เกษรา วัชระกิติพงศ์ ทำทุกอย่างไม่ให้พลาด

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

ด้วยไซส์มินิและหน้าตาหวานๆ เปื้อนยิ้มตลอดเวลา ไม่น่าเชื่อว่า เกตุ-กษรา วัชระกิติพงศ์ จะเป็นหนึ่งในตัวจักรสำคัญที่อยู่เบื้องหลังบิ๊กอีเวนต์ใหญ่ๆ ของเมืองไทยมานับไม่ถ้วน ปัจจุบันเธอนั่งตำแหน่งรองผู้อำนวยการ บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ ทำหน้าที่ดูแลในฝ่ายโปรดักชันทั้งหมด หรือพูดง่ายๆ เธอคือผู้ตีความฝันของลูกค้าและครีเอทีฟให้เป็นจริงให้มากที่สุด แม้บางครั้งไอเดียที่ส่งต่อมาจะฟุ้งไปบ้าง แต่สาวเกตุก็ต้องช่วยปรับ เอาความเป็นไปได้มาคุย

“งานของเกตุนอกจากจะตีความฝันให้เป็นจริงแล้ว ถ้าลงลึกในรายละเอียดของงานต้องบอกว่ายิบย่อยมาก เพราะแบ่งเป็นตั้งแต่งานเบื้องหลัง คือ คุยคอนเซปต์ ดูโครงสร้างของงาน ทำวิดีโอ พรีเซนเทชัน ด้านเทคนิค และการควบคุมความเรียบร้อยหน้างาน”

ย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นของชีวิตที่พาให้สาวเกตุเข้าสู่วงการออร์แกไนเซอร์ สาวเกตุบอกว่าอาจเป็นจังหวะชีวิต เพราะสมัยเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อยู่ชมรมปอมปอมเชียร์ เลยมีโอกาสไปงานอีเวนต์บ่อยๆ เวลาที่เพื่อนๆ ไปโชว์ ทำให้เริ่มสนใจงานด้านนี้ ประกอบกับโชคดีเมื่อเรียนจบได้ไปทำงานกับพี่ก้องปิยะ เศวตพิกุล ซึ่งที่นั่นเป็นโอกาสให้เกตุได้ฝึกทำงานแทบทุกด้าน ทั้งการติดต่อกับลูกค้า ประสานงาน คิดงาน ดังนั้นพอย้ายมาที่ใหม่เลยทำให้ค่อนข้างมีประสบการณ์

“ความท้าทายและความยากของงานในสายนี้ คือ การแข่งขันที่สูงขึ้น ทำให้เราต้องยิ่งแอ็กทีฟ หมั่นหาไอเดียใหม่ๆ จากคลิปวิดีโอเมืองนอก คอนเสิร์ต หรืออีเวนต์ใหญ่ๆ ของเมืองนอก เพื่อเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ สำหรับเอามาใช้ในงาน อยู่นิ่งไม่ได้ต้องต่อยอดตลอด และเมื่อต่อยอดแล้วต้องรู้จักนำมาประยุกต์ใช้ เพราะบางครั้งคนเรารู้เทคนิคเหมือนกัน แต่เอามาปรับใช้จริงได้ดีไม่เท่ากัน”

 

อีกหนึ่งความยากของอาชีพนี้ คือ งานอีเวนต์ก็ไม่ต่างกับละครเวที ที่ทุกอย่างสดหมด ไม่สามารถคัดหรือตัดต่อได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะต้องมั่นใจว่างานจะไม่สะดุด หรือถ้าสะดุดก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ทันท่วงที โดยหลักการสำคัญคือพยายามคิดเผื่อล่วงหน้าหลายๆ สถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด

“แน่นอนว่าอยู่ในวงการมานาน ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นมาให้แก้ก็เยอะ แต่ที่จำได้และคิดว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก คือ ครั้งหนึ่งเคยจัดงานกลางแจ้งแล้วเกิดพายุเข้า ฝนตกลมแรงจนสิ่งก่อสร้างที่ทำไว้พังลงมา โชคดีที่งานนั้นไม่มีคนเจ็บ เราก็ต้องแก้ปัญหาด้วยการเปลี่ยนทิศทางในการตั้งใหม่ แต่ว่างานนั้นก็ทำให้เราย้อนกลับมาคิดว่าต้องมีความรอบคอบในการทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัย”

ด้วยภาระงานที่ค่อนข้างเครียดนี้เอง ทำให้สาวเกตุต้องหาตัวช่วยในการคลายเครียด สาวเกตุเล่าว่าเพราะความฝันที่อยากเป็นเจ้าของร้านกาแฟตั้งแต่เด็ก ทำให้ตัดสินใจเปิดร้านกาแฟและขนมเป็นคอร์เนอร์เล็กๆ ในบริษัท ซึ่งนอกจากจะได้ทำตามใจฝันแล้ว เวลาเครียดยังแอบหลบมาชงกาแฟ ทำขนมเพื่อสลัดความเครียดได้ด้วย

“อีกวิธีที่ได้ผล คือ การแต่งหน้า เมื่อไรก็ตามที่รู้สึกเครียด เกตุจะหยิบอายไลเนอร์ ลิปกลอส ขึ้นมาแต่งแต้มสีสันบนใบหน้า เพราะรู้สึกว่าคนเราเวลาเห็นคนสวยหน้าตาดีก็จะรู้สึกสบายใจ สบายตา”

อย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงงานอีเวนต์ที่ภูมิใจที่สุด เกตุยกให้งานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งทางซีอีโอและสาวเกตุได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดทำเนื้อหาหมวดพระอัจฉริยภาพของพระองค์ ทั้งด้านดนตรี ศิลปะ และกีฬา

 

 

“เวลาที่ได้ทำงานอะไรเกี่ยวกับพระองค์ มันเหมือนเป็นความภูมิใจของเรา ยิ่งได้ศึกษาเรื่องราวของพระองค์ยิ่งอิน หรือเวลาไปชมภาพยนตร์ ได้ฟังเพลงสรรเสริญพระบารมีก็รู้สึกตื้นตันในพระมหากรุณาธิคุณทุกครั้ง”

ส่วนเป้าหมายในอนาคต สาวเกตุยืนยันว่าจะขอทำงานที่รักต่อไปจนกว่าจะทำไม่ไหว แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ยังอยากสานฝันที่จะเปิดร้านกาแฟของตัวเองต่อไป เพราะเป็นสิ่งที่รัก

5 ชิ้นคู่ใจสาวหวาน

1.เครื่องสำอาง แน่นอนขาดไม่ได้ ต้องติดตัวไว้เพื่อเติมสวย แถมคลายเครียด

2.หูฟัง+ไอแพด นอกจากจะใช้เพื่อความบันเทิงแล้ว ในงานก็สำคัญเพราะต้องใช้เลือกเพลงที่จะใช้ในงาน หรือหาคลิป อัพเดตข้อมูล

3.ปากกาสี เพราะเป็นอาชีพที่มีรายละเอียดการทำงานเยอะ ดังนั้นต้องจดแทบทุกอย่าง การใช้ปากกาสีๆ ก็จะช่วยเพิ่มความสามารถในการจดจำได้เป็นอย่างดี

4.หนังสือทำอาหาร เป็นของสะสมเลยก็ว่าได้ มีอยู่ 20 เล่มทั้งสูตรของคาวของหวาน และวิธีชงกาแฟ ตอบโจทย์ความชอบเข้าครัวของตัวเอง

5.โน้ตบุ๊ก ใช้ทำพวกกราฟฟิกหนักๆ หรืองานบางอย่างที่นอกเหนือจากความสามารถของไอแพด เวลาไปไหนจะติดตัวไปด้วยเสมอ