posttoday

เทพ ฤทธิ์แรงกล้า ไอทีที่ให้ชีวิตสบายๆ

23 สิงหาคม 2555

หากมองแกดเจ็ตไอทีที่ขายกันอยู่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะทำออกมาเพื่อรองรับการติดต่อสื่อสารกันเป็นหลัก

โดย...โยธิน อยู่จงดี

“หากมองแกดเจ็ตไอทีที่ขายกันอยู่ทุกวันนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะทำออกมาเพื่อรองรับการติดต่อสื่อสารกันเป็นหลัก จากบีบีมาเป็นวอทส์แอพในไอโฟน จนมาถึงไลน์ ทุกอย่างเพิ่มความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร เพื่อเข้าถึงข้อมูลข่าวสารกันมากขึ้น ผมคิดว่าถ้า 3จี บ้านเราเสถียรกว่านี้ ชีวิตทุกคนจะสะดวกสบายกว่านี้มากขึ้นอย่างแน่นอน”

เทพ ฤทธิ์แรงกล้า ผู้จัดการฝ่ายขายประจำประเทศไทยและอินโดจีน บริษัท โพลีคอม ประเทศไทย บอกเล่าถึงแนวคิดของแกดเจ็ตยุคใหม่ที่มีทุกอย่างพร้อมสรรพ แต่ไม่มีระบบ 3จี มารองรับ

ทำให้ชีวิตคนไทยส่วนใหญ่ยังต้องทนใช้ระบบโมบายล์อินเทอร์เน็ตช้าๆ กับระบบการทำงานแบบเดิม ซึ่งเวลานี้ต่างประเทศได้เริ่มพัฒนาระบบการทำงานออนไลน์กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะทุกคนต่างมีสมาร์ตโฟนใช้งาน ทำให้พวกเขาสามารถเข้าประชุมออนไลน์ได้จากทุกที่ทุกเวลา

เราสามารถเห็นปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกันผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ สามารถดูไฟล์งานพรีเซนต์ชิ้นเดียวกันและร่วมกันแก้ไขผ่านทางระบบออนไลน์ สิ่งเหล่านี้คือการทำงานยุคใหม่ ที่เราต้องเริ่มเรียนรู้และปรับตัวในธุรกิจที่ต้องแข่งขันกันพัฒนา ใครดีกว่าเร็วกว่าแก้ปัญหาลูกค้าได้มากกว่าย่อมได้เปรียบ แต่อย่างไรก็ดีในการทำงานด้วยระบบออนไลน์ย่อมต้องมีกติกาใช้งาน เทคนิคและมารยาทร่วมกันบ้าง เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพไปพร้อมๆ กัน

เทพ ฤทธิ์แรงกล้า ไอทีที่ให้ชีวิตสบายๆ

เทพ เล่าถึงเทคนิคในการติดต่อสื่อสารผ่านระบบออนไลน์หรือการประชุมผ่านระบบออนไลน์ว่า “เทคนิคการทำงานผ่านระบบออนไลน์อย่างแรกก็คือ การทำสเตตัส ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็แล้วแต่ควรตั้งสเตตัสเอาไว้ จะเป็นระบบสเตตัสอัตโนมัติก็ได้ อย่างถ้าผมมีประชุมก็จะขึ้นสถานะไม่ว่างหรือประชุมอยู่ คนที่อยากจะติดต่อผมก็จะรู้ว่าตอนนี้ไม่สามารถติดต่อผมได้

“ถ้ามีธุระด่วนจริงๆ ก็จะต้องโทรเข้าหรือเมสเซจมาหา หรือถ้าผมต้องการติดต่อเพื่อนที่อยู่ฮ่องกง แต่เขาขึ้นออฟไลน์ ผมก็รู้แล้วว่าถ้าจะติดต่อเขาได้หากมีธุระสำคัญก็คือ การโทรข้ามประเทศอย่างเดียว แต่ถ้าไม่เร่งด่วนก็แค่ทิ้งข้อความเอาไว้ เมื่อเขารู้ธุระเราก็จะติดต่อกลับมาได้ถูกเรื่องอย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบการทำงานออนไลน์นี้เราจะต้องมีกฎกติการ่วมกัน หรืออย่างการนัดประชุมผมก็จะไม่สนใจว่าลูกน้องอยู่ที่ไหน เขาอาจจะนั่งในร้านกาแฟ ในโรงเรียนตอนรอไปรับลูกผ่านไอแพด นั่นเป็นเรื่องของเขา แต่ผมจะสนใจเพียงอย่างเดียวว่างานของเขาทำไปถึงไหนแล้วเท่านั้น ดีกว่าเราจะเสียเวลาทำงานไปกับสภาพการจราจรที่ติดขัด

