posttoday

หน้าใหม่ ไฟแรง พร้อมโชว์ของ เวที แอล แฟชั่น วีก ครั้งที่13

22 สิงหาคม 2555

แอล แฟชั่น วีก2012 Autumn/Winterครั้งที่13ที่จะจัดระหว่างวันที่11-14ต.ค.ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์

โดย...มีนา  

แอล แฟชั่น วีก2012 Autumn/Winterครั้งที่13ที่จะจัดระหว่างวันที่11-14ต.ค.ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้รับเกียรติจากดีไซเนอร์ชั้นนำแถวหน้าของเมืองไทยทั้งหมด 16 ดีไซเนอร์ 14 โชว์ คือ 27Friday, Curated By Ek Thongprasert, Hook’s By prapakas, Milin, Painkiller, Playhound, Senada, Something Boudoir, The Contemporaries by OCAC, Theatre, Tu’I, Vatit Itthi

โชว์ที่สร้างสีสันบนเวทีทุกปี คือโชว์ของดีไซเนอร์หน้าใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามอง4โชว์ ได้แก่“Kem Issara”แบรนด์ของเข็ม-กรัชเพชร อิสสระ“Kwankao”แบรนด์ของแพง-ขวัญข้าว เศวตวิมล“Vantanika”แบรนด์ของแพร-วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยาและ“Purinutt”แบรนด์ของเพชร-ภูริณัฐ วงศ์สถาพรสกุลพวกเขาจะกลายเป็นกำลังสำคัญในการเสริมทัพวงการแฟชั่นไทยให้แข็งแกร่งในวงการแฟชั่นโลกมากขึ้น

ทั้ง 4 โชว์ นักออกแบบแต่ละคนสะบัดปลายดินสอออกแบบคอลเลกชัน ออทัมน์/วินเทอร์ 2012 และเตรียมงานกันอย่างเต็มที่ เพราะนี่ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะช่วยกระตุ้นวงการออกแบบเสื้อผ้าไทยได้มีความเคลื่อนไหว และนับเป็นความท้าทายที่จะได้โชว์ฝีมือบนเวทีระดับประเทศ ซึ่งโอกาสแบบนี้หาได้ไม่บ่อยนัก

‘ไดมอนด์ จูบิลี’โดย ภูริณัฐ

หน้าใหม่ ไฟแรง พร้อมโชว์ของ เวที แอล แฟชั่น วีก ครั้งที่13

บนเวทีประกวดนักออกแบบหน้าใหม่ ชื่อของ เพชร-ภูริณัฐ วงศ์สถาพรสกุล วัย 31 ปีเป็นที่รู้จักดี ล่าสุดกับรางวัล“คอนเทมโพรารี แฟชั่น ดีไซน์ คอนเทสต์ อะวอร์ด”จัดสำนักงานวัฒนธรรมศิลปะร่วมสมัยและรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ภูริณัฐจบการศึกษาจากAssumption Commercial Collegeสาขาบริหารธุรกิจ แต่ด้วยชื่นชอบแฟชั่น เขาใฝ่รู้ไปเรียนเพิ่มเติมสาขาการออกแบบและแพตเทิร์นดีไซน์ สถาบันตักส์ศิลาแฟชั่น เรียนการตัดเย็บ การออกแบบชั้นสูง พอมีทักษะด้านออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้า เขาส่งผลงานเข้าประกวดบนเวทีต่างๆ อยู่เสมอ

ภูริณัฐ ก่อตั้งแบรนด์“ภูริณัฐ”เมื่อต้นปี ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจากการได้รับรางวัลชนะเลิศคอนเทมโพรารี แฟชั่น ดีไซน์ คอนเทสต์ อะวอร์ด สำหรับแรงบันดาลใจในการทำงานออกแบบเขาได้มาจากสิ่งรอบตัว ขึ้นอยู่กับว่า ณ ช่วงเวลานั้น เขาสนใจเรื่องใดเป็นพิเศษ เช่น ศิลปะ ต้นไม้ ใบหญ้า หรือเรื่องที่มีความซับซ้อนอย่างปรัชญาและศีลธรรม รวมทั้งการเดินทางท่องเที่ยว ในฐานะเป็นนักออกแบบไทย เขาก็มีความใฝ่ฝันอยากให้แบรนด์ตัวเองเป็นอินเตอร์เนชันแนล แต่ทั้งนี้ต้องผลักดันตัวเองให้มากที่สุด แต่พื้นฐานก็ต้องพยายามทำชีวิตปัจจุบันได้ดีที่สุด

