posttoday

อติเทพ หมู่เรืองรัตน์ วัดกันที่ความสามารถ อายุไม่ใช่อุปสรรค

15 ตุลาคม 2555

ความสำเร็จของคนทำงานสมัยนี้วัดกันที่ความสามารถหรือฝีมือเป็นสำคัญ ยิ่งใครที่อายุน้อยก็ย่อมต้องพิสูจน์ตัวเอง

โดย...วรธาร ทัดแก้ว

ความสำเร็จของคนทำงานสมัยนี้วัดกันที่ความสามารถหรือฝีมือเป็นสำคัญ ยิ่งใครที่อายุน้อยก็ย่อมต้องพิสูจน์ตัวเอง สำแดงความสามารถหรือฝีมือออกมาให้คนอื่นๆ โดยเฉพาะคนที่มีอายุมากกว่าได้เห็นแล้วเกิดการยอมรับให้ได้ “อติเทพ หมู่เรืองรัตน์” หนุ่มขาวหน้าตี๋คนนี้เป็นคนหนึ่งที่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าความมีอายุน้อยไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงานแต่อย่างใด แต่ใช้ความอายุน้อยพัฒนาตนเองจนได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงานที่ส่วนใหญ่อายุมากกว่า

“อติเทพ” หรือ “อั้ม” อายุ 34 ปี ปัจจุบันเป็นผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ บริษัทชื่อดังยาของไทย จบปริญญาตรีเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ตั้งแต่อายุ 21 ปี แล้วก็เริ่มทำงานที่อายุ 21 ที่บริษัทยาข้ามชาติเรื่อยมาเป็นเวลา 11-12 ปี ก่อนที่จะลาออกมาทำงานที่บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ เมื่อปีที่ผ่านในตำแหน่งปัจจุบัน

“ในช่วง 5 ปีแรกของการทำงานผมเป็นผู้แทนขายยา แล้วเรียนปริญญาโทภาคค่ำไปด้วย คณะบริหารธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พอโทจบตำแหน่งแรกก็โปรโมตขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ แล้วเป็นผู้จัดการผลิตภัณฑ์ โตมาในสายของมาร์เก็ตติง 5 ปี หลังจากนั้นก็สลับมาเป็นผู้จัดการฝ่ายขายอีก 2 ปี ก่อนจะลาออกมาอยู่ที่ไบโอฟาร์มฯ เป็นผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ รวมประสบการณ์ทำงานก็ 13 ปีกว่าแล้ว” อั้ม เล่าประสบการณ์การทำงาน

การทำงานตลอด 12 ปี ในบริษัทยาข้ามชาติก่อนจะมาอยู่ภายใต้ชายคาของไบโอฟาร์มฯ เมื่อพูดถึงตำแหน่งหน้าที่การงานแล้ว อติเทพมีการเติบโตตลอดและด้วยอายุที่ยังน้อย

“ตั้งแต่เรียนหนังสือหรือทำงานมากับเพื่อนร่วมรุ่น ผมก็จะเด็กสุดในรุ่น เรียนโทก็เด็กสุด จบตรีก็อายุ 21 เริ่มทำงานก็ 21 แล้วทำกับคนที่อายุมากกว่าทั้งนั้น คนก็เลยพูดว่าอายุน้อยจัง ตรงนี้จึงเป็นความท้าทายและเป็นจุดให้ผมต้องพิสูจน์ตัวเอง ทำให้คนอื่นเห็นว่าเรื่องอายุไม่ได้เป็นอุปสรรคในการทำงาน และอยากให้เคารพกันที่ความรู้ความสามารถ คือถึงจะเด็กก็เด็กแต่อายุ ความสามารถไม่ได้เด็กตาม” อติเทพ ย้ำอายุไม่ใช่อุปสรรค

อติเทพ หมู่เรืองรัตน์ วัดกันที่ความสามารถ อายุไม่ใช่อุปสรรค

 

จะเห็นว่า ประสบการณ์การผ่านงานในหลายๆ สกิลของเขานั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนอื่นโดยเฉพาะคนที่อายุมากกว่าเกิดการยอมรับในตัวเขากับความสามารถที่ได้แสดงออกมา

“ตอนที่ผมเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย ผมมีลูกน้อง 7 คน อายุมากกว่าผมทั้งนั้น และมากกว่าหลายปี ซึ่งคนเหล่านี้ผมเคยเป็นคลังข้อมูลให้พวกเขามาก่อนสมัยเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ คือถ้าพวกเขามีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เช่น การใช้ยานั้นๆ กับโรคนั้นๆ หรือออกไปพบลูกค้าอย่างคุณหมอแล้วตอบคำถามยากๆ คุณหมอไม่ได้ เขาก็ติดคำถามหมอไว้แล้วมาถาม ผมก็จะรู้แล้วให้ข้อมูลไปตอบคุณหมอ เมื่อผมสลับบทบาทจากผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์มาเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย พอคุณหมอถามก็ตอบหมอเดี๋ยวนั้นเลยไม่ต้องติดหมอไปถามผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ อันนี้ก็เป็นหนึ่งในหลายๆ ตัวอย่างที่ผมทำให้ลูกน้องที่แม้จะอายุมากกว่ายอมรับในตัวผม”

