posttoday

เทรนด์แฟชั่นและบิวตี้ ณ เกาหลี 2013 (เรื่องไม่ลับ ฉบับ บก.)

03 ธันวาคม 2555

“ใครๆ ก็อยากสวยอยากงาม” คุณว่าจริงไหม?

 “ใครๆ ก็อยากสวยอยากงาม” คุณว่าจริงไหม?

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร+เค้ก ณัฐกานต์

 “ใครๆ ก็อยากสวยอยากงาม” คุณว่าจริงไหม?

ยิ่งมีคนมาเผยเคล็ดลับความสวยความงาม หรือแฟชั่นที่กำลังมาแรง รับรองว่าคนรักสวยรักงามต้องหูผึ่ง ตาลุกวาว เพราะไม่อยากตกเทรนด์เป็นแน่ และถ้าผมจะบอกคุณว่า คนที่มาเผยเคล็ดลับความสวยความงาม รวมทั้งเทรนด์ของแฟชั่นนั้น เป็นถึงระดับบรรณาธิการนิตยสาร CeCi นิตยสารผู้หญิงอันดับหนึ่งของประเทศเกาหลี ที่ครองความนิยมมาอย่างยาวนานถึง 18 ปี คงรู้แล้วใช่มั้ยว่า ถ้าคุณพลาดบทสนทนาในครั้งนี้ วันพรุ่งนี้จะคุยกับใครไม่รู้เรื่อง!

บ่ายวันจันทร์วันหนึ่ง

ผมมีนัดกับ “คิมอึนจอง” บรรณาธิการนิตยสารเซซี่ เกาหลี ที่มาพร้อมกับ “ตวงทิพย์ ณ นคร” บรรณาธิการนิตยสารเซซี่ ไทยแลนด์ (ที่เพิ่งเปิดตัวและวางขายไปเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา) ณ สถานที่แห่งหนึ่งใจกลางกรุง หลังจากพบเจอและทักทายกันพอหอมปากหอมคอ ทั้งสองยิ้มต้อนรับผมอย่างเป็นกันเอง แต่ผมกลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นเหมือนกำลังจะบอกผมว่า “วันนี้ฉันมีอะไรดีๆ เด็ดๆ จะมาบอก”

เทรนด์แฟชั่นและบิวตี้ ณ เกาหลี 2013 (เรื่องไม่ลับ ฉบับ บก.)

 

เอาละสิ ยิ้มแบบมีนัยแบบนี้ สงสัยของดีของเด็ดที่แฝงมากับรอยยิ้มนั้น ต้องเป็นเคล็ดลับความสวยความงาม หรือเทรนด์บิวตี้ ปี 2013 เป็นแน่

และแล้ว...ผมก็เดาไม่ผิด!

คิมอึนจอง บอกว่า ตอนนี้ผู้หญิงเกาหลีนิยมแต่งหน้าแบบเบบี้เฟส และเทรนด์นี้ยังอยู่ได้ยาวนานตลอดทั้งปี 2013

“ใช่ค่ะ ตอนนี้สาวๆ ที่เกาหลีนิยมแต่งหน้าแบบเบบี้เฟส แต่งหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ ไม่เยอะ ไม่หนักจนเกินไป ประมาณว่าแต่งหน้าให้เหมือนไม่แต่งค่ะ แต่ถ้าวันไหนสาวๆ ต้องออกไปปาร์ตี้ยามค่ำคืน วิธีการแต่งตาแบบสโมกกี้อายส์ หรือเขียนตาแบบแคตอายส์จะเวิร์กมาก เพราะมันกำลังได้รับความนิยมที่เกาหลี”

ตวงทิพย์เห็นด้วยกับเทรนด์แต่งหน้าให้เหมือนไม่แต่ง เพราะความเป็นธรรมชาติของผู้หญิงคือ ความสดใส ความเยาว์วัย จับต้องได้ และมีเสน่ห์ชวนมอง

สำหรับเทรนด์ใหม่ของแฟชั่น การใส่สร้อยข้อมือเยอะๆ กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ฮิตทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

เทรนด์แฟชั่นและบิวตี้ ณ เกาหลี 2013 (เรื่องไม่ลับ ฉบับ บก.)

