posttoday

ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช อีกหนึ่งความอร่อยของชีวิต

21 มิถุนายน 2555

“เชฟฟาง” คือชื่อเรียกที่คนรักอาหารและสไตล์การทำอาหารแบบคนรุ่นใหม่รู้จักหนุ่มคนนี้ ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช

โดย...พุสดี สิริวัชระเมตตา

“เชฟฟาง” คือชื่อเรียกที่คนรักอาหารและสไตล์การทำอาหารแบบคนรุ่นใหม่รู้จักหนุ่มคนนี้ ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช หนุ่มมาดกวนที่ตัดสินใจวางอนาคตไว้กับการทำอาหารที่เขารัก

ปัจจุบันเชฟฟางเป็นพิธีกรรายการครัวอินดี้ รายการสอนทำอาหารโดนใจคนรุ่นใหม่

อะไรคือสิ่งที่ทำให้หนุ่มหน้าตี๋คนนี้หันมารักการทำอาหาร คือคำถามแรกของการพบกันในวันนี้ เชฟฟาง เล่าว่า จริงๆ แล้วตัวเขาไม่ได้หาตัวเองเจอตั้งแต่ยังเด็ก หรือจนเข้ามามหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม เพราะใครจะรู้ว่าพ่อครัวหนุ่มคนนี้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะบริหารธุรกิจ ภาควิชาการตลาด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยความคิดที่ว่าเรียนอะไรที่กว้างๆ ไว้ก่อน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการนำมาต่อยอดในอนาคต แต่สุดท้ายหลังจากทดลองไปนั่งเป็นพนักงานออฟฟิศ เชฟฟางก็พบว่าไม่ใช่ตัวเองเลยแม้แต่น้อย

“ตอนผมเริ่มเรียนจบมา ผมเริ่มคิดว่าอยากจะทำอะไรที่ตัวเองอยากทำ จนสุดท้ายมาลงตัวที่การไปเรียนทำอาหารตะวันตกและไทยที่โรงเรียนอาหารนานาชาติสวนดุสิต และเริ่มต้นฝึกงานที่นั่น จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ผมพบตัวเองว่า อยากเป็นเชฟ”

จากนั้นด้วยเพราะเส้นทางชีวิตที่ถูกกำหนดไว้แล้ว หลังจากบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่ เชฟฟางได้มีโอกาสไปไปเรียนต่อด้านอาหารอย่างจริงจังที่ French Culinary Institute สาขา Culinary Art ที่มหานครนิวยอร์ก ไม่เชื่อว่าเชฟฟางจะเป็นเด็กไทยที่สามารถคว้าอันดับ 1 จากสถาบันแห่งนี้มาได้

“ผมโชคดีมากที่ได้มีโอกาสไปเรียนที่นั่น เพราะมีเชฟดังๆ มาสอนมากกมาย อาจารย์สามารถตอบผมได้ทุกคำถามที่สงสัย เรียกว่าเรื่องทฤษฎีผมเรียนมาแน่นมาก ผมคิดว่าช่วงเวลานั้นเป็นตอนที่ผมตั้งใจเรียนมากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้”

ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช อีกหนึ่งความอร่อยของชีวิต

 

แต่ทว่าความมั่นใจที่เก็บกลับมาเต็มกระเป๋าจากอเมริกา กลับกลายเป็นยาขมในชีวิตเชฟฟางอยู่พักใหญ่ เพราะความที่ได้เรียนสถาบันดีๆ และความมั่นใจในตัวเองที่มีอยู่ล้นหลาม ทำให้เมื่อเดินทางกลับมาเมืองไทย เชฟฟางกลายเป็นเชฟที่ทนงตัวว่าเก่ง มีความรู้แน่น หารู้ไม่ว่ายังขาดประสบการณ์ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ณ ตอนนั้นจะไม่มีใครยอมรับ และกลายเป็นความผิดหวัง เสียใจ โทษตัวเองอยู่พักใหญ่ กระทั่งวันหนึ่งเมื่อคิดได้ เชฟฟางจึงลุกขึ้นสู้และกลับไปเริ่มต้นจากศูนย์ในการทำอาหารอีกครั้ง ตั้งแต่การเป็นเด็กฝึกงาน ค่อยๆ ไต่เต้าจนเป็นผู้ช่วยเชฟ และเชฟในที่สุดภายในเวลาเพียง 3 ปี

