ผู้สร้างสรรค์ศิลปินและคอนเสิร์ต ‘ศักดิ์สกุล แก้วมาตย์’

โดย...ณัฐพล ช่วงประยูร / ภาพ ภัทรชัย ปรีชาพานิช

แม้ว่าไม่ใช่โปรโมเตอร์เบอร์ใหญ่ยักษ์ แต่ “ป๊อป ศักดิ์สกุล” ก็สรรค์สร้างศิลปินและคอนเสิร์ตมานักต่อนักแล้ว

ก่อนจะมาเป็น “ป๊อปศักดิ์สกุล แก้วมาตย์” เขาเคยใช้ “ศรีสกุล” จนถึงชั้นประถมแล้วป่วยหนัก พระจึงให้ชื่อใหม่เพื่อแก้เคล็ด ก็ไม่แน่ว่ามงคลดังกล่าวจะนำเส้นทางชีวิตที่นำมาสู่อำนาจหน้าที่ ด้านการจัดการดูแลศิลปินที่เบเกอรี่ มิวสิค ในอดีต กระทั่งตำแหน่ง อาร์ติสต์ แมนเนจเมนต์ ไดเรกเตอร์ ค่ายจี.ไอดี (G.iD) ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ในปัจจุบัน แต่มั่นใจว่าความขยันและมุ่งมั่นของเขาก็สร้างหนทางดังกล่าวด้วย

“ผมเป็นคนราชบุรี มีพี่น้อง 2 คน คุณพ่อคุณแม่รับราชการครู สมัยประถมเรียนที่โรงเรียนวัดเขาวัง มัธยมเรียนที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี และมหาวิทยาลัยเรียนคณะวิทยาการจัดการ เอกนิเทศศาสตร์ วิทยาลัยครูหมู่บ้านจอมบึง ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้ายที่ยังใช้ชื่อวิทยาลัยครู

เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่เป็นครูทั้งคู่ สมัยเด็กๆ ที่บ้านค่อนข้างเข้มงวดเรื่องเรียนพอสมควร ตื่น 7 โมงเช้า เลิกเรียนกลับบ้านทำการบ้าน ช่วยงานบ้าน 2 ทุ่มนอน เป็นวิถีชีวิตแบบคนต่างจังหวัด เป็นอย่างนี้แทบทุกวัน แต่พอเรียนมัธยมค่อนข้างดีขึ้น เพราะได้มีโอกาสเป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลทีมโรงเรียนซึ่งต้องซ้อมหนัก เลยมีโอกาสอยู่กับเพื่อนๆ มากขึ้น แต่ยอมรับว่าหนักพอสมควรที่ต้องเรียนและเล่นกีฬาไปด้วย

 

สมัยนั้นผมเรียนทุกอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับสื่อสารมวลชนทุกแขนง ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าชอบงานอะไรแน่ๆ เลยมีความคิดว่าฝึกงานทุกแขนงเลยดีกว่าจะได้รู้ว่างานจริงๆ เป็นยังไง แล้วเราชอบ หรืออยากทำอะไรกันแน่ ตอนปิดเทอมปี 1 เลยฝึกงานประชาสัมพันธ์ที่เทศบาลราชบุรี ปิดเทอมปี 2 ฝึกงานที่ไทยสกายทีวี ปิดเทอมปี 3 ฝึกงานที่นิตยสารทีวีพูล แล้วปิดเทอมปี 4 ฝึกงานที่เบเกอรี่ มิวสิค จนสุดท้ายได้ทำงานที่เบเกอรี่ มิวสิค เป็นที่แรก”

ย้อนกลับไปตลอด 5 ที่ป๊อปทำงานกับเบเกอรี่ เขาได้ร่วมงานกับคนคุณภาพทั้งเจ้าของค่าย ผู้บริหาร และศิลปินอินดี้และแนวใหม่หลายท่าน เขาสั่งสมประสบการณ์ความรู้และแนวการจัดการมากมาย กระทั่งมาร่วมงานกับเอไทม์อีก 10 ปี ได้ขยายศักยภาพในการสร้างงานคอนเสิร์ต บริหารจัดการสเกลงานยักษ์ อาทิ ไมโคร ใหม่ ติ๊นา เจนนิเฟอร์ คิ้ม โก๊ะตี๋ โจเจ ปาล์มมี่ ฯลฯ จนเป็นที่เลื่องลือว่าเจ๋งแค่ไหน ก่อนจะมาทุ่มเทพลังงานทั้งหมดให้กับจี.ไอดีในที่สุด

“ทุกคน ทุกงาน จากทั้งสองแห่ง ทำให้ผมได้อะไรมากมาย ทั้งแนวทางการบริหารจัดการ และหลักการคัดเลือก ดูแลและสร้างคน สร้างอีเวนต์ ปัจจุบันผมเป็นอาร์ติสต์ แมนเนจเมนต์ ไดเรกเตอร์ ค่ายจี.ไอดี ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ รับผิดชอบในส่วนการคัดเลือกและพัฒนาศิลปินหน้าใหม่ เพื่อให้มีผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ โปรเจกต์ที่ทำในปัจจุบันก็คือ จี จูเนียร์ (GJunior) เริ่มจากค้นหาและคัดเลือก รวมทั้งพัฒนาศิลปินวัยทีน รวมถึงการวางแผนทำเพลงและโปรโมตเพลงของศิลปิน

