posttoday

ก้าวไปพร้อมโลก ‘โชคชัย ณ ระนอง’

30 มกราคม 2556

ส่วนผสมของการตลาดและการสร้างสรรค์ลงตัวอยู่ที่ “เอก-โชคชัย ณ ระนอง”

โดย...ณัฐกานต์ณัฐพล / ภาพ ณัฏฐ์ฐิติ อำไพวรรณ

ส่วนผสมของการตลาดและการสร้างสรรค์ลงตัวอยู่ที่ “เอก-โชคชัย ณ ระนอง” ผู้มาพร้อมหัวใจเต็มเปี่ยมความปรารถนาแห่งแฟชั่นและรักในการบริหารจัดการ

นามสกุล ณ ระนอง ของวงศ์ตระกูล สำหรับเขาก็เหมือนกับครอบครัวอื่น เขาอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ ผู้ใหญ่ในบ้านแต่ละคนล้วนเป็นข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทูต อาจารย์ “ณ ระนอง มาจากสายคุณปู่ จริงๆ มี 2 สายหลัก คือสายที่อยู่กรุงเทพฯ และสายที่อยู่ภูเก็ต

ส่วนใหญ่จะรู้จักกัน เพราะปีหนึ่งจะมีนัดตีกอล์ฟด้วยกัน และนำเงินจากการตีกอล์ฟร่วมกันบริจาค เราเป็นครอบครัวใหญ่ ตั้งแต่เกิดชีวิตแต่ละวันตั้งแต่ 6 โมงต้องกินข้าวร่วมกัน 8 โมงเช้าก็จะเจอกัน ฉะนั้นผู้ใหญ่ทุกคนเขาจะสอนเรื่องการใช้ชีวิต ทำให้เราโตขึ้น แต่พอยุคสมัยเปลี่ยน แต่ละครอบครัวก็แยกเป็นบ้านย่อยๆ

แบบอย่างหลายเรื่องที่ผมได้จากพ่อ ท่านจะเป็นคนที่ดื้อมากกับคุณปู่ คุณปู่อยากให้คุณพ่อเป็นท่านทูตตั้งแต่เด็ก วางแผนทุกอย่าง พ่อทำทุกอย่างตามแนวทางนั้น แต่ก็ทำสิ่งที่ตัวเองรักไปด้วย คุณพ่อรักการซ่อมรถมาก มีแรงบันดาลใจอยากจะมีคาร์แคร์ ก็เลยทำสองอย่างไปด้วยกัน ผมรู้สึกว่าคุณพ่อเป็นคนที่จัดการกับชีวิตดี ฉะนั้นเอกก็จะเป็นแบบนี้เหมือนกัน คือคุณพ่อก็อยากให้เอกทำนั่นนี่ แต่เราก็ทำสิ่งที่รักไปพร้อมกันด้วยครับ

ส่วนคุณแม่จะค่อนข้างชิล การใช้ชีวิตคือ แม่ไม่ค่อยมีแบบแผนนัก ท่านจะบอกว่าถ้าทำอะไรที่มีความสุขก็ทำไป ไม่เคยมีคำบ่น ผมก็เลยจะเป็นคนชิลๆ กับน้องสาวด้วยเช่นกันครับ

เรามีอพาร์ตเมนต์อยู่ที่ลอนดอน เรียกว่าเป็นของครอบครัว เป็นที่พักช่วงเรียนตั้งแต่สมัยคุณปู่ ช่วงรุ่นผมชีวิตที่อังกฤษอยู่กับเพื่อนสนุกสนาน ไม่มีข้อเปรียบเทียบว่าเด็กวัยเรารุ่นเราเขาทำอะไรกันบ้าง แต่สิ่งที่เอกได้รับคิดว่าเป็นเรื่องของการเรียนรู้คน ได้เจอคนหลายประเภท หลายสังคม เรื่องเครือข่าย อย่างน้อยพอได้เจอกันเขาก็เป็นคนรู้จักแล้ว ไม่ใช่คนแปลกหน้า บางทีพอเราทำธุรกิจ คนนี้ก็เคยเจอกันตอนเรียน มันทำให้เราสะดวกมากขึ้นครับ

ตอนอายุประมาณ 18-19 ก็กลับมาเรียนจบด้านการบริหารจัดการ ที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ เคยฝันจะเรียนด้านการออกแบบ แต่เป็นคนเกลียดเลข วิชาที่ต้องสอบมันมีเลข ความโง่ของเราคือเลือกอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องสอบเลข ก็เลยเลือกมาจบที่หัวเฉียวฯ จากนั้นก็เรียนต่อ Culture Management ที่จุฬาฯ ทันที ระหว่างนั้นก็ทำงานโน่นนี่ไปด้วย”

จากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเอเยนซีโฆษณา ก๊อบปี้ ไรเตอร์ การตลาด งานนิตยสาร ทำหนัง ทำคลื่นวิทยุ ทำรายการทีวีที่อาร์เอส จนกระทั่งงานเข้าตาผู้ใหญ่และออกมาทำงานต่อที่แกรมมี่ เขาบอกว่าเขาเป็นคนเบื่อง่ายและชอบเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา “ผมเคยดูรายการอันหนึ่งของอังกฤษ ผู้ร่วมรายการท่านหนึ่งบอกว่าการย้ายงานทุกๆ 1 ปี และย้ายมา 10 ที่ ทำให้เขามีวันที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งมันก็ตรงกับความคิดของผมครับ” นั่นไม่ได้หมายความตามนั้น แต่เขาหมายถึงไปรู้ไปเห็นและก้าวหน้าต่อไปในหลายๆ ที่ ไม่มีที่สิ้นสุด

“ผลงานไปสะดุดตากับ พี่เล็ก บุษบา และทีมงานที่จีเอ็มเอ็ม เขาก็เรียกเอกเข้าไปคุย เพราะชอบสไตล์การทำงานของเอก ชอบรสนิยมการทำงาน ตอนนั้นยังไม่มีค่ายเพลงในความรับผิดชอบ เลยได้ทำในตำแหน่ง Artist Branding Director คือดูศิลปินของแกรมมี่ทั้งหมดทุกค่ายย่อยว่าควรออกมาเป็นลุคแบบไหน จัดลำดับการออกเผยแพร่ เพื่อไม่ให้ชนหรือซ้ำซ้อนกัน ก็ทำอยู่ประมาณปีกว่า คุยว่างานตอนนี้ที่ทำงานอยู่มันไม่สนุก ที่สุดแล้วเราไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด ก็ขอเขาออก สุดท้ายพี่เล็กไม่ให้ออก เพราะเขาชอบทุกอย่างที่เอกทำทั้งหมด เลยเปิดค่ายให้ดูแล ผมคิดว่าจะดีเหรอ เพราะเอกก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องดนตรี เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร เขาต้องการแบบนี้แหละที่จะสร้างสีสันให้กับงานดนตรี ก็เลยเป็นที่มาของค่าย Frontage เป็นค่ายเรา คือเหมือนค่ายอินดี้เล็กๆ เน้นแฟชั่น สไตล์ คาแรกเตอร์เราไม่ได้ดูให้เป็นลุคศิลปินมากไป เริ่มทำมาประมาณ 8 เดือนแล้วครับ

ถึงตอนนี้มีศิลปินภายใต้สังกัดที่เซ็นสัญญาแล้ว 2 คน คือ ‘ไมค์พิชญะ นิธิไพศาลกุล’ กับ ‘ปันปันเต็มฟ้า กฤษณายุธ’ จะมีผลงานให้เห็นประมาณเดือน ก.พ.นี้ นอกจากนี้ยังมี ‘แชมป์ศุภวัฒน์ พีรานนท์’ ที่เป็นศิลปินนอกค่าย ดึงเขาเข้ามาทำงาน ซึ่งเราคิดว่ามันเหมาะกับเขา หน้าที่ของค่ายคือทำงานให้มีคาแรกเตอร์ให้คนจำได้”

ด้วยบุคลิกการแต่งตัวดูแล้วเป็นแฟชั่นตัวยง แต่เอกบอกว่าไม่ได้เป็นคนที่ยึดติดกับแฟชั่นเลย แม้จะมีธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้าที่เข้าหุ้นกับบรรดาเพื่อนรักด้วยก็ตาม เขากลับมองว่าคนมีสไตล์ไม่จำเป็นต้องเป็นคนแฟชั่น แต่ต้องเป็นคนที่มีบุคลิกที่สามารถทำให้คนอื่นจดจำได้

“เอกชอบแต่งตัวสไตล์วินเทจ ถ้าเข้าร้านที่เป็นวินเทจจะเสียเงินมากกว่าปกติ ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า แว่นตา รักมาก คือถ้าชอบเห็นปุ๊บก็ซื้อเลย ส่วนแบรนด์โวลฟ์ไคนด์ (Wolfkind) ที่ทำตอนนี้รวมหุ้นกัน 3 คน คอนเซปต์ของแบรนด์คือ เราแค่ต้องการเห็นงานศิลปะไปอยู่บนเสื้อผ้า หน้าที่หลักของเอกคือทำเรื่องแบรนดิง ว่าแบรนด์เราจะไปในทิศทางไหน ตกแต่งร้านอย่างไร มาร์เก็ตติง พีอาร์จะตกอยู่ที่เอกหมดเลยครับ

