‘หลงใหลความงามของเพชร’ สิรสิทธรา ลี้ภากรณ์

โดย...วราภรณ์

“เครื่องเพชรประดับกับผู้หญิงเป็นสิ่งที่แยกออกจากกันไม่ออก เพราะเครื่องประดับสามารถมักบ่งบอกสไตล์ของผู้สวมใส่ได้” นี่คือทัศนะของสาวนักการตลาด โอ๋-สิรสิทธรา ลี้ภากรณ์ พีอาร์ ไดเรกเตอร์ บริษัท ชาร์เม่ ทำธุรกิจร้านเครื่องประดับเพชร ซึ่งเป็นธุรกิจของพี่ชายที่มีอยู่ 3 สาขา ได้แก่ อาคารอื้อจือเหลียง อาคารเมืองไทย-ภัทร และสาขาอาคารสาทรธานี ดูแลร้านเครื่องประดับให้กับพี่ชาย โดยดูแลด้านการตลาดและการประชาสัมพันธ์เป็นหลัก

จากสาวนักการตลาดดีกรีปริญาตรีด้านบริหาร มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ปริญญาโท หลักสูตรบริหารธุรกิจกิจมหาบัณฑิต-นักบริหาร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาบริหารร้านเพชร สิรสิทธรา เล่าว่า เท่าที่ผ่านมาเธออยู่ในสายงานส่งเสริมด้านการตลาดเป็นหลัก ซึ่งก่อนหน้านี้เธอไม่ค่อยสนใจเรื่องเพชรหรืออัญมณีเท่าไหร่ แต่ชื่นชอบเครื่องประดับที่เป็นแฟชั่นมากกว่าเครื่องประดับเพชรที่มีค่า ทั้งๆ ที่มีพี่ชายเปิดร้านเพชรมานานกว่า 15 ปีแล้ว แต่อาจเป็นเพราะเธอได้ซึมซับความละเอียดอ่อนในการทำงานของพี่ชายผ่านความตั้งใจ และวันหนึ่งเมื่อพี่น้อง 5 คน ร่วมกันเปิดร้านชาร์เม่อีกสาขาเพื่อขยายกิจการ จึงเป็นจุดเปลี่ยนจากนักการตลาดมืออาชีพ มาเป็นเจ้าของกิจการเต็มตัว

“โอ๋เข้ามาช่วยพี่ชายดูด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ประมาณ 5 เดือนแล้ว ด้วยมาทำร้านเพชร โอ๋ก็ต้องอัพเดตเทรนด์เครื่องประดับไปด้วย เพราะในยุคนี้การออกแบบสำคัญควบคู่ไปกับการทำการตลาด หากเราไม่ตามกระแส ไม่รู้ว่าลูกค้าชอบอะไร เครื่องประดับก็จะไม่เตะตาลูกค้าเท่าที่ควร อย่างร้านโอ๋คงคอนเซปต์ 3 สาขา คือ เปิดในตึกสำนักงานทั้งหมด เพราะอยากทำงานแค่ 5 วัน ซึ่งกำลังซื้อของสาวๆ ออฟฟิศก็มีมาก การทำงานจึงลงตัว อีกทั้งสาวๆ ออฟฟิศมีความรู้มีความเข้าใจกับเครื่องประดับที่เราขาย แล้วลูกค้าก็ชอบ เพราะเพชรในร้านเราจะมีใบรับประกันเพชรทุกเม็ด เมื่อลูกค้ามาหาซื้อเพชรเราจะให้ความรู้ลูกค้าไปด้วยว่าเพชรเม็ดไหนน้ำเกรดระดับไหน เพราะหลักการทำงานของเรา คือ ความซื่อสัตย์กับลูกค้า ซึ่งลูกค้าที่ซื้อเพชรไปก็จะชอบแล้วก็เหมือนบอกปากต่อปากค่ะ”

เมื่อต้องมาลุยร้านเพชรเต็มตัว สิรสิทธราจึงเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับอัญมณี ด้วยการเรียนเพิ่มเติมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ หลักสูตรวุฒิบัตรธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ ทำให้เธอรู้ลึกไปถึงความงดงามและเสน่ห์ของเครื่องประดับเพชรหลากชนิด