 

“คงเป็นเพราะที่เกาหลีมีร้านค้าขายอุปกรณ์สำหรับงานแฮนด์เมดมากมาย และร้านที่ขายสร้อยข้อมือแบบสำเร็จรูปก็มีเยอะไม่แพ้กัน”

คิมอึนจอง บอกว่า การทำสร้อยข้อมือนั้นมีแบบให้เขียนชื่อตัวเองลงไปได้ด้วย บางคนก็ครีเอตด้วยการใส่รวมกับนาฬิกาก็ดูเก๋ไปอีกแบบ

“ลองดูที่ข้อมือฉันสิคะ วันนี้ฉันก็ใส่สร้อยข้อมือให้ดูเข้ากับชุดที่ฉันใส่มา เป็นไงคะ เก๋มั้ย (หัวเราะ)”

หลังจากคิมอึนจองเชื้อชวนให้ดูเทรนด์แฟชั่นที่กำลังมาแรงในเกาหลี จากข้อมือของเธอ ผมแอบยอมรับในใจว่า ก็ดูเก๋ดี (ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่าง) หรือเป็นเพราะการที่บรรณาธิการพยายามบอกสาวๆ ว่าเทรนด์แฟชั่นนี้จะทำให้ผู้หญิงสวยและเก๋ขึ้นอีกเป็นกอง เลยได้รับความนิยม

เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2013 สิ่งหนึ่งที่ผมสัมผัสได้คือ ผู้ชายหันมาให้ความสนใจกับเรื่องความสวยความงามหรือแฟชั่นมากขึ้น บรรณาธิการทั้งสองท่านต่างเห็นพ้องต้องกันว่า นี่คือยุคสมัยของการที่ผู้ชายดูดีและมีความเป็นแฟชั่นมากขึ้นกว่าเดิม

“เรารู้สึกว่าพลังที่ทำให้ผู้ชายเกาหลีดูดีขึ้น สนใจแฟชั่นมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากนิตยสารเกาหลีที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ชายมากขึ้นด้วย และศิลปินเกาหลีแต่ละกลุ่มก็มีความเท่ตามแบบฉบับเฉพาะตัว นี่ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายในประเทศเกาหลีมีแรงจูงใจในการดูแลเอาใส่ใจตัวเอง และหันมาให้ความสนใจในเรื่องของแฟชั่นมากขึ้น”

เทรนด์แฟชั่นและบิวตี้ ณ เกาหลี 2013 (เรื่องไม่ลับ ฉบับ บก.)

 

ตวงทิพย์ เสริมว่า สำหรับในเมืองไทยนั้นผู้ชายที่สนใจเรื่องความสวยความงามและแฟชั่นก็มีอยู่มาก แต่จะเยอะเทียบเท่าประเทศเกาหลีนั้นคงยังไม่ใช่ “ถ้าถามว่าเป็นไปได้มั้ยที่ผู้ชายไทยจะหันมาให้ความสนใจเรื่องความสวยความงามและแฟชั่นแบบผู้ชายเกาหลี เชื่อว่าเป็นไปได้ค่ะ เพราะว่าคนเราย่อมอยากจะทำให้ตัวเองดูดีอยู่แล้ว”

ด้วยความอยากรู้ว่า ใครกันหนอคือซุป’ตาร์เกาหลีที่เป็นผู้นำเทรนด์และมีอิทธิพลในเรื่องความสวยความงามและแฟชั่นต่อหนุ่มๆ สาวๆ ชาวเกาหลี (ซึ่งก็มีอิทธิพลกับหนุ่มๆ สาวๆ ชาวไทยไปพร้อมๆ กันด้วย) คิมอึนจอง ยิ้มกว้างก่อนเผยว่า ผู้นำเทรนด์ของเกาหลีตอนนี้จะระบุเป็นคนคนไปไม่ได้ แต่ถ้าเป็นกลุ่มนั้น บิ๊กแบง มาเป็นอันดับหนึ่ง

“ดงบังชินกิก็ใช่ค่ะ ชายนี่ ซูเปอร์จูเนียร์ ก็เป็นผู้นำเทรนด์ ศิลปินหญิงนี่ต้อง เกิร์ลเจนเนอเรชั่น หรือทูเอนี่วัน”

ผมแซวว่า ซูเปอร์จูเนียร์นี่คงนำเทรนด์ไปตลอดกาล คิมอึนจอง หัวเราะคล้ายจะตอบรับว่า สิ่งที่คุณพูดน่ะ ถูกต้องที่สุดแล้ว

