พ่อมือใหม่...หัวใจทุ่มเท

ปีนี้คุณพ่อคนดังทั้งฝั่งสังคมและดาราเรียงแถวเป็นคุณพ่อป้ายแดงกันเพียบ ฉกตัวมาคุยได้ 2 หล่อ

โดย...ซามูไรพ่อลูกอ่อน

ปีนี้คุณพ่อคนดังทั้งฝั่งสังคมและดาราเรียงแถวเป็นคุณพ่อป้ายแดงกันเพียบ ฉกตัวมาคุยได้ 2 หล่อ “คุณภิ-ม.ล.อภิมงคล โสณกุล” และ “มอส-ปฏิภาณ ปฐวีกานต์” มาฟังกันว่าพลังหัวใจของพ่อมีเต็มเปี่ยมแค่ไหน แถมท้าย “สงกรานต์ เตชะณรงค์” จะชวน แอฟ...มีโซ่ทองคล้องใจเมื่อไหร่ดี

‘นพมงคล’ หัวแก้วหัวแหวนของ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล

นับตั้งแต่มีลูกชายวัยเกือบขวบร่วมกับภรรยา ดาราและพิธีกรคนสวย นาเดีย สกุลเดิม นิมิตรวานิช เรียกว่า ชีวิต ม.ล.อภิมงคล ก็ไม่เหมือนเดิม จะเรียกว่าเห่อลูกคนแรก หรือทุ่มเทพลังงานเพื่อช่วยแบ่งเบาภรรยา ก็เห็นจะไม่ผิดไปจากความหมาย ประสาคุณพ่อป้ายแดง

“เราตั้งชื่อเขาว่า นพมงคล เนื่องจากเขาเกิดในวันจันทร์ที่ 9 ม.ค. ได้ความหมายรวมว่าเป็นมงคล 9 ประการ

ธรรมชาติของเขาเป็นคนร่าเริง ค่อนข้างซน เป็นเด็กแรงเยอะ มีกิจกรรมเยอะ เราเลยต้องวิ่งตามสักหน่อย เพราะตอนนี้เขาคลานได้แล้ว อีกหน่อยพอยืนหรือเดินได้ก็คงต้องหนักขึ้นอีก

 

หลังจากมี นพมงคล คุณนาเดียต้องพักงานแสดงไปครับ แต่เราแบ่งหน้าที่ช่วยกันดูแลลูก เป็นธรรมดาที่อาจจะห่างหายจากเพื่อนฝูงไปเลย เพราะเลิกงานปุ๊บก็ต้องกลับมาช่วยเลี้ยงลูก ตื่นอีกทีก็ตี 5 หรือ 6 โมง ตั้งแต่มีเขาก็ตื่นเช้าขึ้น หลายอย่างก็ช่วยกัน อย่างล้างขวดนม อยู่เป็นเพื่อนเล่น เพราะเขายังเล็ก ต้องมีเวลาเล่นกับเขาตลอด

10 กว่าเดือนที่ผ่านมายังไม่มีวีรกรรมแสบซ่าอะไรมาก เพียงแต่จะซนธรรมดาทั่วไป ถ้าใครได้พบหลังๆ จะสังเกตว่านพหัวปูดตลอด (หัวเราะ) เพราะเขาเอาหัวฟาดกำแพงบ่อยตอนคลาน รวมๆ แล้วเป็นเด็กทำกิจกรรมเก่ง เราพาเขาไปว่ายน้ำและยิมนาสติกเด็กเล็ก ถือว่าเป็นเด็กค่อนข้างเล็กที่มั่นใจสูงและใช้เวลาไม่นาน ตรงนี้ครูฝึกชมมากครับ

ในเรื่องอื่นๆ เขาก็มีสุขภาพแข็งแรง แต่ตามธรรมดาของชีวิตพ่อแม่ช่วงเดือนแรกๆ หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาล ตั้งแต่แรกสุด ยังไม่ทราบว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง เครื่องไม้เครื่องมือ จึงเตรียมได้ระดับหนึ่ง เขาก็ไม่ชินกับสถานที่ มาวันแรกๆ ผมกับนาเดียนี่นั่งทะเลาะกันเลย เวลาเขาร้อง คนหนึ่งบอกหิว ร้อน หนาว อิ่ม อะไรก็ตาม เพราะเรายังไม่ทราบแน่ ทุกวันนี้ถือว่ายังเหนื่อยอยู่ เพราะเขาเพิ่งคลานได้ อีกหน่อยจะยืนได้ ยิ่งถ้าวิ่งได้ยิ่งต้องตามกันใหญ่ ก็ต้องเรียนรู้กันตลอดครับ

