจไม่คุ้นหูนัก แต่ถ้าบอก “ตูมตาม เดอะสตาร์ 7”

โดย... วรธาร ทัดแก้ว ภาพ ฐิติพร ชุณหชา

ถ้าเอ่ยชื่อ “ยุทธนา เบื้องกลาง” ฟังดูอาจไม่คุ้นหูนัก แต่ถ้าบอก “ตูมตาม เดอะสตาร์ 7” ใครๆ ก็ต้องร้องอ๋อ น้อยคนที่จะไม่รู้จักหนุ่มกตัญญูคนนี้ที่ตอนนี้ทั้งเรียน ทั้งทำงาน และดูแลครอบครัวไปพร้อมๆ กัน ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนไทยในยุคนี้

จากเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง

ใครจะคิดว่าเด็กบ้านนอกคนหนึ่งที่รักในการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก แล้ววันหนึ่งชะตาชีวิตได้ชักนำให้เข้ามาประกวดร้องเพลงในรายการ เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปีที่ 7 และแล้วชื่อของเขาก็เป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศเมื่อคว้าดาวดวงที่ 7 แห่งเดอะสตาร์ ปี 2554 มาครอง

จากวันนั้นถึงวันนี้ เขายังเป็นตูมตามคนเดิม ที่มีนิสัยนบนอบ ถ่อมตน มีสัมมาคารวะและสำนึกบุญคุณผู้ใหญ่ตลอดจนผู้มีพระคุณที่ทำให้เขาก้าวมาถึงจุดนี้ได้ โดยเฉพาะพ่อแม่ถือเป็นบุรพบุคคลที่สนับสนุนส่งเสริมและให้กำลังใจเคียงใกล้เขาด้วยดีมาตลอด จึงไม่แปลกที่วันนี้เขามีเป้าหมายชีวิตที่จะทำเพื่อครอบครัวอันเป็นที่รัก

ปัจจุบันตูมตามพาพ่อแม่มาอยู่ด้วยกันที่คอนโดมิเนียมเพื่อต้องการโอกาสที่จะได้อุปถัมภ์บำรุงดูแลใกล้ชิดโดยเฉพาะคุณแม่ที่ป่วยมีโรคประจำตัว และที่สำคัญเป็นความต้องการที่อยากให้พ่อแม่มาอยู่ใกล้ๆ เพื่อเวลาเหนื่อยๆ กลับมาพอได้เห็นหน้าพ่อแม่ ความเหนื่อยได้หายเป็นปลิดทิ้ง

“ตอนนี้ผมพาคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดเพื่อที่เราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกเหมือนที่เราเคยอยู่ด้วยกันที่บ้านเกิดต่างจังหวัด อันนี้เป็นสิ่งที่ผมตั้งใจไว้แล้วว่าจะพาท่านมาอยู่ด้วย เพราะผมอยากดูแล อยากให้ท่านอยู่สบายและมีความสุขเท่าที่จะทำให้ได้ และในทุกวันนี้ในส่วนของรายได้ของผมก็มอบให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลทุกอย่างหมด รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ในบ้าน อยากจะบอกว่าทั้งสองคือยากำลังขนานพิเศษของผม ทุกวันเมื่อผมกลับจากทำงานเห็นหน้าก็หายเหนื่อยแล้วครับ” เดอะสตาร์ 7 เผยทั้งสีหน้าสดใส

เพื่อครอบครัวไม่มีอะไรหนัก

ตูมตาม เล่าต่อว่า การที่มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทำให้รู้สึกมีกำลังใจมากยิ่งขึ้นในการทำงาน ชีวิตเริ่มลงตัวทั้งในเรื่องงาน เรื่องเรียน และครอบครัว ทุกวันนี้เวลาทำงานไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองทำงานหนัก หรือลืมคิดว่าตัวเองทำงานหนักไปเลย

“ตอนที่ผมอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดชีวิตค่อนข้างลำบาก บางครั้งเราไปทำงานตั้งแต่เช้ากลับมาก็ดึก ก็อาจบกพร่องในการดูแลตัวเองในชีวิตประจำวัน แต่พอคุณพ่อคุณแม่มาอยู่ด้วย ท่านช่วยดูแลในส่วนของงานบ้านและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ผมเต็มที่กับงานนอกบ้านอย่างไม่รู้จักคำว่าหนักว่าเหนื่อย พอกลับบ้านทุกเย็นเจอหน้าพ่อแม่ พี่ชาย กินข้าวด้วยกัน มีความสุขที่สุดครับ”

เดอะสตาร์ คนที่ 7 ของเมืองไทย กล่าวต่อว่า แม้ตอนนี้จะเรียนหนังสือและทำงานไปด้วยก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องหนักหนาและเหน็ดเหนื่อยอะไร เพราะมีการจัดสรรเวลาเรียนและทำงานอย่างเหมาะสมและความยืดหยุ่น โดยเอางานเป็นที่ตั้งเนื่องจากต้องดูแลครอบครัว พร้อมกันนี้ในเรื่องเรียนก็ได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเป็นอย่างดีทำให้ได้ทั้งงานและการเรียนโดยไม่ต้องหยุดอย่างใดอย่างหนึ่ง