“ถ้าถามว่าในกลุ่มของนักแสดง ใครเป็นผู้นำเทรนด์บ้าง ต้องนี่เลยค่ะ จางกึนซอก ลีมินโฮ ฮยอนบิน คังดงวอน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเป็นนายแบบกันมาก่อน ก่อนที่จะมาเป็นนักแสดง แถมยังโด่งดังอย่างทุกวันนี้”

คิมอึนจอง ยังเผยอีกว่า ตอนนี้อุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีเฟื่องฟูและขจรขจายไปแทบจะทั่วทุกมุมโลก ความเฟื่องฟูนี้จึงส่งผลให้หนุ่มสาวเกาหลีมุ่งมั่นที่จะเข้ามา “เอดิชัน” เพื่อก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง

เทรนด์แฟชั่นและบิวตี้ ณ เกาหลี 2013 (เรื่องไม่ลับ ฉบับ บก.)

 

“ตอนนี้หนุ่มๆ สาวๆ เกาหลีกำลังอินมากในเรื่องของการเอดิชัน ถ้าเปิดช่องทีวีทางเกาหลีจะเห็นเลยว่าเด็กวัยรุ่นสนใจการเอดิชันมาก เพราะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะทำให้พวกเขาก้าวเข้ามาเป็นดารา นักร้อง อย่างนิตยสารเซซี่ก็มีโมเดลคอนเทสต์ ที่ผ่านมามีนักแสดงเกาหลีที่ได้เดบิวต์ผ่านทางเซซี่มากพอสมควร เราอยากให้โอกาสทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม สำหรับคนที่เคยเข้ามาเดบิวต์ ซึ่งปัจจุบันก็โด่งดังมากอย่าง ลิมซูจอง พรีเซนเตอร์แบรนด์บิวตี้ เอสเคทูก็เคยมาเดบิวต์กับเรา สำหรับผู้ที่ผ่านการเดบิวต์มา เราก็จะดูแลให้เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งในอนาคตอาจจะมีโมเดลคอนเทสต์ของประเทศเกาหลี จีน และไทยร่วมกัน”

คิมอึนจอง ยังแสดงทัศนะที่น่าสนใจไว้ว่า การเข้าเป็นดารานักร้องโดยผ่านการเอดิชันนั้นมันเป็นเส้นทางที่ไม่ฉาบฉวย เข้ามาในวงการบันเทิงยาก แต่เมื่อโด่งดังจะโด่งดังไปได้นาน ไม่ใช่เพียงชั่วครั้งชั่วคราว

“หนุ่มๆ สาวๆ เกาหลีจึงเลือกการเอดิชันเป็นช่องทางก้าวสู่วงการบันเทิง เพราะที่ผ่านมาผู้ที่โด่งดังที่สุดในประเทศเกาหลีก็คือผู้ที่ชนะการออดิชันเป็นอันดับหนึ่งนั่นเอง”

ตวงทิพย์ เสริมว่า ไม่ต่างจากประเทศไทยเลย “ตอนนี้ที่เมืองไทยบ้านเรามีรายการประกวดโดยผ่านการเอดิชันเยอะแยะมากมาย และความสนุกเร้าใจของรายการประเภทนี้ก็อยู่ที่ช่วงของการเอดิชันนี่แหละ”

เห็นได้ว่านอกจากหนุ่มสาวชาวเกาหลี (รวมทั้งหนุ่มสาวชาวไทย) จะสนใจในความเคลื่อนไหวและผลงานของศิลปินแล้ว เมื่อมีโอกาสพวกเขาก็ใช้พื้นที่ตรงนี้ในการเข้ามาคัดเลือกเป็นดารานักร้องอีกด้วยเช่นกัน

“คนเกาหลีเป็นคนที่รักเสียงดนตรีมาก ไม่ใช่เฉพาะเคป๊อปเท่านั้นนะคะ เขายังสนใจ แจ๊ซ ร็อก และแนวเพลงอื่นๆ อีกด้วย รวมทั้งเป็นคนที่ชื่นชอบการดูหนังมาก”

เทรนด์แฟชั่นและบิวตี้ ณ เกาหลี 2013 (เรื่องไม่ลับ ฉบับ บก.)