ในการทำให้คนอื่นเกิดการยอมรับนั้นไม่เพียงการเป็นคลังความรู้ให้กับฝ่ายเท่านั้น แต่ต้องแนะนำในเรื่องอื่นๆ ที่บางครั้งเซลส์หรือบริษัทยามองข้ามไป

“ตอนผู้จัดการฝ่ายขาย จะมีทีมขายยาเอชไอวี ทีมขายยารักษาโรคไวรัสตับอักเสบบี ผมได้แนะนำให้ทีมขายไปติดต่อกับธนาคารเลือด ซึ่งเป็นผู้คัดกรองว่าเลือดของผู้ที่บริจาคคนไหนนำไปใช้ได้หรือไม่ได้ เสนอธนาคารเลือดว่าเราจะจัดสัมมนาโดยเชิญคุณหมอไปบรรยายให้คนป่วยฟัง แล้วธนาคารเลือดเชิญผู้ป่วยกลุ่มนี้ไปฟังและมีกิจกรรมต่างๆ ให้เขาทำ

แนวความคิดนี้ผมเห็นว่าธนาคารเลือดทำได้เพียงบอกเจ้าของเลือดว่าเราไม่สามารถใช้เลือดคุณได้ แต่ธนาคารเลือดไม่ได้ทำอะไรต่อมากกว่านั้น ซึ่งผมว่าระบบสาธารณสุขเราต้องทำเชิงรุก พอธนาคารเลือดบอกไม่สามารถใช้เลือดของคนเหล่านี้ ทำไมไม่เชิญคนเหล่านี้กลับเข้ามารักษาหรือกลับเข้ามาให้ความรู้ว่า เออคุณเป็นโรคนี้ๆ นะ คุณจะปฏิบัติตัวยังไง ฟังคำแนะนำจากคุณหมอ” ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจไบโอฟาร์มฯ กล่าว

เห็นได้ว่าการขึ้นสู่ตำแหน่งต่างๆ ของเขาที่ผ่านมาการันตีได้ในระดับหนึ่งว่าเขาได้พิสูจน์ตัวเองให้คนอื่นได้เห็นแล้วในความสามารถและฝีมือ แต่กับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจที่ไบโอฟาร์มฯ เพิ่งจะเริ่มต้น ซึ่งเขาต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไป

“การทำงานที่ผ่านมาของผมค่อนข้างที่จะครอบคลุมในหลายๆ สกิล เป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ ดูมาร์เก็ตติง บริหารงานบุคคล ผู้จัดการฝ่ายขาย ล่าสุดคือผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ซึ่งหน้าที่ของผมคือ 1.หายาใหม่ๆ อาหารเสริมใหม่ๆ เข้ามาให้องค์กรเพื่อที่องค์กรจะได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นำออกสู่ตลาด ให้ผู้บริโภครวมถึงประชาชนและผู้ป่วยทั่วๆ ไป 2.หาตลาดต่างประเทศ เนื่องจากไบโอฟาร์มฯ ไม่ได้ขายยาในประเทศไทยเท่านั้น ยังส่งขายไปทั่วโลกด้วย โดยเรามีโรงงานผลิตยาเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศที่ได้มาตรฐานยุโรป และด้านที่ 3 การเป็นหัวหน้าองค์กร ทำทั้งคอร์เปอเรต พีอาร์ งานภาพลักษณ์ขององค์กร ทำอย่างไรให้คนรู้จักไบโอฟาร์มฯ ดีขึ้น” ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ กล่าว

สำหรับเป้าหมายในอนาคต อติเทพ บอกว่า ยังไม่มีการวางแผนไว้แต่อย่างใด แต่ต้องการไปให้สุดเส้นทางและเติบโตในองค์กรตามศักยภาพของเขาเสียก่อน

“ผมต้องการเติบโตได้ในองค์กรตามศักยภาพของผมเสียก่อน เพราะในองค์กรนี้ยังมีที่ที่จะเจริญเติบโตขึ้นไปอีก ผมอาจจะเติบโตขึ้นไปเป็นมาร์เก็ตติงไดเรกเตอร์ หรืออะไรอีกก็ได้ แต่การที่จะไปถึงจุดนั้นได้ผมต้องมีองค์ประกอบทั้งสองอย่าง อย่างแรกเราต้องพร้อมก่อน ซึ่งการที่ผมผ่านงานมาหลายๆ ด้านก็ถือเป็นจุดแข็งอันหนึ่ง ซึ่งผมก็ต้องพัฒนาตัวเองต่อไป อย่างที่สองคือโอกาส ถ้าเราพร้อมและโอกาสมาก็สามารถเติบโตได้”

เชื่อว่าสักวันเขาจะต้องไปสุดเส้นทางที่เขาต้องการ หากไม่เบื่ออะไรเสียก่อน