posttoday

กิตติพจน์ ขุ่มด้วง สีสันคือการเติมเต็มให้ชีวิต

31 ตุลาคม 2555

ถ้าไม่ได้พูดคุยหลายคน (อาจจะ) ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะใช้สรรพนามสำหรับซีเนียร์แฮร์สไตลิสต์ฝีมือเยี่ยมของร้านชลาชล เทอร์มินอล 21

โดย...ปอย

ถ้าไม่ได้พูดคุยหลายคน (อาจจะ) ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะใช้สรรพนามสำหรับซีเนียร์แฮร์สไตลิสต์ฝีมือเยี่ยมของร้านชลาชล เทอร์มินอล 21 กิตติพจน์ ขุ่มด้วง คนนี้ว่าอย่างไรดี?!! ความกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสไตล์ด้วยอาชีพการงาน บวกกับความรักแฟชั่นของชายหนุ่มช่างตัดผม จึงไม่แคร์สายตากับการทำผมสีชมพู เขียนคิ้วชัดเจนในแบบวัฒนธรรมการกรูมมิงรูปแบบเจป๊อป และชื่นชอบแต่งตัวสีสันสดใสสไตล์อย่างที่เห็น

“ผมบอกคนที่มาตัดผมกับผมเสมอครับว่า ลองกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และสิ่งสำคัญในการปรับบุคลิกก็คือทรงผม” กิตติพจน์ หรือที่ลูกค้าชลาชล สาขาเทอร์มินอล 21 จะรู้จักกันดีในนิกเนม “ช่างมะตุ่ย” ที่บอกว่าวันนี้ผู้หญิงไทยมีความกล้าหาญลุกขึ้นมาตัดผมทรงแรงๆ แปลกๆ กันมากขึ้น ผู้หญิงบางคนตัดอันเดอร์คัตไถด้านข้างอย่างกล้าๆ เปรี้ยวๆ ซึ่งในฐานะแฮร์สไตลิสต์การเปลี่ยนทรงผมเป็นการละลายอุปนิสัยเดิมๆ ความเคยชินเดิมๆ ได้ดีที่สุดอย่างหนึ่ง

“แฟชั่นเริ่มซึมซับเข้ามาในไลฟ์สไตล์ ทำให้ผู้คนกระตือรือร้นในการปรุงแต่งตัวเองมากขึ้น ผมก็ชอบพูดคุย แนะนำ กับลูกค้าทุกคนก่อนตัดผมนะครับ อย่างเช่นตอนนี้ฮิตการทำสีผม แต่ก็จะกลัวเส้นผมฟูเสีย ผมจะบอกว่า สิ่งที่คุณจะได้อย่างแรกหลังเปลี่ยนสีผม คือ ใบหน้าจะลดความเข้มลง หรือพูดง่ายๆ จะดูเด็กขึ้นทันที

ส่วนเรื่องผมจะเสียนั้นไม่น่าห่วงเลยครับ เพราะวันนี้ผลิตภัณฑ์ทำสีจะแข่งขันกันเพื่อคุณภาพดีที่สุด อ่อนนุ่มต่อเส้นผมที่สุด เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับการเลือกของดีและการดูแลผมที่ดีของคุณด้วยนะครับ” กิตติพจน์ เริ่มต้นสนทนาในเรื่องงานที่เขาทำด้วยสรรพนามที่บ่งบอกความชัดเจนในเพศสภาพที่หลายคนอาจไม่แน่ใจ

กิตติพจน์ ขุ่มด้วง สีสันคือการเติมเต็มให้ชีวิต

 

“หลายคนที่ไม่ได้คุยกับผม แรกๆ ก็จะคิดว่าเป็นทอม (หัวเราะร่วน) หรือได้พูดได้สนทนากันแล้วก็คิดว่าเป็นเพศที่สอง แต่ผมมีแฟนผู้หญิงนะครับ (บอกพร้อมรอยยิ้ม) ทำงานในสายอาชีพเดียวกัน เป็นช่างผมชลาชลเหมือนกัน หลายคนก็เลยจะแปลกใจที่ตื่นเช้าชึ้นมา แฟนจะเป็นคนเขียนคิ้วให้ผมถึงออกมาเป๊ะอย่างนี้นะครับ (หัวเราะอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้าคนฟัง) หรือเสื้อแจ็กเกตตัวนี้แฟนก็ซื้อให้ในสไตล์ยูนีคที่เราสองคนจะใส่ด้วยกันได้” กิตติพจน์ บอกพร้อมรอยยิ้มติดใบหน้า

กว่าจะได้ขึ้นแท่นเป็นซีเนียร์แฮร์สไตลิสต์ของร้านผมมีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ในเมืองไทย กิตติพจน์ เริ่มต้นจากตำแหน่งผู้ช่วยช่างในร้าน ซึ่งในวันนั้นที่เดินเข้ามาสัมภาษณ์โดยผู้บริหารชลาชล ดร.สมศักดิ์ ชลาชล ส่งคำถามว่าทำไมจึงจะมาทำงานในตำแหน่งนี้ ทั้งที่เคยเป็นเจ้าของกิจการร้านทำผมของตัวเองมาก่อน