พอมีลูกเราก็ได้ทราบหลายอย่างว่ากว่าเราจะโตมา พ่อแม่ให้อะไรเราเยอะ ได้มาเป็นพ่อเอง คำว่ารู้ ช่างต่างจากรู้สึก เรารู้สึกแล้วว่าพ่อให้เราจริงๆ เพราะการเป็นพ่อต้องให้ทั้งเวลา ให้ใจ ให้ทุกอย่างครับ

สำหรับอนาคตของเขา ความจริงไม่มีรูปแบบใดชัดเจน ผมจะปล่อยให้เขาเป็นตัวของตัวเอง ถ้าเขามั่นใจจะปล่อยให้เขาทำอย่างที่อยากทำ เพราะพ่อแม่ผมก็ปล่อย ไม่ต้องดูแลมาก เป็นวิธีที่ทำให้เขาคิดเองได้

คิดว่าอีกสักพักจะต้องตัดสินใจเรื่องเรียนระดับชั้นอนุบาลและประถม วางแผนไว้ยาวๆ ว่าจะส่งไปที่แฮร์โรว์ ประเทศอังกฤษ เหมือนที่ผมและคุณพ่อเรียน แต่ช่วงยังเล็กจะส่งไปไหน ยังเร็วไปนิด เรามองเห็นเขาโตขึ้นทุกวัน ฉะนั้นเราใช้เวลาตอนนี้ให้คุ้ม

ที่ว่าลูกคือโซ่ทองคล้องใจนั้นย่อมจริงอยู่แล้วครับ เมื่อมีลูกมาอยู่ด้วยทุกอย่างในบ้านสมบูรณ์มากขึ้น เวลามีงานหรือต้องไปทำส่วนตัวกัน อาจจะแวบได้นิดหน่อย อาจมีนานๆ ไปรับประทานข้าวกับเพื่อนบ้าง ฝากลูกไว้ที่บ้านแม่ผม แต่ไปได้ไม่นาน ใจจะกังวล รีบกลับ ถึงแม้จะมีพี่เลี้ยงช่วยบ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วนาเดียจะดูแลลูกด้วยตัวเองหมด เป็นความโชคดีด้วยที่นาเดียตั้งใจตั้งแต่ต้น เขาเคยบอกผมตั้งแต่ตอนก่อนแต่งว่า ถ้าไม่อยากมีลูก...เขาไม่แต่งนะ (หัวเราะ)

 

เรื่องจะมีกี่คน ผมเองน่ะอยากมีคนเดียว แต่นาเดียอยากมี 3 คน พอบวกลบคูณหารแล้วก็คิดว่า อาจจะมี 2 คนก็ได้ ต้องดูกันอีกที

ผมคิดว่าการเป็นพ่อคนน่ะครับ สิ่งสำคัญต้องให้เวลา เอาใจใส่กับลูก ในฐานะคนทำงาน บางคนอาจจะให้งานมีความสำคัญมาก แต่ทั้งลูกและครอบครัวก็มีความสำคัญไม่น้อยเลย ด้านงานการเมืองผมอาจจะน้อยลง เพราะต้องให้ครอบครัวมาก จากวันนี้เราไม่มีวันที่จะถอยเวลากลับไป ... ฉะนั้นต้องทำให้ดีที่สุดครับ”

‘โสนน้อย’ จอมแก่นของปฏิภาณ ปฐวีกานต์

นักร้อง นักแสดง หนุ่มเท่แรงไม่มีตก หลังจากแต่งงานกับภรรยา เกม ดวงพร สกุลเดิม ลือกิตินันท์ ได้เกือบปี ก็มีพยานรักคนแรกเป็นลูกสาวแก้มป่อง น่ารักน่าชัง จนถึงวันนี้ กับวัย 9 เดือน กำลังสร้างสีสันให้ครอบครัวปฐวีกานต์ขึ้นทุกวันๆ

“ยอมรับเลยว่านับตั้งแต่ภรรยาตั้งครรภ์ ตั้งแต่ชื่อเด็กผู้ชายไว้อย่างเดียว พอหลังอัลตราซาวด์แล้วทราบว่าเป็นเพศหญิง ก็เลยลองมองหาหลายชื่อ ลูกสาวผมชื่อจริงชื่อ ‘สิสราญ’ แปลว่ามีความสุขที่สุด ให้ชื่อเล่นว่า ‘น้องโสน’ เนื่องจากพี่สาวผมมีลูกชื่อ ‘ชบา’ ผมเลยคิดว่าเราน่าจะมีชื่อลูกเป็นดอกไม้เหมือนๆ กัน ส่วนตัวเป็นคนชอบชื่อ 2 พยางค์ และมีรายละเอียดอีกว่า ต้องเป็น 2 พยางค์ที่แต่ละพยางค์ไม่สามารถแยกเรียกอันไหนอันหนึ่งเท่านั้นได้ จะมา ‘สะ’ หรือ ‘โหน’ ก็ไม่ได้ ยังไม่หมดครับ (หัวเราะ) ต้องเป็นชื่อที่ฟังดูแก่นๆ แปลงเป็นภาษาอังกฤษแล้วฟังดูไม่แย่ เลยได้เป็น ‘โสน’