หลังจากเราได้น้องๆ มา 11 คนในรอบสุดท้าย ก็พัฒนาและฝึกหัดพวกเขาในทุกด้าน ทั้งการร้อง การเต้น การแสดง และภาษา เพราะเราอยากสร้างให้เขาเข้มข้นพอในเวทีระดับเอเชียและสากล อย่างเกาหลี ญี่ปุ่น เขาเป็นเจ้าตลาด เพราะเขาทำจริงจังและรอบด้าน เราเชื่อว่าการสร้างศิลปินมันมากกว่าส่งไปขายซิงเกิล แต่มันรวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจที่เราจะได้กลับมา เมื่อคนกลับมาตามรอยศิลปิน มาท่องเที่ยวบ้านเรา ฯลฯ

ในส่วนเป้าหมายในชีวิต ผมอยากทำงานปัจจุบันให้ดีที่สุด อยากมีร้านอาหารเล็กๆ และอยากทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมและพระพุทธศาสนาให้มากขึ้น” หนุ่มไฟแรงไม่ตกเล่าถึงปัจจุบันและบั้นปลายของเขา

“ตัวตนของผมจริงๆ เป็นคนสนุกสนาน พยายามมองทุกอย่างในแง่ดี ไม่ว่าสิ่งที่เราเห็นจะดีหรือไม่ดีก็ตาม ส่วนคนใกล้ชิดมักพูดถึงผมว่า ดูหยิ่ง (หัวเราะ) หน้าวีนตลอดเวลา แต่จริงๆ ไม่มีอะไร ถ้าเป็นเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ก็ชื่นชมผลงานครับ

สิ่งที่ป๊อปภูมิใจที่สุด คือ จากเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่งได้ทำงานที่ดีมาถึงจุดๆ นี้ที่ไม่คาดคิด มีพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่รู้จักที่คอยช่วยเหลือกัน รู้สึกดีที่รอบๆ ตัวเจอแต่คนดีๆ และเก่ง เราสามารถเรียนรู้งานจากคนรอบตัวเราได้เลย ขณะที่สิ่งที่ผิดหวังที่สุด คือ ยังเป็นลูกที่ยังไม่ดีพอ แต่ขอสัญญาว่าจะเป็นลูกที่พ่อแม่ภูมิใจแน่นอนครับ

 

ในด้านการพักผ่อนและเวลาส่วนตัว เคยเป็นไข้หวัดยาวนาน 2 อาทิตย์ เลยคิดว่าอายุมากขึ้นก็ต้องดูแลตัวเองบ้างแล้ว เลยหันมาออกกำลังกาย เล่นโยคะ ปรากฏว่าพอออกกำลังกายแล้วรู้สึกสนุกเลยไปทุกวัน หรือวันว่างชอบดูซีรีส์อยู่บ้าน ถ้ามีโอกาสก็จะออกมาดูหนังกินข้าวกับเพื่อนบ้าง สิ่งที่สนุกที่สุด คือ ไปเที่ยวนิวยอร์ก 2 เดือนคนเดียว สนุกและตื่นตาตื่นใจมาก สนุกสุดๆ”

คำว่า ไลฟ์สไตล์ หรือรูปแบบการใช้ชีวิตสำหรับผม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคลไม่มีใครสามารถเลียนแบบกันได้ สไตล์ของผมเน้นเรียบๆ ไม่ค่อยตามแฟชั่นมาก แต่ก็เกาะกระแสนิดหน่อย แต่ถ้าเป็นสเปกคนที่ชอบ ผมชอบคนเก่งสามารถคุยกันได้ทุกเรื่อง แนวทางการใช้ชีวิต คือ ถ้าเราอยู่กับใครต้องอยู่ด้วยความสบายใจ เข้าใจ และคุยกันได้ทุกเรื่อง

ในเรื่องแฟชั่นแล้ว ผมมองว่าเป็นอุตสหกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง บางคนทำแฟชั่นเป็นอาชีพ บางคนให้เป็นแรงบันดาลใจ แต่บางคนก็เป็นเหยื่อของแฟชั่น ส่วนตัวคิดว่า แฟชั่นเป็นแรงบันดาลใจที่ดี แฟชั่นมีอินมีเอาต์แต่สไตล์ของเราเองนี่แหละที่คงอยู่เสมอ ผมเองเลือกซื้อของที่ซื้อจะเน้นที่ตัดเย็บดี ดูมีสไตล์ไม่ถึงกับต้องตามทุกคอลเลกชันครับ”

ชิ้นเก๋ของ ‘ป๊อป’

1 กระเป๋าเป้ “ใบใหญ่สะใจ ใส่ของได้เยอะ วันไหนที่ต้องไปฟิตเนสก็จะใช้ใบนี้ตลอด”

2 กระเป๋าสตางค์ “ซื้อที่ฮ่องกง ตอนนั้นใช้เงินเยอะ มีคนแนะนำให้เปลี่ยนกระเป๋าจะได้เก็บเงินอยู่ ซึ่งขอสารภาพว่าเอาไม่อยู่จริงๆ 555”

3 กระเป๋าใส่เหรียญ “เป็นใบแรกๆ ที่ซื้อ ใช้มา 15 ปีแล้ว ใช้ทุกวันเพราะใส่กุญแจบ้านด้วย ใบนี้อึดมาก”

4 แว่นกันแดด “ใส่ทุกวัน เพราะสายตา แพ้แสงง่าย”

5 นาฬิกาข้อมือ “เรือนนี้ใช้ 2 ปีแล้ว นาฬิกานี้ใช้ทุกวัน นาฬิกาจะใช้อย่างต่ำ 5 ปี ถึงจะเปลี่ยนอีกทีครับ”

&<2288;