posttoday

เพ็ญวิษา โพธิ์สวัสดิ์ คลื่นลูกใหม่ธุรกิจเครื่องสำอาง

20 สิงหาคม 2555

มารี ชองตาล บริษัทเครื่องสำอางชื่อฝรั่งเศส แต่แบรนด์ของคนไทยแท้ ได้สาวร่างเล็กบอบบาง “ส้มเพ็ญวิษา โพธิ์สวัสดิ์”

โดย...วรธาร ทัดแก้ว

มารี ชองตาล บริษัทเครื่องสำอางชื่อฝรั่งเศส แต่แบรนด์ของคนไทยแท้ ได้สาวร่างเล็กบอบบาง “ส้มเพ็ญวิษา โพธิ์สวัสดิ์” มาเป็นผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดไม่ทันไร ก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น อย่างหนึ่งที่สัมผัสได้ มารี ชองตาล ที่มีอายุครบ 15 ปีในวันที่ 15 ส.ค.นี้เริ่มเป็นที่รู้จักและรับรู้ในตลาดมากขึ้นต่างจากเมื่อก่อน เราจึงมิอาจปฏิเสธความสามารถของเธอได้

ขันอาสาทำงาน

“ส้ม” คือ หลานสาวของ พล.ท.หญิง ดร.สุรภี เหมวนิช ประธานกรรมการ บริษัท มารี ชองตาล จบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ มหาวิทยาลัยรังสิต ใช้เวลาเรียนแค่ 3 ปีครึ่ง ปริญญาโท ด้านการจัดการการเป็นผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยเดียวกัน และผ่านการอบรมหลักสูตรเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่มาแล้ว เข้าสู่ชายคามารี ชองตาล เป็นปีที่ 3 และเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้นั่งตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดมาได้ 45 เดือน

ก่อนขึ้นเป็นผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด เธอเหมือนพนักงานคนหนึ่งที่ทำงานทุกอย่างซึ่งไม่ได้มีอภิสิทธิ์เหนือพนักงานคนอื่นๆ แต่จะต่างตรงที่เธอต้องเรียนรู้งานทุกอย่างจากคุณป้า บางครั้งจากผู้บริหารคนอื่นๆ ไปในตัวนอกเหนือจากงานที่ได้รับมอบหมาย หรือไม่ได้รับมอบหมาย เช่น หมั่นศึกษาผลิตภัณฑ์สินค้าเพื่อการวางแผนด้านการตลาด และการขายเป็นต้น

ส้ม เล่าถึงการเข้ามาทำงานในมารี ชองตาล ว่า เบื้องต้นเป็นความต้องการของตนที่ขันอาสาอยากช่วยงานป้า เพราะมองว่าไม่มีใครมาแบ่งเบาภาระงานที่นับวันธุรกิจจะขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากพี่ชาย (ลูกป้า) เป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไม่มีเวลามาดูแลเพราะต้องสอนหนังสือ

เพ็ญวิษา โพธิ์สวัสดิ์ คลื่นลูกใหม่ธุรกิจเครื่องสำอาง

“ส้มเข้าไปหาและเอ่ยปากขอทำงานกับคุณป้าตรงๆ บอกอยากช่วยงาน แรกทีเดียวเท่าที่สังเกตคุณป้าแบ่งรับแบ่งสู้ เหมือนกำลังชั่งใจว่าเราจะไหวไหม หรือจะอยู่กับท่านไปนานเท่าไหร่ อันนี้ส้มคิดเองนะคะ ที่สุดแล้วท่านรับ ตั้งแต่นั้นมาส้มก็เต็มที่กับงานตลอด และตั้งใจจะช่วยท่านไปเรื่อยๆ ไม่คิดไปไหน เพราะโดยบุคลิกนิสัยของส้มแล้วจะมีความสุขมาก ถ้าได้ทำงานกับคนที่ตัวเองรักนับถือโดยเฉพาะที่เป็นญาติหรือพ่อแม่ ตอนนี้การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เริ่มเกิดขึ้น คุณป้าก็แฮปปี้” เด็กนิเทศ เล่าการเข้ามาสู่ชายคามารี ชองตาล