“เพชรกับผู้หญิงเป็นเรื่องที่แยกกันไม่ออก ยิ่งไปเรียนเพิ่มเติมมายิ่งรู้ความเป็นไปเป็นมาของเพชร ซึ่งเป็นอัญมณีที่ล้ำค่าและสวยงามมากๆ ทำให้รู้ว่าเพชรมีหลายชนิด เช่น โมอีส คือเพชรสังเคราะห์ เพราะคนไม่มีเงินซื้อเพชรจริงก็จะซื้อโมอีส ซึ่งมีความสวยงามไม่แพ้กัน แต่เพชรอย่างไรก็ยังมีค่าในตัวมันเองอยู่ เพชรที่ดีที่สุดคือเพชรที่ไม่มีสีอะไรเลย แต่ปัจจุบันคนเล่นเพชรสีกันมากขึ้น และเพชรสีแดงคือเพชรที่มีราคาแพงที่สุด เพราะหายากที่สุด ต่อให้เศรษฐกิจไม่ดีอย่างไร คนก็ยังซื้อเพชรอยู่ แต่คิดถึงความคุ้มค่ามากขึ้น คือซื้อเพชรดีมีคุณภาพแต่ราคาไม่แพงเวอร์

พอโอ๋ได้มาเรียนรู้เกี่ยวกับอัญมณี ทำให้เกิดความหลงใหลในความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่รังสรรค์วัตถุดิบอันสวยงาม ผสมผสานฝีมือมนุษย์ในการเจียระไนทำให้ก้อนเพชรที่ดูเหมือนไม่มีค่า กลายเป็นเพชรมีเหลี่ยมมีมุมที่สวยงาม กลายเป็นเครื่องประดับที่มีค่ามากๆ ทำให้โอ๋รู้ซึ้งว่าอัญมณีหรือเครื่องประดับก็เป็นเครื่องบ่งบอกบุคลิกและสไตล์ของผู้สวมใส่ได้เหมือนกัน ”

นอกจากความจริงใจต่อลูกค้าแล้ว เรื่องดีไซน์ก็ต้องให้ความสำคัญ สำหรับแรงบันดาลใจในงานออกแบบเครื่องประดับสไตล์ชาร์เม่ทุกชิ้น โอ๋บอกว่าเกิดจากนักออกแบบที่มีประสบการณ์ภายในร้านที่เชี่ยวชาญด้านการออกแบบมาเป็นอย่างดี บางครั้งเธอก็ช่วยคัดสรรในการออกแบบด้วย

“แรงบันดาลใจในงานออกแบบได้มาจากการท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ ส่วนใหญ่เราจะเน้นงานออกแบบที่มีชิ้นเดียวไม่ทำซ้ำ เพื่อความยูนิคของผู้สวมใส่” โอ๋ยังแนะต่อว่า รูปทรงเพชรที่ผู้หญิงยุคนี้นิยม ได้แก่ ปรินเซส คัต ซึ่งเป็นการเจียระไนที่แพงที่สุด เพชรทรงรูปหัวใจถูกกว่าเพชรเม็ดกลม แต่เพชรเจียระไนแบบบาเกตต์ คือ เจียระไนเพชรให้มีรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าไม่มีเหลี่ยมมีมุมมากนัก คนวัยทำงานนิยมสวมใส่ นอกจากนี้ผู้หญิงไทยยังหันมานิยมไข่มุก เซาท์ซี ด้วย

หากถามถึงสไตล์การแต่งตัวและเลือกเครื่องประดับของสาวนักการตลาด ด้วยความเป็นผู้หญิงอารมณ์ดีมีรอยยิ้มอยู่เสมอ ดังนั้นสิรสิทธราจึงสนุกกับการผสมผสานสารพัดลายพิมพ์ สีสันสดใส เพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับชีวิตสดใส สดชื่นอยู่เสมอ

“บุคลิกของโอ๋ คือ เป็นผู้หญิงอารมณ์และเป็นสาวมั่น โอ๋จึงชอบเครื่องประดับที่ชิ้นใหญ่ๆ สีแรงๆ สะดุดตา โอ๋ชอบงานที่มีดีไซน์ไม่ธรรมดา อย่างสไตล์การแต่งตัวในวันหากจะต้องประชุมจะเน้นแต่งตัวสไตล์เรียบ หรู เน้นที่เครื่องประดับเพชรทั้งต่างหูและสร้อยคอเพชร เดี๋ยวนี้โอ๋นิยมซื้อเพชรแท้ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นสินทรัพย์ที่ส่งต่อไปถึงลูกหลานได้ เครื่องประดับบางชิ้นยังช่วยเสริมดวงแก่ผู้สวมใส่ได้ด้วย ซึ่งคนไทยปัจจุบันมีความเชื่อแบบนี้ แต่เครื่องประดับทั้งหมดโอ๋ชอบแหวนกับต่างหูที่ชีวิตนี้ขาดไม่ได้เลย ออกจากบ้านต้องใส่ โอ๋เคยอบรมด้านบุคลิกภาพกับสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส อาจารย์สอนว่า ถ้าผู้หญิงออกจากบ้านแล้วไม่ได้ใส่ต่างหู ก็เหมือนผู้หญิงไม่ได้หวีผมออกจากบ้าน ดังนั้นเครื่องประดับเป็นสิ่งสำคัญของผู้หญิงค่ะ”