ตัวเอกไม่ได้แฟชั่นมาก ไม่ได้เป็นคนที่อินไปกับแฟชั่นตลอดเวลา แต่จะเน้นการจัดการใหม่ เอาเรื่องของแฟชั่นมาเป็นไดเรกชันในการทำงานมากกว่า

คนมีสไตล์ในความคิดของเอกคือคนที่เรามองเห็นแล้วรู้สึกว่าเขาไม่เหมือนใคร เป็นคนที่ใส่ของไม่มีแบรนด์แล้วจะเปรี้ยวมาก เอกรู้สึกว่าที่เราเห็นแล้วรู้ว่านี่คือตัวเขานั่นคือสไตล์ ไม่ว่าจะใส่เสื้อเชิ้ตธรรมดา ใส่หมวกด้วยก็เปรี้ยวได้ ดูแพงได้ คนมีสไตล์น่าจะเป็นแบบนั้น วันที่คนเห็นเราและพูดว่านี่คือสไตล์เรา แสดงว่าเราเป็นคนมีสไตล์แล้ว แต่ต้องเป็นสไตล์ที่ดี ไม่ใช่สไตล์ที่ล้อกัน (หัวเราะ) แบบ อุ้ย โบว์ใหญ่ หรืออุ้ย สีนั้นสีนี้”

แม้ว่าเขาจะอยู่ในสิ่งแวดล้อมของโลก แต่เอกก็ยังเลือกสรรเสพและก้าวไปพร้อมกับโลกตามแบบฉบับของเขาเอง

ชิ้นเก๋ของ ‘เอก’

“กระเป๋าอเล็กซานเดอร์ แวง” เป็นคนที่ชอบแบรนด์นี้มากที่สุด รู้สึกว่าเป็นแบรนด์ที่เรียบดูดี เอกชอบความเป็นมินิมอล แบรนด์นี้ทำเครื่องหนังสวย เอกเป็นคนบ้าหอบของมาก ใบนี้มันเป็นใบใหญ่ เห็นก็ซื้อเลย

“เนกไทของวิเวียน เวสต์วูด” เป็นแบรนด์ที่น้องสาวซื้อให้ และด้วยความที่เป็นแบรนด์ที่เอกรัก เคยเจอดีไซเนอร์คนนี้ด้วย รู้สึกว่าเป็นเนกไทที่ใส่แล้วดูไม่แก่ และเป็นหนึ่งในชิ้นของวิเวียน เวสต์วูด ที่ดูไม่แรงเกินไป

“แว่นตา บัลแมง” จริงๆ เป็นคนสะสมแว่น มีเป็นร้อยเลยจริงๆ แว่นอันนี้เป็นแบรนด์ที่เอกชอบ แต่ไม่ซื้อสินค้าเขา เพราะว่ามันแพงมากจนกระทั่งพอไปลองอันนี้ก็ตัดใจซื้อของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง เอกจะเป็นคนใส่แว่นทุกวัน ไม่ว่าจะขับรถหรืออารมณ์ไหน”

“บอยย์ แบ็ก” สนิทกับดีไซเนอร์และชอบงานของเขาอยู่แล้ว คือเมื่อก่อนเขาจะทำแต่กระเป๋าผู้หญิง เราใช้ไม่เคยได้เลยจนกระทั่งวันหนึ่ง บอยวรรณศิริ คงมั่น บอกว่ามีรุ่นหนึ่งที่เป็นทรงผู้ชาย ส่งรูปมาให้เราดูก็ซื้อเลย เอกชอบกระเป๋าที่สะพายไหล่ได้ ทุกอย่างฟังก์ชันมันดีมาก ทนมาก วางกับพื้น โดนน้ำหนังก็ไม่ลอก

“สร้อยข้อมือ โวลฟ์ไคนด์” เป็นคนชอบใส่แอกเซสซอรีมาก รักการใส่แว่น ใส่สร้อยข้อมือ จนสยามเซ็นเตอร์จะเปิดเราก็มาคิดกันว่าควรมีไอเทมนี้ขึ้นมาเป็นลิมิเต็ด มีทั้งสีทองและสีเงิน และเอกก็ใส่มาตลอดครับ