มุ่งมั่นสร้างแบรนด์

ในการทำธุรกิจไม่ว่าอะไรก็ตามใครๆ ก็รู้ว่า “แบรนด์” หรือ “ยี่ห้อ” นั้นสำคัญแค่ไหนในการนำเงินตราเข้าสู่บริษัท ในฐานะผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด ส้มให้ความเห็นเรื่องแบรนด์ว่า เธอก็ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์เป็นอันดับแรก กล่าวคือผู้คนต้องรับรู้และจดจำแบรนด์ “มารี ชองตาล” ให้ได้ ไม่ว่าจะเห็นที่ไหนก็ต้องร้องอ๋อ...มารี ชองตาล นี่เอง

เธอบอกว่า การสร้างแบรนด์ต้องมาก่อน ซึ่งถ้าแบรนด์เป็นที่รับรู้เท่าไรก็จะเป็นที่จดจำและติดตาของคนมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อนั้นการทำการตลาดและการขายจะง่ายขึ้น แต่ว่าก่อนหน้านี้การผุดโปรโมชันไม่ค่อยมี การโฆษณาการทำการตลาดทางสื่อต่างๆ ไม่ว่าหนังสือพิมพ์ นิตยสาร โทรทัศน์และงานต่างๆ ค่อนข้างนิ่ง ทำให้การรับรู้แบรนด์จำกัดอยู่ในกลุ่มเดิมๆ

“ที่ผ่านมาเราทำการขายการตลาดปกตินะคะ ไม่ใช่ไม่ทำ แต่เราทำอยู่ในกลุ่มลูกค้าพื้นฐานซึ่งเป็นกลุ่มเดิมของเราตลอดก็คือพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งพยาบาลหรือคนที่ทำงานในโรงพยาบาลต่างๆ จะรู้จักมารี ชองตาล เป็นอย่างดี แต่เราไม่ได้ทำการตลาดเชิงรุกและทำการตลาดในกลุ่มลูกค้าอื่นๆ เช่น คนที่ชอบเดินห้าง สาวออฟฟิศ นิสิตนักศึกษา ทว่าตอนนี้เราได้มาทำโฆษณาในสื่อต่างๆ ทั้งเคเบิลทีวี ฟรีทีวี ทำการตลาดด้วยการออกบูธ จัดโรดโชว์ พรีเซนต์ผลิตภัณฑ์ในที่ต่างๆ นอกเหนือจากโรงพยาบาล เช่น ห้างสรรพสินค้า มีการผุดโปรโมชันต่างๆ รวมถึงการออกแบบแพ็กเกจจิงที่ดึงดูดใจลูกค้าเป็นต้น ทั้งหมดนี้เราต้องการให้คนรับรู้ในแบรนด์มารี ชองตาล ดีขึ้นและมากขึ้น” นักการตลาดรุ่นใหม่ อธิบาย

ขอแค่ 10 ใน 100

เธอบอกอีกว่า สถานการณ์ตอนนี้ของมารี ชองตาล ได้รับการตอบรับจากลูกค้าหลากหลายและมากขึ้นเป็นลำดับ จนมีคนบ่นว่าหาซื้อยากลำบาก ทำให้มีความจำเป็นต้องเพิ่มตัวแทนจำหน่ายมากขึ้นจากเดิมทั่วประเทศ 15 แห่ง เป็น 30 แห่งในเร็วๆ นี้

“ในธุรกิจเครื่องสำอาง ถ้าเปรียบเมื่อก่อนกับตอนนี้ มารี ชองตาล เป็นที่รู้จักในตลาดมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยผู้คนเริ่มจดจำแบรนด์เราได้เยอะ จากสื่อต่างๆ จากการทำโฆษณาและการตลาดของเรา และทุกวันนี้เราได้ยินบ่อยขึ้น ลูกค้าบ่นหาซื้อของของเรายาก ทำให้จะต้องเพิ่มตัวแทนจำหน่ายมากขึ้นในเร็วๆ นี้” ส้ม ประกาศหาตัวแทนจำหน่าย

เธอบอกว่า รู้สึกมีความสุขกับความเปลี่ยนแปลงดีๆ ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และไม่หวังอะไรมากขอแค่มารี ชองตาล อยู่ใน 10% ใน 100% ของธุรกิจเครื่องสำอางยักษ์ใหญ่ทั้งหลายก็พอใจแล้ว