สำหรับคอลเลกชันที่จะปรากฏโฉมบนเวทีแอลปีนี้ คือ“ไดมอนด์ จูบิลี”ภายใต้แนวคิด ไม่ว่าจะมีวัสดุแทนค่าใดๆ แต่เพชรก็คืออัญมณีที่มีค่าที่สุดในโลก เขาเตรียมทำโชว์ประมาณ 30 ลุค สิ่งที่เราจะได้เห็นผลงานของเขาบนเวทีแอล คือ การทดลองใช้วัสดุใหม่ๆ เช่น พลาสติกและอัญมณีมาใช้ในงานออกแบบ

“ผมได้แรงบันดาลใจมาจากศิลปะบาโรกมีการใช้วัตถุดิบแปลกๆ ใหม่ๆ เช่น พลาสติกมาสร้างสรรค์บนเนื้อผ้าในรูปแบบใหม่ ส่วนโทนสีที่ร้อนแรงในฤดูออทัมน์/วินเทอร์ 2012 นี้ ได้แก่ สีแดง น้ำเงิน เหลือง ดำ และคีย์สีของไดมอนด์ จิวเวลรี เฉดสีของเพชร

เวที แอล แฟชั่น วีก เป็นที่รู้จักดีในระดับเอเชีย เป็นเวทีทรงเกียรติของคนไทยที่สามารถสู้ได้ในระดับสากล แน่นอนเวทีนี้ช่วยสร้างกระแสให้สังคมไทย รวมทั้งวงการแฟชั่นไทยได้ดีมาก อีกทั้งยังเป็นการนำเสนอไดเรกชันและโชว์ศักยภาพของนักออกแบบไทยด้วยกันเอง”

ปลาเข็ม-กรัชเพชร อิสสระ เจ้าของแบรนด์‘เข็มอิสสระ’

หน้าใหม่ ไฟแรง พร้อมโชว์ของ เวที แอล แฟชั่น วีก ครั้งที่13

สาวน้อยพูดจาฉะฉานปลาเข็ม-กรัชเพชร อิสสระ ลูกสาวคนเล็กตระกูลอิสสระ ที่ขอทำตามความชอบมาทำธุรกิจเปิดร้านเสื้อผ้าของตัวเองภายใต้แบรนด์“เข็มอิสสระ”

กรัชเพชร เผยสไตล์ของแบรนด์ คือ ไม่ใช่คนแฟชั่นจัด แค่ชอบของที่สวยงาม คลาสสิก มีการแฝงรายละเอียดจากการเรียนด้านTextilesเข้ามา เรียกว่าเป็นงานฝีมือ เป็นงานศิลปะที่ใช้ความประณีตในการสร้างสรรค์ เป็นแบรนด์ที่เรียบแต่ใช้สีแปลกๆ ไม่เข้ากันแต่ดูดี นี่คือคำนิยามเอกลักษณ์ของแบรนด์

กรัชเพชร บอกว่า เธออยากทำเสื้อผ้าที่อยู่เหนือกาลเวลา คือไม่ว่าจะฤดูไหนก็สามารถสวมใส่ได้ เก็บได้ไม่ว่าจะเป็นปีไหนก็ตาม“เข็มจะเน้นความคลาสสิก เรารู้เทรนด์เป็นไง แต่จะไม่ตามโดยสิ้นเชิง”นี่คือความแปลกใหม่ที่ทุกคนจะได้เห็นบนแฟชั่นโชว์แอลปีนี้

สำหรับความผูกพันระหว่างเข็มกับแอล แฟชั่น วีก ปีที่แล้วเข็มได้ดูโชว์ในงานแอล แฟชั่น วีก แล้วรู้สึกประทับใจ เพราะเวทีนี้เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก แมกกาซีนก็ระดับอินเตอร์เนชันแนล อีกทั้งเวทีนี้ก็เป็นศูนย์รวมของคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ ถือเป็นโอกาสอันดีที่เธอจะได้มาเรียนรู้ ได้เห็นประสบการณ์ใหม่ๆ ด้านการออกแบบ นับเป็นประสบการณ์ของแบรนด์ที่ได้ไปโชว์บนเวทีใหญ่ๆ เช่นนี้

 “เมื่อได้รับเชิญให้มาร่วมโชว์ในกลุ่มนักออกแบบหน้าใหม่ก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก เพราะถือเป็นเวทีที่ดีเพื่อให้นักออกแบบรุ่นใหม่ๆ ได้โชว์ฝีมือ นับว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง ในโชว์ครั้งนี้จะได้เห็นเทคนิคการสร้างสรรค์เนื้อผ้าใหม่ๆ เช่น การอัดพลีต ใช้เทคนิคแฟบริค ดีคอนสตรักชัน คือการทำลายเนื้อผ้าให้เกิดสิ่งใหม่ๆ สำหรับโทนสี แบ่งเป็นสีเรียบๆ 1 เซ็กชัน และการใช้สีแปลกๆ มาผสมกันค่ะ”