“คำตอบคือ ผมต้องการประสบการณ์ครับ เพราะย่านที่เคยทำร้านทำผมของเราเองมาก่อนหน้านั้นเป็นร้านระดับล่างในชุมชนเล็กๆ ไม่ใช่ร้านระดับบนแบบนี้ ซึ่งร้านเก่าเราก็ทำอยู่แค่สระ ไดร์ และหนีบ ทำแต่ทรงผมผู้หญิง ทรงผมผู้ชายแทบไม่เคยได้ตัดเลย ผมต้องการเติมในสิ่งที่ขาดและต้องการความรู้ในเรื่องนี้ ครู (คำที่ช่างชลาชลเรียก ดร.สมศักดิ์) ก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็ให้ทดลองเทรนด์ 60 ชั่วโมง (2 อาทิตย์) แล้วให้ไปประจำสาขาสยามสแควร์ ซึ่งเป็นจุดที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเลยก็ได้นะครับ เพราะบอกได้เลยว่าก่อนหน้านั้นรูปลักษณ์เราไม่ได้เป็นแบบนี้ ผอมกะหร่องแล้วยังแต่งตัวไม่เป็นอีกนะครับ การเริ่มต้นในชลาชลจึงเป็นการเริ่มต้นชีวิต และเป็นการเริ่มต้นด้านอาชีพการงานที่ผมตัดสินใจไม่ผิดเลย” กิตติพจน์ บอก

“ช่างผมสไตล์แบบไหน ลูกค้าก็จะเดินออกจากร้านในสไตล์แบบนั้น” กิตติพจน์ บอกอย่าเพิ่งยึดติด (และตกใจ) กับประโยคนี้ แน่นอนว่าลูกค้าเลือกเพราะชื่นชอบสไตล์ บุคลิกของช่างเป็นเฟิสต์อิมเพรสชัน และสิ่งที่ช่างมืออาชีพต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือ ปรับสไตล์ของลูกค้า ให้เข้ากับสไตล์ตัวเอง

“สไตล์ของผมคือวัยรุ่นแน่นอนครับ แต่ที่น่าแปลกใจ คือ พอลูกชาย ลูกสาวตัดกับเรา ก็จะชักชวนคุณแม่มาตัดผมกับมะตุ่ยด้วย สไตล์ของผมยกอย่างเช่น ถ้าลูกค้าบอกขอผมสั้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ จะเป็นผมทรงสั้นที่เรามีหน้าที่ดีไซน์ให้โดยที่ลูกค้าที่ไม่ต้องคิดมากเลยนะครับ และหลายคนก็ชอบสิ่งที่ผมออกแบบให้แทบทุกครั้งนะครับ” กิตติพจน์ บอก

เอกลักษณ์ผมสีชมพู กิตติพจน์ บอกมาจากการทดลองสีในกลุ่มช่างผมด้วยกันเอง ซึ่งกว่าจะได้สีเฉดนี้ก็ต้องผ่านการเทสต์กันหลายๆ รอบ

“ผมได้รางวัลด้าน Knowledge ของชลาชล แต่ก็ไม่กลัวก็จะไถ่ถามช่างทุกๆ คนนะครับ ว่าทำอย่างไรเราจึงจะได้ผมสีนี้ ก็ทดลองกันไป ซึ่งก็รับกับใบหน้าผมจืดมากๆ คิ้วก็ไม่มีเลยของผมนะครับ การเปลี่ยนสีผมทำให้เราแต่งตัวได้ง่ายขึ้น เพราะส่วนใหญ่ช่างตัดผมจะแต่งตัวโมโนโทน ดำขาว เพราะเป็นสีที่บอกถึงความโพรเฟสชันนัลที่สุดนะครับ ผมสีนี้บางวันผมก็เลือกกางเกงสีแดง (หัวเราะ) เดินถนนคนก็มอง แต่ไม่เป็นไรครับ ชีวิตเป็นของเรา

ผมสีนี้หลายๆ ครั้งลูกค้าก็ระบุเพศไม่ได้ วัยรุ่นบางคนเดินเข้าร้านมาบอกว่าเอาสีผมชมพูอย่างพี่ทอมคนนั้น (หัวเราะชอบใจ) ก็ไม่เป็นไรนะครับ เพราะกลายเป็นว่าเราได้ตัดผมหลากหลายเพศมาก ถือเป็นการเก็บประสบการณ์ในด้านงานอาชีพได้ดีที่สุดเลยนะครับ”

สีสันคือการเติมเต็มให้ชีวิต กิตติพจน์บอกย้ำทิ้งท้าย การแต่งตัว การเปลี่ยนแปลงทรงผม คือการแสดงออกที่เป็นตัวเราได้ดีที่สุด ใครไม่เชื่อต้องลองเปลี่ยนดูแล้วจะได้เห็นตัวเองชัดเจนขึ้น