posttoday

พระถูกยักษ์ตีหัว

26 สิงหาคม 2555

พระสารีบุตรเถระ พระอัครสาวกมือขวา ของพระพุทธเจ้าโคดม ได้ชื่อว่าเป็นพระที่มีขันติธรรม หรือมีความอดทนเป็นที่รู้จักในหมู่พระสงฆ์ด้วยกัน ตลอดชาวบ้านชาวเมือง จนมีผู้ต้องการทดสอบขันติธรรมของท่านอยู่หลายครั้ง

พระสารีบุตรเถระ พระอัครสาวกมือขวา ของพระพุทธเจ้าโคดม ได้ชื่อว่าเป็นพระที่มีขันติธรรม หรือมีความอดทนเป็นที่รู้จักในหมู่พระสงฆ์ด้วยกัน ตลอดชาวบ้านชาวเมือง จนมีผู้ต้องการทดสอบขันติธรรมของท่านอยู่หลายครั้ง

ครั้งหนึ่งมีพราหมณ์คนหนึ่งอยากทดลองว่าท่านจะอดทนอดกลั้นปานนั้นจริงหรือไม่วันหนึ่งจึงเดินย่องตามหลังท่านขณะเที่ยวบิณฑบาตอยู่ พอไปทันก็ประเคนกำปั้นใส่กลางหลังท่านหลายที

ตุ๊บ...ตุ๊บ...ตุ๊บ

พระเถระหยุดสักนิดแล้วหันมาชำเลืองว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง แต่ก็ยังคงเดินต่อไปอย่างสงบ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สำหรับพราหมณ์ ณ เวลาถัดจากนั้นก็เกิดความร้อนรุ่มทั่วสรรพางค์กาย

พราหมณ์รู้สึกผิดมหันต์ที่ไปทำเช่นนั้นกับพระเถระ ได้ก้มลงกราบเท้าพระเถระ ขอขมาท่านว่าที่ทำลงไปเพียงแต่ต้องการทดลองว่า ท่านมีความอดทนดังที่คนกล่าวขานจริงหรือไม่เท่านั้น

อีกเหตุการณ์พระสารีบุตรพำนักอยู่ที่กโปตกันทราวิหารใกล้กับกรุงราชคฤห์ กับพระมหาโมคคัลลานเถระ ท่านได้นั่งเข้าฌานสมาบัติอยู่กลางแจ้ง

ขณะนั้นมียักษ์ 2 ตนเป็นเพื่อนกัน เดินผ่านมาเห็นพระสารีบุตรนั่งอยู่พอดี จู่ๆ ยักษ์ตนชื่อ “นันทยักษ์” ได้พูดกับยักษ์สหายขึ้น

“เพื่อน! ข้าจะตีหัวพระองค์นี้” นันทยักษ์ ระเบิดเสียงดัง

แต่ก็ถูกยักษ์สหายห้ามปรามถึง 3 ครั้งว่า อย่าทำอย่างนั้นเพื่อน แกอย่าได้บังอาจทำอย่างนั้นเป็นอันขาด และแกตีหัวพระองค์นี้ไม่ได้นะ

“เพราะอะไร...ถึงตีไม่ได้” นันทยักษ์ ถามกลับด้วยเสียงดัง

“ท่านเป็นพระที่มีคุณวิเศษ มีฤทธิ์ มีอานุภาพมากนะ แกทำอะไรท่านไม่ได้หรอก อย่าทำเลย บาปนะจะบอกให้” ยักษ์สัมมาทิฐิ อธิบาย

ว่ากันว่านันทยักษ์ผูกอาฆาตพระเถระสารีบุตรมาตั้งแต่ชาติก่อน เพราะไม่พอในพระเถระ พอมาเจอพระเถระเข้าจึงรู้สึกไม่ถูกชะตาและไม่ชอบหน้าอย่างแรง

สมัยนี้คงเรียกว่า...เคมีไม่ตรงกัน

ขณะที่พระสารีบุตรเถระดื่มด่ำอยู่ในฌานสมาบัติ นันทยักษ์ก็ยกกระบองใหญ่ทุ่มที่ศีรษะของท่าน ฝ่ายพระโมคัลลานะซึ่งเป็นพระเถระที่มีฤทธิ์มากถือว่ารองพระพระพุทธเจ้าเห็นเหตุการณ์นั้นด้วยตาทิพย์ ต้องการจะป้องกันให้พระสารีบุตร แต่ไม่ทัน

ปัดได้แค่เพียงปลายกระบองยักษ์เท่านั้น

กระบองจึงถูกศีรษะพระเถระไม่เต็มที่ ซึ่งเวลาที่ยักษ์ฟาดกระบองลงมานั้นจวบกับเวลาที่ท่านออกจากสมาบัติพอดี จึงพลอยทำให้หัวคะมำบ้างเล็กน้อย

หากว่าท่านกำลังอยู่ในฌานสมาบัติอยู่ไซร้ กระบองยักษ์ที่แม้จะฟาดลงมากลางตัวหรือตรงอวัยวะส่วนไหนของท่าน หรือต่อให้ยักษ์หลายตนรุมกระหน่ำท่านพร้อมกัน ท่านก็ไม่ได้รู้สึกหรือรับรู้การกระทำของบรรดายักษ์

เปรียบเหมือนภูเขาศิลาแม้จะถูกพายุพัดอย่างแรงก็ไม่สร้างความเสียหายใดๆ

ความจริงแล้วยักษ์นี้มีกำลังมหาศาล เรียกว่ากำลังที่ยักษ์ตีนั้นสามารถทำให้พญาช้างสูง 3 ศอก 8 ศอก จมลงไปในดินได้ และทำลายยอดภูเขาใหญ่ให้พินาศได้

ฝ่ายพระสารีบุตรเถระเมื่อหันมาเห็นพระโมคคัลลานะยืนอยู่ข้างๆ จึงถามว่า ท่านมายืนอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อใด ผมไม่เห็นรู้เลย

พระโมคคัลลานะบอกว่า ผมเพิ่งมาเดี๋ยวนี้ แล้วท่านล่ะ เป็นอะไรบ้างหรือเปล่า

พระสารีบุตรไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ได้เอามือลูบศีรษะของตนเอง พลางกล่าวตอบว่าผมสบายดี เพียงแต่รู้สึกมึนศีรษะไปนิด แต่พอทราบว่า ยักษ์อันธพาลมาทำอันตรายท่าน ก็ไม่ถือสาหาความ นี้คือความมีขันติของท่าน

ฝ่ายนันทยักษ์หลังจากเอากระบองฟาดพระเถระ แผ่นดินได้แยกออกปรากฏเปลวไฟพุ่งขึ้นจากอเวจีมหานรก ยักษ์ได้ตกลงไปนรกนั้น

สมัยนี้ถ้าโดนกระทำอย่างพระสารีบุตรคงมีอันต้องเอาคืน เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แค่เหลือบมองหน้าโดยไม่ตั้งใจพวกก็ชักปืนยิงแล้ว