‘Memento Mori’วทานิกา

หน้าใหม่ ไฟแรง พร้อมโชว์ของ เวที แอล แฟชั่น วีก ครั้งที่13

วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา ดีไซเนอร์สาวเลือดไทย วัย 27 ปี เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าและกระเป๋าน้องใหม่ วทานิกา นักออกแบบดีกรีปริญญาตรีProduct Design & DevelopmentจากLondon College of Fashionคนนี้บอกว่า ตอนแรกตั้งใจทำกระเป๋าและมีเสื้อผ้าบ้างเล็กน้อย

แต่ปรากฏทำไปคนให้ความสนใจเสื้อผ้ามากกว่าเครื่องหนัง เพราะเสื้อผ้าของเธอมีซิกเนเจอร์ตรงคัตติงที่ดีและคำนึงถึงแพตเทิร์น ผู้หญิงใส่แล้วหุ่นดี เน้นสินค้าที่ลักชัวรี เธอจึงลุยเรื่องเสื้อผ้าผสมผสานกับการออกแบบกระเป๋า ทำแบรนด์มาเกือบปีแล้ว วทานิกาคิดโกอินเตอร์ด้วยธุรกิจกระเป๋าหนัง โดยวางแผนบุกไปทำตลาดเครื่องหนังที่อังกฤษก่อน และกำลังจะคิดเพิ่มไลน์สินค้าเป็นออกแบบชุดเจ้าสาวงดงามระดับโอต-กูตูร์

 “จริงๆ ในการทำงานศิลปะ เช่น งานออกแบบ แพรไม่ค่อยใช้แรงบันดาลใจ เพราะทำงานค่อนข้างเครียดและเหนื่อยมาก ถึงแม้เราเป็นแบรนด์ไทยจะส่งออกไปเมืองนอกก็เป็นการทำงานที่ยาก แต่เราก็ต้องพิสูจน์ว่างานของเราต้องเนี้ยบจริงๆ ซึ่งของดีไม่พอ ต้องมีประชาสัมพันธ์ที่ดีด้วย ซึ่งเป็นงานที่ไม่ง่ายและก็ไม่ยาก ตลาดเมืองนอกถ้าของดีจริงๆ จะอยู่ได้ ซึ่งฝีมือตัดเย็บของไทยดี แต่ต้องรู้จักเลือกช่างที่มีฝีมือที่ดี ซึ่งเราสู้ยุโรป อเมริกา ได้สบาย”

สำหรับงาน แอล แฟชั่น วีก วทานิกา บอกว่า ติดตามบ้างแต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ดูเพราะติดเรียนที่อังกฤษ“ได้ดูบ้าง แต่ไม่ทุกครั้ง ในต่างประเทศไม่มีแฟชั่นโชว์ที่สนับสนุนดีไซเนอร์หน้าใหม่แบบนี้เพื่อให้เป็นที่รู้จัก ถือเป็นโอกาสที่ดีในเรื่องการทำธุรกิจในต่างประเทศของดีไซเนอร์ไทย แพรคิดว่าการร่วมในแฟชั่นโชว์ครั้งนี้จะเป็นโอกาสที่ดีในการขยายสาขาวทานิกาไปยังประเทศอังกฤษ ทำให้เราได้รู้จักพี่น้องในวงการ อาจจะมีคำแนะนำที่ช่วยเหลือกัน”

วทานิกา เล่าเกี่ยวกับการทำงานเพื่อเวทีแอลฯ ว่า ขณะนี้เตรียมงานไปได้มากกว่า 60% แล้ว โดยใช้ชื่อคอลเลกชันว่า“Memento Mori”เป็นภาษาละติน คำสอนที่สอนให้มนุษย์รู้ว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน สักวันมนุษย์ก็ต้องตาย แต่เธอศึกษาลงไปลึกกว่านั้น

แรงบันดาลใจในงานออกแบบชิ้นนี้ เธอได้มาจากงานปั้นที่ทำสมัยเรียน แต่นำมาพัฒนาให้ลึกซึ้งขึ้น ในโชว์ครั้งนี้เธอทำโชว์ทั้งหมด 40 ลุค ปรับให้ใส่ได้จริง เป็นเรดดี้ทูแวร์ เน้นโทนสีดำ ขาว ทอง ดาร์กบลู และสีชมพู มีการใช้หนังซึ่งเป็นจุดเด่นของแบรนด์มาเป็นส่วนประกอบในเสื้อผ้าด้วย“โชว์นี้เราเต็มที่เหมือนกับงานแฟชั่นโชว์วันเปิดตัว ครั้งนู้นอบอุ่นกว่า แต่ครั้งนี้เป็นธุรกิจมากขึ้น”วทานิกา บอก