“ผมมองว่าการใช้งานวิดีโอโมบิลิตี จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับการทำงานออฟฟิศในสายงานที่ต้องเดินทางเป็นประจำ และไม่สะดวกในการเดินทางกลับเข้ามาประชุมในออฟฟิศ จะดีกว่าไหมถ้าเราทำให้ทุกสถานที่กลายเป็นออฟฟิศในเวลางาน และเปลี่ยนการวัดประสิทธิภาพการทำงานมาขึ้นอยู่ที่ผลของงานที่ออกมาไม่ใช่เวลาตอกบัตร” ผู้บริหารหนุ่มบอกแนวคิดในการทำงานยุคใหม่ๆ ที่หลายๆ องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนการทำงานแบบนี้ได้

ทำให้การเลือกแกดเจ็ตของเขาขึ้นอยู่กับประโยชน์ในการทำงานและใช้ในไลฟ์สไตล์ของเขาในทุกด้านได้เป็นหลัก ขอให้เป็นสมาร์ตโฟน ต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าถึงงานและข้อมูลที่ต้องการได้ก็เพียงพอแล้ว เทพ บอกกับเราว่า ผมจะดูถึงประโยชน์ที่ผมได้ในเวลาทำงานและส่วนตัว อย่างเช่น ไอโฟน ซึ่งแน่นอนว่าขาดไปไม่ได้ เพราะทุกอย่างทำได้ในนี้ แต่ที่เริ่มใช้มากขึ้นก็คือไอแพด ซึ่งแทบจะใช้แทนอุปกรณ์เกือบทุกอย่าง เช่น ในเวลางานอย่างเวลาประชุมก็เอาไอแพดในการเข้าประชุมโดยไม่ต้องหยิบแมคบุ๊กเลย หรือประชุมออนไลน์ก็ใช้ไอแพดอีกเช่นเคย

“นอกจากใช้ไอแพดเวลาทำงานแล้ว ผมจะใช้ในการติดตามข้อมูลอ่านข่าวสารอินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ ทั้งในเรื่องงานและเรื่องที่ผมสนใจเป็นพิเศษ อ่านข่าว อ่านหนังสือ หลังๆ ผมเป็นสมาชิกของอีแมกกาซีนค่อนข้างเยอะ โดยอีแมกกาซีนผมดูที่ความง่ายและความสะดวกในการเข้าถึงคอนเทนต์ เมื่อก่อนเวลาสมัครแมกกาซีน ผมก็สมัครและรอให้เขาส่งมา แต่เดี๋ยวนี้ผมสามารถโหลดอีแมกกาซีนมาสืบค้นย้อนหลังสามารถอ่านได้ตลอดเวลา สมมติว่าผมเกิดอยากอ่านข้อมูลนาฬิกาที่ผมกำลังจะซื้อและจำได้ว่าอยู่ในจีเอ็มวอตช์ ผมก็สามารถเปิดย้อนหลังได้ ซึ่งผมคิดว่าการอ่านอีบุ๊กก็ทำให้เราสะดวกและเข้าถึงข้อมูล แม้ว่าตัวหนังสือจะเล็กไปสักนิดก็ตาม” เทพ เล่าความประทับใจในการใช้ในการอ่านอีแมกกาซีน ที่เหมือนยกกองหนังสือที่บ้านเอามาไว้ในเครื่องไอแพดเบาๆ เพียงเครื่องเดียว

อย่างไรก็ดี เทพ ย้ำว่า เทคโนโลยีพัฒนาจนชีวิตเราง่ายขึ้น สมาร์ตโฟนทำให้เรามีอิสระในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ทั้งในด้านการทำงานและไลฟ์สไตล์ของเรา โดยเฉพาะโซเซียลมีเดีย มีผลในชีวิตประจำวันค่อนข้างเยอะ แต่ถ้าเราใช้โซเซียลมีเดียใช้ในการทำงานกลุ่ม แชร์ข้อมูล ช่วยกันสร้างสรรค์ข้อมูลดีๆ ออกมา ทุกอย่างก็จะออกมาดีตาม ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอามาใช้เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษเท่านั้น