posttoday

อนัฆ นวราช หนุ่มมาดเซอร์แต่ดูดีมีสไตล์

05 ธันวาคม 2555

เซเลบริตีหนุ่มทายาท สามพราน ริเวอร์ไซด์ และช่างภาพอิสระ อนัฆ นวราช วัย 31 ปี

เซเลบริตีหนุ่มทายาท สามพราน ริเวอร์ไซด์ และช่างภาพอิสระ อนัฆ นวราช วัย 31 ปี

โดย...วราภรณ์

เซเลบริตีหนุ่มทายาท สามพราน ริเวอร์ไซด์ และช่างภาพอิสระ อนัฆ นวราช วัย 31 ปี ที่มีฝีมือด้านการถ่ายภาพโดดเด่นไม่แพ้ตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ที่ดูแลด้านการบริหารและการจัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ทั้งหมด

อนัฆเคยไปทำงานเป็นผู้ช่วยช่างภาพมืออาชีพ คริสเตียน วิตคิน ที่มหานครนิวยอร์กมาแล้ว ภาพแนวที่อนัฆถนัดคือภาพเชิงสารคดีและการท่องเที่ยวบอกเล่าเรื่องราว เขาจึงได้รับคัดเลือกจาก จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวของประเทศไทยจากอดีตสู่ปัจจุบัน โดยเขาได้ทำงานร่วมกับอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ นักโบราณคดีและผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์วัฒนธรรม ถ่ายทอดเรื่องราวเป็นตัวหนังสือประกอบกับภาพถ่ายบอกเล่าเรื่องราวความผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมไทยและจีนที่มีความผูกพันกันมายาวนาน บันทึกลงในหนังสือ “Around The World” เพื่อร่วมฉลองการเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แคมเปญยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคภายใต้ชื่อ “จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แอนด์ ซันส์ โวยาจเจอร์”

แคมเปญนี้ได้เปิดตัวพร้อมกันใน 8 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก เป็นการนำประวัติศาสตร์ ความพิถีพิถันที่เป็นที่สุดของแบรนด์มาบอกเล่าผ่านการเดินทางครั้งสำคัญของเรือยอชต์สุดหรู โดยเริ่มต้นเส้นทางที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ล่องมาเรื่อยๆ ผ่านเวียดนาม ฯลฯ และมีกำหนดจะมาถึงเมืองไทย และจะจอดเทียบท่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้

“หนังสือภาพเล่มนี้ถือเป็นการโปรโมตเมืองไทย พอผมได้โจทย์มาก็เริ่มตีโจทย์ให้แตก คือหาจุดศูนย์รวมของประเทศไทยให้ได้ นั่นคือกรุงเทพฯ สถานที่สำคัญๆ ของกรุงเทพฯ คือเยาวราชซึ่งมีวัดจีนที่มีความสวยงามทั้งตัวอาคารและวัฒนธรรม แล้วก็มีวัดไทยตั้งอยู่ข้างๆ เป็นความงดงามต่างชาติต่างภาษาที่พอมารวมกันแล้วเกิดความสวยงาม ผมคิดว่างานนี้ยากกว่างานธรรมดา เพราะต้องสื่อถึงข้อความบางอย่างด้วย ซึ่งผมจากเมืองไทยไปนานกว่า 10 ปีและเพิ่งกลับมาอยู่เมืองไทยเพียง 3 ปีเท่านั้น จึงต้องขอคำแนะนำจากอาจารย์เผ่าทองเยอะมาก เพราะเราต้องทำงานร่วมกันจนสำเร็จเป็นหนังสือบอกเล่าเรื่องราวความงดงามของเมืองไทยตามแบบฉบับของครอบครัววอล์กเกอร์ ที่รักการเดินทางและการผจญภัยด้วยเรือ”

งานชิ้นนี้ใช้เวลานาน 2 เดือน จึงได้ออกมาเป็นผลงานถ่ายทอดฝีมือด้านการถ่ายภาพของอนัฆซึ่งเต็มไปด้วยความท้าทาย เพราะด้วยไปศึกษาอยู่ประเทศอังกฤษตั้งแต่อายุ 10 ขวบและศึกษาจบด้านรัฐศาสตร์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากประเทศอังกฤษ แต่ด้วยความชอบถ่ายภาพ เขาจึงไปทำงานด้านการถ่ายภาพที่นิวยอร์กเมืองแห่งศิลปะ และศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านการถ่ายภาพที่สถาบันแพรตต์ สหรัฐ เพื่อนำความรู้มาสอนนักศึกษาด้านการถ่ายภาพอีกต่อหนึ่ง

ปัจจุบันเขาจึงสวมหมวกอีกใบด้วยการเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ด้วยผลงานด้านการถ่ายอื่นๆ ฝีมืออนัฆเป็นที่ยอมรับ โดยเขาได้รับเลือกจากพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้มาบันทึกภาพชีวิตและการทำงานของช่างทอผ้าใน 4 ภูมิภาคของประเทศไทย ที่ทำงานอยู่ภายใต้พระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยผลงานภาพถ่ายจากการบันทึกภาพต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปีเต็มของอนัฆได้รับการนำมาจัดแสดงเป็นนิทรรศการภาพถ่ายในวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา

ด้วยการทำงานที่ต้องใช้ความคล่องตัวสูง ไลฟ์สไตล์ด้านการแต่งตัวของช่างภาพมืออาชีพมาดเซอร์ แต่ดูดีมีคาแรกเตอร์ด้วยเสื้อผ้าที่เรียบง่าย ซึ่งเป็นแบบที่เขาชอบ คือเสื้อยืดเนื้อดีคัตติงเนี้ยบสวมเข้ากับกางเกงยีนส์ก็ออกจากบ้านได้แล้ว

“สไตล์การแต่งตัวของผม ผมชอบอะไรที่มีดีไซน์แต่เป็นอะไรที่เรียบๆ เพื่อนๆ มักแซวว่าผมแต่งตัวยูนิฟอร์มมาก คือแต่งตัวออกจากบ้านก็เหมือนๆ กันในทุกๆ วัน ผมไม่ชอบเสื้อผ้าสีฉูดฉาด แม้ผมเคยไปอยู่นิวยอร์กที่เป็นนครแห่งแฟชั่น แต่ผมก็ยังอินกับสีเทาดำ สีพื้นๆ ตัดเย็บเรียบๆ ไม่ต้องมีดีเทลมาก แต่ไปงานสังคมผมเลือกสวมสูทเพื่อความเหมาะสม อย่างเสื้อเชิ้ตที่สะท้อนสไตล์ของผมมากที่สุดของปราดา ชอบทั้งสีสันและคัตติง จริงๆ ไม่ได้แคร์ยี่ห้อถ้าเห็นแล้วชอบก็ซื้อ จริงๆ ของแพงไม่ต้องดีเสมอไป ผมเลือกจากสีและแบบที่ชอบมากกว่า อย่างกางเกงยีนส์ที่ผมใส่ก็ยี่ห้อยูนิโคลตัดเย็บดีเหมาะกับผม ผมก็โอเคแล้วครับ ”