‘บียอร์น ไทม์’ขวัญข้าว เศวตวิมล

หน้าใหม่ ไฟแรง พร้อมโชว์ของ เวที แอล แฟชั่น วีก ครั้งที่13

แม้ศึกษาจบคณะครุศาสตร์ ภาควิชาดนตรีศึกษา (เอกเชลโล) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ด้วยความที่ชอบแฟชั่นก็ผลักดันให้ แพง-ขวัญข้าว เศวตวิมล ทำแบรนด์เสื้อผ้าของตนเอง โดยใช้ชื่อแบรนด์“ขวัญข้าว”ซึ่งใกล้จะครบรอบ1ปีแล้ว

สิ่งที่ผู้คนจะเห็นผลงานออกแบบของเธอบนเวทีแอลเป็นครั้งแรกจะมีผลงานออกแบบครบทุกไลน์ทั้งเครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า และเสื้อผ้า

สำหรับนิยามความเป็นขวัญข้าว คือ“ชิค ชิล คูล”เรียกว่าเป็นสาวเปรี้ยว แต่ก็แอบหวาน เรียบง่าย แต่เก๋“แพงชอบงานศิลปะ สิ่งที่อยู่รอบตัวเป็นศิลปะทั้งหมด แฟชั่นและดนตรีก็จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของแพง แพงชอบแฟชั่นและอยากค้นหาแนวเสื้อผ้าที่เป็นสไตล์ตัวเองและชอบแต่งตัว แรงบันดาลใจในงานออกแบบได้มาจากบทเพลง เพราะเพลงบอกยุคสมัยได้ ทำให้แพงออกแบบงานได้ละเอียดขึ้น”

สำหรับเวทีแอล แฟชั่น วีก ขวัญข้าวมีความคิดเห็นว่าเป็นเวทีที่ดีมากสำหรับคนไทยได้ทำแฟชั่นวีก ทำให้กระแสแฟชั่นไทยตื่นตัว ที่สำคัญคือแอลสนับสนุนดีไซเนอร์หน้าใหม่ๆ เชียร์ให้แสดงผลงาน การตัดสินใจเข้ามาร่วมเวลาในครั้งนี้ เพราะแพงเป็นแฟนแอล แฟชั่น วีก มาโดยตลอด และเป็นคนชอบแฟชั่น คิดว่าถ้าวันหนึ่งทำงานในวงการแฟชั่น คงได้มีโอกาสทำงานร่วมกับแอล ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดี ถือว่าแอลให้เกียรติที่ให้เราไปร่วมงานด้วย เพราะแบรนด์ที่แอลเลือกไปล้วนเป็นแบรนด์รุ่นพี่ที่แข็งแรงและโตแล้ว การแสดงแฟชั่นโชว์เป็นสิ่งที่เธออยากทำ

 “ยอมรับว่าแพงตื่นเต้นสำหรับโชว์ครั้งนี้มาก เพราะแอลเป็นเวทีระดับประเทศ โชว์ของแพงอาจจะมีความแปลกใหม่บนเวทีปีนี้ คือแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นแตกต่างกัน แปลกใหม่อาจจะเป็นความใหม่ของแบรนด์ที่ได้โชว์บนเวทีนี้เป็นครั้งแรก ครั้งแรกของแพงน่าจะมีอะไรใหม่ๆ แต่ขออุบไว้ก่อน แต่มีอะไรให้ดูสนุกสนานตื่นเต้นแน่นอน”ขวัญข้าว การันตี

คอลเลกชันออทัมน์/วินเทอร์ 2012 แพงยังคงได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติที่เน้นสีธรรมชาติ สีหลักๆ เบจ ขาว ดำ สามสียังคงอยู่ แต่จะมีสีฤดูหนาวเข้ามา เช่น สีเขียวขี้ม้า สีครามน้ำทะเล สีม่วงปีกแมลงทับ รวมถึงลายพรินต์ที่เข้ากับคอลเลกชัน ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์และเป็นจุดเด่นของแบรนด์ คือ ผ้าพิมพ์เป็นลายสังเคราะห์จากสิ่งที่เห็นและรู้สึก

“คอลเลกชันนี้แพงตั้งชื่อว่า บียอน ไทม์ คือ เหนือกาลเวลา แพงพูดถึงเรื่องสิ่งที่เหนือกาลเวลา เช่น ธาตุ ความเป็นธรรมชาติค่ะสำหรับอนาคตของแบรนด์แพงก็มองไปถึงการเติบโต แต่ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป และต้องดูความพร้อมของเราด้วย”