posttoday

เท่ได้ในความเป็น ศิลปะไทย

05 กันยายน 2555

ความเท่นั้นไร้ขีดจำกัด!!!ไม่เว้นกระทั่ง งานศิลปะ

โดย...โจ เกียรติอาจิณ

ความเท่นั้นไร้ขีดจำกัด!!!ไม่เว้นกระทั่ง งานศิลปะ

สุดเท่ ณ เวลานี้ ก็ต้องยกให้“ไทยเท่”

ธีมนิทรรศการ สะท้อนและบ่งบอกความเป็นไทยในสมัยรัชกาลที่ 9 อย่างชัดแจ้ง โดดเด้งด้วยผลงานเหล่าศิลปินระดับเอลิสต์ ไม่ใช่เท่แค่ในบ้านเกิด แต่บางส่วนยังเคยขยับไกลไปสร้างชื่อในระดับอินเตอร์นู่นเลย

ถือเป็นการรวมผลงานที่ทรงคุณค่าที่สุด สมบูรณ์ที่สุด แล้วก็ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 7 ทศวรรษแห่งวงการศิลปะไทย

ความน่าสนใจมีอยู่ในทุกประเภทผลงานที่หลากหลาย จิตรกรรมประติมากรรม ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย งานจัดวาง ตลอดจน ศิลปะทดลอง

เท่ได้ในความเป็น ศิลปะไทย

มากกว่า 300 ชิ้น มากกว่า 300 ศิลปิน ทุกรุ่น ทุกผู้ ทุกนาม ต่างโคจรมาเจอกัน คัดสรรและเลือกเฟ้นโดย 6 ภัณฑารักษ์ “ลักษขณาคุณาวิชยานนท์” “เสริมคุณ คุณาวงศ์” “กฤติยา กาวีวงศ์” “ปกรณ์ กล่อมเกลี้ยง” “นิกันต์ วะสีนนท์” อันมี “ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์” เป็นหัวหน้าทีม

“ผมว่านี่คือการเรียนรู้ประวัติ ศาสตร์ศิลปะไทยครั้งสำคัญของบ้านเรา จะได้เห็นพัฒนาการในแง่มุมต่างๆ ตลอด 7 ทศวรรษ เราจะได้เห็นศิลปะสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าเป็นยังไง งามทแค่ไหน มีคุณค่าแค่ไหน ได้เห็นฝีมือศิลปินที่มีชื่อเสียงทั่วฟ้าเมืองไทยซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นบ่อยๆ”ศ.ดร.อภินันท์บอก

บางชิ้นหายาก เป็นของสะสมของคอลเลกเตอร์ชั้นนำ ที่ทางภัณฑารักษ์ไปหยิบยืมมา บางชิ้นเจ้าของผลงานก็พร้อมใจให้นำมาร่วมจัดแสดง บางชิ้นเจ้าของผลงานสร้างสรรค์นั้นสิ้นลมหายใจ แต่หลายๆ ชิ้นพวกเขายังอยู่

ถ้าให้ไล่เรียงรายนามก็อาจจะไม่ครบถ้วน และคงไม่สามารถยกตัวอย่างผลงานจนครบทุกคน แต่ไม่อยากให้พลาดเด็ดขาด ก็เช่นว่าบรมครูศิลปิน “ศิลป์ พีระศรี”“เฟื้อ หริพิทักษ์” “จิตร บัวบุศย์” “สวัสดิ์ ตันติสุข” “ชำเรือง วิเชียรเขตต์” “ประหยัด พงษ์ดำ” แน่นอนศิลปินที่เพิ่งจากไป “อังคาร กัลยาณพงศ์” กับภาพลายเส้นจากแท่งถ่าน “ถวัลย์ ดัชนี” “ประเทือง เอมเจริญ” “เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” รวมถึง ศิลปินหญิงความคิดฟุ้ง “อารยา ราษฎร์จำเริญสุข” กับงานประติมากรรมสะท้อนความเป็นเพศแม่ “Departure of Country Thai Girls Life”

ผลงานถูกแบ่งเป็น 9 กลุ่ม โดยคละเคล้าทั้งศิลปินรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ เริ่มที่ “การแสวงหาความเป็นไทย” สะท้อนความคิดเกี่ยวกับความเป็นไทยตั้งแต่เก่าก่อนจวบถึงปัจจุบัน ผ่านแง่มุมที่แหลมคมและคลาสสิกของศิลปิน

เท่ได้ในความเป็น ศิลปะไทย

“แรงบันดาลใจจากพุทธศาสนา” เป็นการเชื่อมโยงระหว่างศิลปะกับพุทธศาสนา รูปแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย

“พื้นที่ทางสังคมและการอุปถัมภ์ศิลปะ” แสดงความเติบใหญ่วงการศิลปะไทย ซึ่งนำไปสู่พัฒนาการที่น่าจับตา

“จินตนาการกับความเหนือจริง” นำเสนอผลงาน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความเร้นลับและมายาคติของสังคมไทย

“นามธรรมและปัญเจกชน” เอาใจคนรักงานนามธรรม หรือแอบสแตร็ก อันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของศิลปิน ผ่านรูปแบบ สีสัน ลายเส้น เชิญชวนให้ผู้ชมร่วมตีความอย่างสนุก

เท่ได้ในความเป็น ศิลปะไทย

“การต่อสู้ทางการเมืองและสังคม” ผนวกเอาเรื่องการเมืองและประเด็นสังคมแรงๆ มาไว้ในงานศิลปะ เพื่อทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนโฉมหน้าการเมืองไทยและความเป็นไปของสังคมไทย

“เพศสภาพและความเป็นชายขอบ” รวมไว้ซึ่งเรื่องเพศอย่างตรงไปตรงมา แถมยังล้วงลึกถึงชีวิตเล็กๆ ของคนชายขอบที่มักถูกละเลยเพิกเฉยจากสังคม

“จากอินเตอร์สู่ท้องถิ่น” แสดงความเจ๋งของศิลปินไทย ที่ไปโกอินเตอร์และได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติ สร้างความภาคภูมิใจกลับคืนท้องถิ่นและบ้านเกิด

สุดท้ายคือผลงานที่มีความแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร แนวคิดและรูปแบบ ตื่นตาตื่นใจ ทั้งหมดถูกรวมไว้ใน “ศิลปะทดลองและสื่อสร้างสรรค์”

“ด้วยความหลากหลายและมีรายละเอียดมากมายขนาดนี้ ผมว่าสิ่งที่น่าสนใจมันคือ มิติทางความคิด จากรูปแบบดั้งเดิมสู่การเป็นผลงานศิลปะร่วมสมัย มันคือความเป็นไทยที่คนไทยควรภาคภูมิใจ” ศ.ดร.อภินันท์ย้ำทิ้งท้าย

“ไทยเท่” เปิดแสดงบริเวณผนังโค้ง ห้องสตูดิโอ ชั้น 3 4 5 7 8 และ 9 หอศิลปวัฒธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร จนถึงวันที่ 4 พ.ย.นี้