posttoday

ศิลี ปสิทธิปราณี ความสนุกของชีวิต คือ การทำงานในสิ่งที่รัก

21 พฤศจิกายน 2555

เป็นทั้งเจ้าของและนางแบบพรีเซนต์เสื้อผ้าแบรนด์ Standing Room ศิลี ปสิทธิปราณี สาวลุคทันสมัย หวานๆ เปรี้ยวๆ

เป็นทั้งเจ้าของและนางแบบพรีเซนต์เสื้อผ้าแบรนด์ Standing Room ศิลี ปสิทธิปราณี สาวลุคทันสมัย หวานๆ เปรี้ยวๆ

โดย...ปอย ภาพ ณัฏฐ์ฐิติ อำไพวรรณ


กำลังตั้งอกตั้งใจสร้างธุรกิจบนเฟซบุ๊ก กับการสร้างสรรค์เสื้อผ้าแนวหวานแหววเรียบร้อย ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าแตกต่างจากบุคลิกของตัวเองอย่างสิ้นเชิง

ด้วยรูปแบบธุรกิจทำเสื้อผ้าขายบนเฟซบุ๊ก ถ้าถามถึงการแต่งกายของตัวเอง ศิลี อธิบายให้ฟังว่า กลายเป็นว่าจะต้องแต่งตัว 2 แบบ 2 สไตล์ไปโดยปริยาย สาวสวยหุ่นมินิต้องซ้อนมอเตอร์ไซค์ แบกกระสอบผ้าด้วยตัวเองเวลาไปซื้อผ้าในย่านพาหุรัด สำเพ็ง ซึ่งเป็นแหล่งซื้อขายผ้าของคนทำธุรกิจเสื้อผ้าใหญ่ที่สุด เสื้อยืดกางเกงขาสั้น ในสไตล์ทะมัดทะแมงจึงคล่องตัวดี อีกสไตล์การแต่งตัวในสไตล์ที่เป็นตัวเองอย่างที่เห็นในวันนี้ ศิลี เน้นว่า ไม่หวานมากๆ เรียบร้อยมากๆ อย่างสไตล์ของ Standing Room ที่กำลังขายดิบขายดี

“ดิฉันมองว่า ธุรกิจนี้จะเริ่มต้นในกลุ่มเพื่อนๆ กันก่อนนะคะ ซึ่งตัวเองก็เป็นแบบนั้นเลยค่ะ เพื่อนๆ เราทำธุรกิจขายส่งกันเยอะมาก ดิฉันจึงลองนำข้าวของแต่งตัวจากธุรกิจของเพื่อนๆ หลายๆ คนมาขาย แบบซื้อมาขายไปบนเฟซบุ๊ก แล้วลูกค้าก็จะมาเอง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ และเริ่มจับทางแฟชั่นได้ ก็ยิ่งขายดีค่ะ

ลูกค้าของเสื้อผ้าแบรนด์ Standing Room ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงทำงานกลุ่มคุณหมอเภสัชฯ กลุ่มนี้ค่ะที่จะชอบเดรส หรือชุดทำงานที่มีแขน และถ้าวัดความยาวจากไหล่ ควรมีความยาว 35 นิ้ว ซึ่งค่อนข้างเรียบร้อย และในท้องตลาดจะไม่ค่อยมีชุดความยาวขนาดนี้ ซึ่งดิฉันก็จะให้ลูกค้ากำหนดความยาวได้ด้วยโดยไม่คิดเงินเพิ่มด้วยค่ะ” ศิลี บอกพร้อมรอยยิ้มหวาน ก็กลายเป็นธุรกิจเสื้อผ้าเทลเลอร์ เมด ไปโดยปริยายด้วย

และกลายเป็นเสื้อผ้าแบรนด์คุณหมอไปอีกด้วย ศิลี วิเคราะห์ว่า นอกจากสไตล์เสื้อผ้าหวานเรียบร้อย การที่กลุ่มผู้หญิงทำงานในอาชีพนี้ไม่ค่อยมีเวลาช็อปปิ้ง ไม่มีเวลาปาร์ตี้พบปะเพื่อนฝูง สถานที่นัดพบปะพูดคุยได้ทุกๆ วัน ก็คือเฟซบุ๊ก แล้วสาวทำงานอาชีพนี้ก็เรียนมาเพื่อเป็นหมอ ซึ่งถ้าเทียบกับสาวนิเทศฯ ที่จะเลือกทำงานหลากหลายแบบ กลุ่มคุณหมอสาวสวยจึงกลายเป็นกลุ่มใหญ่ที่คบหากันเหนียวแน่น ตั้งแต่เรียนจนกระทั่งทำงานเลยทีเดียว

ศิลี ปสิทธิปราณี ความสนุกของชีวิต คือ การทำงานในสิ่งที่รัก

 