“ผมจะแบ่งเวลาเรียนและทำงานโดยเอางานเป็นเมนหลัก เช่น อาทิตย์หนึ่งอาจถ่ายละคร 4 วัน อีก 3 วันที่เหลือไปเรียน เป็นต้น หรือถ้าวันไหนไม่มีถ่ายละคร ไปเรียนได้ก็จะไป แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องขอบคุณอาจารย์สอนที่ให้ความช่วยเหลือหลายๆ อย่าง เช่น อาจไม่จำเป็นต้องไปเรียนทุกวัน ให้ไปติวนอกรอบ หรือทำงานส่งภายหลังได้” ตูมตาม พูดถึงการแบ่งเวลา

เป้าหมายในอนาคต

เดอะสตาร์ 7 กล่าวว่า การที่ทำให้เขามีโอกาสได้เข้ามาทำงานตรงนี้นั้นมีสองปัจจัยหลักก็คือ ความรักในดนตรีและการร้องเพลง และเมื่อมีโอกาสได้ทำในสิ่งที่รัก ผลที่ตามมาคือช่วยทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

“ดังนั้นสิ่งที่อยากทำต่อไปจากนี้ก็คือ สร้างความมั่นคงในชีวิต โดยจะทำให้ทุกคนที่รักคือพ่อแม่อยู่สุขสบายตราบนานเท่านาน แม้ว่าในวันข้างหน้าจะไม่ได้อยู่ในวงการนี้แล้วก็ตาม”

นี่คือแบบอย่างที่ดีของคนรุ่นใหม่ที่หัวใจเต็มไปด้วยความกตัญญูรู้คุณ ซึ่งตูมตามยอมรับว่าเขาได้มาจากการปลูกฝังพร่ำสอนจากพ่อแม่มาตั้งแต่เด็กๆ

“ชีวิตผมไม่ได้สบายตั้งแต่เด็ก ไม่ได้ใช้ชีวิตสนุกกับความเป็นวัยเด็กเลย เพราะตอนนั้นทางบ้านก็ทำงาน ผมก็ช่วยเขามาตลอด อยู่บ้านขายของ ตื่นเที่ยงคืนไปช่วยแม่เชือดหมูเพราะที่บ้านมีเขียงหมู เช้าไปส่งของ พอกลับมาบ้านก็อาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน กลับจากโรงเรียนก็มาช่วยเก็บของ ทำอย่างนี้ตลอดจนกลายเป็นว่าเราสนุกกับการทำงานตั้งแต่เด็กแล้ว”

เกร็ดชีวิต ‘ตูมตาม’

ชื่อเล่น : ตูมตาม (เมื่อก่อนป้าตั้งชื่อ “อุ๊บอิ๊บ” แต่แม่เปลี่ยนใหม่เพราะชื่อเหมือนผู้หญิง)

ส่วนสูง : 177 เซนติเมตร

น้ำหนัก : 66 กิโลกรัม

พี่น้อง : 2 คน เป็นคนสุดท้อง

การศึกษา : กำลังศึกษานิเทศศาสตร์ สาขาการประชาสัมพันธ์ ปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ทุนพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สาขาวัฒนธรรมไทย ประเภทนักร้องลูกทุ่ง

นิสัย : อ่อนน้อม ถ่อมตน

สังกัดค่าย : จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่

ผลงานที่ประทับใจ:

งานเพลง : มีอัลบั้มของตัวเอง ชื่ออัลบั้ม “ตูมตาม” และมีเพลงในอัลบั้มพิเศษมากมาย

ละครเวที : สี่แผ่นดิน เดอะ มิวสิคัล เล่นมากถึง 100 รอบ

ละครเรื่องแรก : แผนร้ายแผนรัก รับบทเป็น อิศร พระเอกของเรื่อง คู่กับ เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์ ออนแอร์ทางช่อง 5 วันที่ 13 ก.พ. 2556 นี้.

นักแสดงที่ชอบ : เคน ธีรเดช

นักร้องที่ชอบ : หลายคน หลายวง

อาหารจานโปรด : ส้มตำกับแคบหมู

ประทับใจที่สุด : เกิดมาในครอบครอบครัวที่มีคุณพ่อคุณแม่ที่ดี และประกวด เดอะสตาร์แล้วเห็นพ่อแม่มีความสุข ภูมิใจมาก : มีเรื่อยๆ แต่ทุกครั้งที่ทำงานและแบกรับภาระหนักๆ ของครอบครัวจะภูมิใจมาก

คติประจำใจ : ทะเลาะกันไว้ก่อน ดีกว่าทะเลาะกันทีหลัง (คือมีอะไรพูดกันตรงๆ)

ความสามารถอื่นๆ : เล่นกีตาร์ เป่าขลุ่ย อูคูเลเล

ความฝันในวัยเด็ก : อยากเป็นทหาร แต่ปัจจุบันแค่อยากจะมีชีวิตที่ดีในครอบครัวเท่านั้น

ผู้หญิงที่อยากแต่งงาน : เหมือนแม่ที่รักงานบ้านงานเรือน และมิใช่รักแค่ตัวเรา แต่ต้องรักทุกคนในครอบครัวด้วย

กิจกรรมครอบครัววันว่าง : ชวนคุณพ่อคุณแม่ไปทำบุญ หรือเที่ยวทะเล พักผ่อนกินข้าวด้วยกัน

มีค่ามากที่สุด : ทุกคำสอนของพ่อแม่