ธรรมชาติของเขาเป็นเด็กยิ้มเก่ง ไม่ค่อยกลัวคน จะให้ใครอุ้มก็ได้ ยิ่งไปข้างนอกแล้วผู้คนรู้จักหมดครับ เพราะไม่งอแง ไม่ใช่ขนาดซนอยู่ไม่สุข แต่ก็ไม่ได้นิ่งซะทีเดียว มองหน้าเขาโดยรวมคิ้วเหมือนผม แต่ผิวสวยเหมือนแม่ เรื่องนิสัยอาจยังไม่ค่อยชัดเจนตอนนี้ครับ

โดยปกติผมจะเปิดเพลงแจ๊ซให้ฟัง มีเพลงหลายเพลงเปิดไปเรื่อยๆ วันหนึ่งเพลงเปิดไล่ๆ กันไปแล้วคังนัมสไตล์ก็ขึ้นมา พอเปลี่ยนเป็นเพลงเร็วปุ๊บ เขาก็เต้นใหญ่เลยครับ นั่นครั้งแรกที่ได้ยินนะ ก็น่าจะมาจากธรรมชาติเขาเอง

ตั้งแต่มีเขาผมก็ทำการบ้านเยอะ หน้าที่ปฏิบัติที่ผมทำให้กับเขาคืออาบน้ำ ป้อนข้าว และดูแลด้านกายภาพทั่วไป อย่าง นวดตัว นวดขา จับตัวโค้งงอ ยืดเส้น เป็นแบบยิมนาสติกเบื้องต้น ส่วนทางภรรยาก็อ่านหนังสือให้ฟัง ให้นม อย่างการอ่านทำให้เขามีสมาธิดีครับ

วีรกรรมตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาที่กำลังจะดูเป็นปัญหา คือ เขาเป็นเด็กละเมอระหว่างคืน ตื่นขึ้นมานั่งสักพักแล้วนอนต่อ และมีกลิ้งไปทั่วเตียงด้วย ฉะนั้นเตียงเลยต้องมีที่กั้น ตรงนี้ผมก็ไม่ได้ปรึกษาหมอเป็นพิเศษ เพราะตราบใดที่เป็นเรื่องที่ไม่ได้ร้ายแรงหรืออันตรายต่อร่างกายก็ปล่อยไป

ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าลูกทำให้เราเข้าใจพ่อแม่ที่เลี้ยงเรามานั้น มอสก็ว่าจริง เพราะเราเลี้ยงเขา เราผูกพัน คอยดูเขาทุกวันว่าจะเติบโตยังไง มันเป็นความสุขใจที่สุด ตอนนี้ยังไม่แพลนว่าจะมีอีกคนเมื่อไหร่ อยากดูให้โสนผ่านวัยที่ยังไม่รู้เรื่องไปก่อน ถ้าเขาโตอีกสักหน่อยจะได้ช่วยดูแลน้องด้วยครับ

ในเรื่องการเรียน ผมคงมองหาโรงเรียนที่ใกล้ที่สุด เขาจะได้ไม่ต้องตื่นเช้า เลิกเรียนก็มีเวลาเล่นเยอะหน่อย ไม่ต้องเดินทางไกล อนาคตเขาจะเป็นอะไรก็ได้ ผมไม่ซีเรียส ดูความสามารถและทักษะของเขากันอีกครั้ง

ผมว่ายิ่งมีลูกทำให้ครอบครัวยิ่งผูกพันขึ้น เป็นโซ่ทองคล้องใจอย่างที่คนเขาว่ากัน แม้ว่าตอนนี้ภรรยาจะทำงานธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ส่วนผมก็ทำงานบันเทิง แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่รับเยอะ เราก็แบ่งเวลากันให้ดีที่สุด ยอมรับว่าชีวิตส่วนตัวมันไม่ใช่จะสะดวกสบายเหมือนที่เราไม่มีลูก เราต้องกลับไปทำหน้าที่ แบ่งเบาภรรยาในบางส่วน ตอนนี้เลยมีปัญหาเรื่องนอนไม่ค่อยพอ (หัวเราะ) ผมก็หาเวลานอนเป็นช่วงๆ เพราะช่วงลูก 9 เดือน ผมว่าเป็นช่วงพีกมาก

ถ้าจะให้แนะนำคนที่กำลังสร้างครอบครัว ผมว่าลูกของเราก็อยู่ที่เราเลี้ยงนี่แหละ เราจะทำให้เขาออกมาเป็นอย่างไร เขาเป็นชีวิตของเรา แม้ว่าจะมีสุขกับทุกข์มาพร้อมกัน ถ้าเราเข้าใจ...เราก็ทำได้หมดเพื่อเขาครับ”

&<2288;

&<2288;