เปลวไฟ ณ ใจฝัน พิชาญ พรหมเมฆประธาน

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์

ปิง หรือ พิชาญ พรหมเมฆประธาน ประธานเจ้าหน้าที่อำนวยการ บริษัท เอเวอร์ไชน์ (ไทยแลนด์) หนุ่มน้อยนักธุรกิจวัยเพียง 29 ปี เจ้าของธุรกิจนำเข้าเพื่อจัดจำหน่ายยางรถยนต์และล้อแม็กภายใต้แบรนด์เคซี (KC) ธุรกิจแม้เพิ่งเริ่มต้นเมื่อ 3 ปีก่อน หากภายในระยะเวลาอันสั้น ก็เติบโตขึ้นแท่นเป็นผู้จัดจำหน่ายยางล้อ (เทรดดิง) 1 ใน 3 อันดับต้นของประเทศ

บรรพบุรุษของพิชาญเป็นชาวจีนโพ้นทะเลรุ่นบุกเบิก หรือถ้าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง คุณปู่คุณย่าล่องเรือสำเภามาจากเมืองจีนเมื่อหลายสิบปีก่อน ภายหลังตั้งรกรากในไทย ก็ใช้หลักมุมานะตามสูตร สร้างตัวขึ้นจากความขยันและอดทน หนักเอาเบาสู้สร้างธุรกิจเซรามิกภายใต้แบรนด์เคซี จนกิจการเป็นปึกแผ่น ชื่อเสียงขจรขจาย

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจย่อมมีวงจรขึ้นลง ชายหนุ่มมองว่า ธุรกิจเซรามิกกำลังอยู่ในช่วงขาลง เขาเริ่มมองหาธุรกิจที่น่าสนใจใหม่ๆ ในที่สุดก็ปักใจว่ายานยนต์นี่แหละ ที่กำลังจะเหินทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงรอบ ดังแล้วแยกวงก็หาไม่ เพราะตอนนั้นยังไม่ดัง (ฮา) แต่ได้ขออนุญาตครอบครัว เพื่อออกมาตั้งบริษัทของตัวเอง นำเข้ายางรถยนต์และล้อแม็กภายใต้แบรนด์ KC (Keocis Wheel) รวมทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายยาง TRI-ACE ยางรถยนต์นวัตกรรมจากญี่ปุ่นผู้เดียวในประเทศไทย

“จำได้ว่าเป็นปี 2552 แรกก่อตั้งเราตัดสินใจใช้โนว์ฮาวจากไต้หวัน ช่วงนั้นพยายามก่อสร้างโรงงานผลิตในประเทศ แต่ติดปัญหาบุคลากร จึงชะลอแผนไว้ ปัจจุบันเอเวอร์ไชน์นำเข้ายางและล้อแม็กเกือบ 100% โดยเราเป็นคนทำแบรนด์เอง” พิชาญ เล่า

สำหรับตลาดยางรถยนต์และล้อแม็กของไทย การแข่งขันค่อนข้างสูง หากกลยุทธ์สำคัญของเอเวอร์ไชน์คือการชูจุดแข็งด้านคุณภาพ ผลิตภัณฑ์นำเข้าจากจีน ไต้หวัน เวียดนาม และสหรัฐอเมริกา โดยจ้างผลิตภายใต้แบรนด์เคซี ซึ่งใช้มาตรฐานการผลิตยางชั้นสูง และได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นรองใคร ทั้งในแง่คุณภาพหรือการออกแบบดีไซน์

“ผมให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เราไม่ต่อสู้เรื่องราคา แต่มุ่งแข่งขันด้านคุณภาพ และการให้บริการหลังขาย สินค้าที่ดีต้องมีคุณภาพและบริการที่ดี โดยเฉพาะการใช้ชื่อแบรนด์เคซี ซึ่งเป็นที่ยอมรับมายาวนาน ในเมื่อใช้ชื่อเคซีก็ต้องมั่นใจว่าจะไม่เอาชื่อเสียงและเกียรติประวัติมาทำให้เสีย” พิชาญ กล่าว

เคซี (KC) ย่อมาจาก Keocis ในภาษากรีก ซึ่งแปลว่า ความยืนยงถาวร นิยามของ KC จึงหมายถึงความฉลาดในการเลือกซื้อ (Symbol of Smart Purchase) โดยความตั้งใจของพิชาญก็คือ การทำเคซีให้เป็นแบรนด์คุณภาพ ภายใต้ปรัชญาและสัญลักษณ์ของความฉลาดเลือกฉลาดใช้นั่นเอง

สำหรับแนวโน้มธุรกิจยางรถยนต์และล้อแม็ก พิชาญมั่นใจว่าเป็นทิศทางขาขึ้นและจะอยู่ในกระแสการเติบโตของโลกต่อไปอีกนาน เนื่องจากทิศทางการเติบโตและยอดผู้ใช้รถยนต์ขยายตัวสูงต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ในประเทศ ที่แนวโน้มแจ่มใส ทั้งจากนโยบายรัฐ และปริมาณความต้องการใช้รถยนต์ของผู้บริโภคหน้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเอเวอร์ไชน์ ยอดขายล่าสุดปี 2554 จำนวนกว่า 350 ล้านบาท และตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

ก่อนจะกระโดดเข้ามาในธุรกิจยางล้อ ก็ได้ศึกษาจนมั่นใจ จนกล้าฝันและกล้ากระโจนเข้าใส่ จับไฟในมือและจับธุรกิจใหม่ได้อยู่หมัด แผนปีหน้ากำหนดจะทำตลาดเชิงรุกอย่างแท้จริง ได้แก่การใช้สื่อโฆษณาเต็มรูป รุกรีเทล และสร้างเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ รวมทั้งขยายตลาดส่งออก ลาว พม่า และเวียดนาม

หลักการบริหารของชายหนุ่ม น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าแรงไฟของใจกล้าฝัน เขาบอกว่า โลกไม่หยุดนิ่ง ทุกสิ่งกำลังเปลี่ยน เราต้องรีบเลือกว่า จะเปลี่ยนตัวเอง หรือรอให้สิ่งแวดล้อมมาเปลี่ยน ไม่ช้าประชาคมอาเซียนก็จะเกิดขึ้น ถึงเวลานั้นตลาดใหม่ๆ และความท้าทายใหม่ๆ จะถาโถมเข้ามาท้าทายเรา

สิ่งสำคัญที่สุดคือคน ทรัพยากรบุคคลที่สร้างได้พัฒนาได้ไร้ขีดจำกัด หลักบริหารของเอเวอร์ไชน์คือกระบวนการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นภายใต้หลักธรรมาภิบาล ควบคู่กับความสุขในองค์กร เซลฟ์ ไดรฟ์เซลฟ์ เลิร์นนิง แรงขับที่ขับเคี่ยวเหนี่ยวนำ พัฒนาทุกคนในองค์กรให้เรียนรู้และไปให้ถึงจุดที่ไกลที่สุด

“เคซีจะเติบโตต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาคุณภาพสินค้า พร้อมกับการพัฒนาคน เราสร้างองค์ความรู้ ขณะเดียวกันก็สร้างกลไกการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้นั้นๆ เซลฟ์ ไดรฟ์เกิด เซลฟ์ เลิร์นนิงเกิด ทุกคนมีความสุข ทุกคนก้าวไปด้วยกัน” พิชาญ เล่า