“แล้วคุณหมอก็กลายเป็นลูกค้าบนเฟซบุ๊กกลุ่มใหญ่เลยค่ะ แล้วเวลาคุณหมอคุยกันเรื่องเสื้อผ้าก็จะเห็นกันทั้งหมด จึงกลายเป็นเสื้อผ้าของเวิร์กกิงวูเมนกลุ่มนี้ไปเลยค่ะ ดิฉันขอออกตัวก่อนนะคะว่า ดิฉันไม่ใช่ดีไซเนอร์ ไม่ใช่เทรนเซตเตอร์ในเรื่องแฟชั่น แต่เห็นช่องทางในธุรกิจตรงนี้ ที่เสื้อผ้าในตลาดยังไม่ตอบสนองในเรื่องความยาว ทุกชุดต้องเรียบร้อยมีแขน แต่ถ้าคอลเลกชันที่ทำแขนกุด ดิฉันก็จะให้เขาออร์เดอร์แขนเสื้อในสไตล์ของแต่ละคนได้ด้วยค่ะ

เป็นวิธีทำงานที่ไม่ได้แสดงออกบอกตัวตนผ่านทางเสื้อผ้า ในแบบ “อินไซน์ เอาต์” แต่เป็นการทำตามความต้องการของลูกค้า “เอาต์ไซน์ อิน” เสื้อผ้าอาจดูเรียบร้อยนะคะ แต่สีสันสวยค่ะ อาจไม่ใช่ว่าฐานลูกค้าเราเรียบร้อย แต่ด้วยลักษณะงานต้องอยู่ในกรอบน่าเชื่อถือ”

นางแบบแบรนด์นี้ บนหน้าวอลล์ก็คือตัวเจ้าของแบรนด์ เวลาลูกค้าเจอตัวจริง เสียงจริง ก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ เพราะไม่ได้หวานสนิทอย่างที่เห็นบนเฟซบุ๊ก

“สไตล์ของดิฉันไม่ใส่มากมายหลายชิ้นค่ะ เสื้อแมตช์กับกระโปรงเท่านั้น ไม่เติมเสื้อคลุม กั๊ก อะไรอีกเพราะรูปร่างเราเล็ก เสื้อผ้าไม่เน้นแบรนด์ขอให้สวยก็พอแล้ว และถ้าไม่ใช่ผ้ายืด ก็ให้คุณแม่ตัดให้ เพราะคุณแม่เป็นช่างตัดเสื้อ ส่วนเวลาไปซื้อผ้าที่พาหุรัด เราก็ต้องใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ขาสั้นเลยค่ะ แต่ตอนนี้เริ่มออร์เดอร์ผ้ามาจากเมืองจีน หลายคนอาจแอนตี้สินค้าจีน แต่คุณภาพผ้าดีขึ้นเรื่อยๆ เลยค่ะ

ดิฉันไม่ได้เก่งในเรื่องเสื้อผ้า ความสนใจแฟชั่นก็ในขั้นธรรมดา อาจเป็นการเริ่มงานที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่เรารักเราชอบ แต่พอทำย่างเข้าสู่ปีที่ 2 ก็เริ่มรัก ชอบ และสนุกขึ้นเรื่อยๆ เลยค่ะ” ศิลี บอกทิ้งท้ายบุคลิกคล่องแคล่ว


ความสุข+สนุกในชีวิต

รองเท้า กระเป๋า แว่นตา 3 แอกเซสซอรีที่สำคัญมากของผู้หญิงเรานะคะ

ปากกาคิตตี สะสมมาตั้งแต่เรียนมัธยม ทำให้คิดถึงตอนสอบที่ต้องใช้ปากกาน่ารักๆ แมวคิกขุ แล้วกว่าจะได้แต่ละด้ามต้องเก็บเงินซื้อแท่งละ 200400 บาท กว่าจะได้แต่ละด้ามสมัยเด็กๆ ก็ต้องเก็บสตางค์ได้แค่ปีละ 1 ด้าม พอตอนโตขึ้นก็ซื้อเวลาจะเริ่มทำเสื้อผ้าแบรนด์ Standing Room คอลเลกชันใหม่ ก็จะซื้อให้ตัวเอง 1 ด้ามค่ะเพื่อเป็นกำลังใจว่าเราจะต้องสอบผ่านโจทย์นี้นะคะ

หนังสือ Standing Room ใช้เรียนปริญญาโทในสาขา Entertainment Management มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งอยู่ในสายตาตลอดเวลาตอนที่กำลังจะเปิดเสื้อผ้า ก็เลยคลิกได้ชื่อแบรนด์ Standing Room ทันใด ส่วนหนังสือธรรมะเริ่มชอบศึกษาเพราะคุณแม่ บวกกับเมื่อตอนอกหัก (หัวเราะ) ก็ยิ่งคลิกกับคำว่า “หาสุขได้จากทุกข์” ความผิดหวังจากความรักก็ยิ่งเข้าใจนะคะว่า ถ้าใครไม่อยากจมอยู่กับอะไรนานๆ หาอ่านวิธีได้จากหนังสือธรรมะเล่มนี้ ที่บอกว่า คนเรามีสุขแค่ ณ วินาทีที่ตัวเองกำลังมีความสุข แล้วถ้าอยากจะเป็นสุขมากกว่าเดิม ก็ทุกข์แล้ว ซึ่งถ้าเราเข้าใจคีย์เวิร์ดนี้ เราก็เข้าใจชีวิตมากขึ้นค่ะ