 

ตวงทิพย์ กระเซ้าว่า ไม่ใช่เฉพาะคนเกาหลี คนไทยก็ชอบดูหนัง ดูละคร โดยเฉพาะซีรีส์เกาหลี ใครดูแล้วไม่ติด หรือไม่อิน ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

ย้อนกลับไปที่เรื่องของความสวยความงามและแฟชั่นกันอีกครั้ง สิ่งที่ผมอยากรู้คือ เกาหลีสามารถเป็นผู้กำหนดเทรนด์ในเรื่องของบิวตี้และแฟชั่นไปทั่วโลกได้หรือไม่ คิมอึนจอง นิ่ง เงียบ ก่อนเผยอย่างอารมณ์ดี ภายใต้รอยยิ้มบางๆ ของเธอ

“สำหรับแฟชั่น เกาหลียังไม่ได้มองว่าจะเป็นผู้กำหนดเทรนด์แฟชั่นให้ลุกลามไปทั่วโลกขนาดนั้น เพราะแต่ละประเทศมีแฟชั่นและมีสไตล์ที่แตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความสวยความงามดูจะง่ายกว่า เพราะผู้หญิงมีความอยากสวยอยากงามกันอยู่แล้วทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ตรงมุมใดของโลก”

คิมอึนจอง แฉ เอ๊ย เล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า เรื่องความสวยความงามของเกาหลีนี่เป็นที่ยอมรับกันมาก “โดยเฉพาะคนจีนนิยมมาถ่ายภาพเวดดิงที่เกาหลี และจ้างช่างแต่งหน้าจากประเทศเกาหลีให้แต่งหน้าให้ในวันพิเศษของเขา เพราะเขาเห็นว่าคนเกาหลี หรือดารานักร้องเกาหลีนั้นสวยมาก นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาหลีก็เช่นกัน ต่างนิยมมาเข้าร้านเสริมสวย เพื่อตัดผมหรือแต่งสวยกันที่นี่ด้วย”

เมื่อผมถามไปยังบรรณาธิการสาวสวยทางฝั่งไทย ตวงทิพย์ให้ทัศนะไว้ว่า การรับเอาสิ่งที่ดีที่สวยงามของประเทศเกาหลีเข้ามาปรับใช้กับคนไทยนั้น มีความเป็นไปได้ แต่อาจจะไม่ถึงขั้นบินไปที่เกาหลี เพื่อลงมือปฏิบัติการเข้าร้านเสริมสวยของที่นั่น “ถึงมีก็อาจจะมีน้อย เพราะทัวร์ส่วนใหญ่ไม่ได้มีกิจกรรมด้านนี้ให้กับลูกทัวร์เท่าไรนัก นอกจากคนจัดทริปไปเอง”

ท้ายสุด ตวงทิพย์ฝากข้อคิดสำหรับหนุ่มสาวยุคใหม่ไว้ว่า ไม่ว่าเทรนด์แฟชั่นหรือความสวยความงามจะออกมาเป็นยังไง เราต้องพยายามมองหาสิ่งที่ดีที่สุดที่ทำให้เรามั่นใจในตัวเองมากที่สุด จงค้นหาสิ่งที่เหมาะสมกับเราเพื่อนำมาปรับใช้ ทำให้เราดูดีและมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น เราไม่จำเป็นต้องเลียนแบบใคร เพียงแต่รู้จักนำมาปรับใช้ให้ตรงกับตัวเรา เท่านี้พอ”

หลังจากตวงทิพย์พูดจบ ล่ามได้แปลให้คิมอึนจองฟัง เธอพยักหน้าเห็นด้วยทันที หรือว่าบรรณาธิการสาวสวยทั้งสองกำลังชี้นำให้คนรุ่นใหม่ รวมทั้งผมได้ตระหนักว่า“ความงาม"ที่แท้จริงและยั่งยืนที่สุด คือ สวยแบบเป็นตัวของตัวเอง” เอาเป็นว่า ไม่ว่าเทรนด์ปี 2013 จะเป็นอย่างไร หนุ่มๆ สาวๆ ทั้งหลายจงหล่อและสวยจากภายใน รวมทั้งเป็นตัวของตัวเอง เพราะนี่คือ“ความงาม”ที่จริงแท้และแน่นอน