“การเริ่มต้นครั้งใหม่ของผมครั้งนี้ ทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้นมาก ผมชอบทำอะไรยากๆ ไม่ชอบทางลัด เพราะความง่ายจะทำให้พื้นฐานไม่แน่น”

แม้จะใช้เวลาไต่เต้าสู่เส้นทางอาชีพนี้แบบก้าวกระโดด แต่เชฟฟางบอกว่าด้วยประสบการณ์ที่มียังไม่มาก ทำให้เจ้าตัวต้องทำการบ้านในการใฝ่รู้ หมั่นหาข้อมูลใหม่ๆ เสมอ อินเทอร์เนตจึงกลายเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญในชีวิตของเชฟฟาง ถึงขนาดเชฟฟางออกปากว่า “ถ้าไม่มีกูเกิล ก็คงไม่มีผมในวันนี้”

“ผมเป็นคนขี้สงสัยช่างซักช่างถาม ดังนั้นเวลาผมมีคำถามผมต้องหาคำตอบ ซึ่งกูเกิลเป็นอะไรที่ช่วยผมได้มาก หาคำตอบให้ผมได้ทุกเรื่อง ทุกที่ทุกเวลา ผมไม่ต้องเดินทางไกลๆ เพื่อไปพบเชฟระดับโลกหรือเข้าไปในห้องสมุดเพื่อหาคำตอบ เพราะทุกอย่างผมหาได้ในกูเกิล”

แต่ถ้าถามว่าชอบไอทีมากระดับไหน เชฟฟางตอบว่าเป็นคนบ้าไอทีมาก แต่ไม่บ้าแกดเจ็ต ไม่ได้เป็นคนที่มีอะไรออกใหม่ต้องซื้อ แต่จะดูถึงความจำเป็น เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนที่ถ้าซื้อของมาแล้วต้องใช้คุ้มจริงๆ อย่างทุกวันนี้ผมมีไอโฟนเครื่องเดียวก็จบเลย ใช้ได้ทั้งการทำงาน การสื่อสาร รับส่งอีเมล หรือแม้แต่จะทำธุรกรรมทางการเงิน ก็สามารถใช้บริการของ ME By TMB เป็นตัวช่วยทางการเงิน ทำให้โอนเงินได้แม้ขณะรถติด

สำหรับความฝันในอนาคตของเชฟฟาง นอกจากจะฝันอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเองแล้ว อีกหนึ่งฝันที่ยิ่งใหญ่คือการเปิดโรงเรียนสอนทำอาหาร ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าถ้าจะทำจริงต้องอาศัยบุคลากรเยอะมาก เพราะต้องทำจริง ดีจริง ทุกอย่างต้องดีเหมือนกับที่เจ้าตัวเคยได้รับจากการเข้าเรียนต่อในสถาบันอาหารที่ดีแห่งหนึ่งของโลก

ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช อีกหนึ่งความอร่อยของชีวิต

 

“ทุกวันนี้ผมภูมิใจนะที่บางคนบอกว่าผมเป็นแรงบันดาลใจให้ เขาอยากเป็นเหมือนผม ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยตัวเองก็เป็นจุดหนึ่งเล็กๆ ที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยซึ่งเป็น 1 ใน 5 ของประเทศที่มีอาหารที่ดีที่สุดของโลก มีบุคลากรด้านอาหารเพิ่มขึ้นอีกคน”

ชิ้นคู่ใจเชฟฟาง

1.ไอโฟน เป็นแกดเจ็ตคู่ใจที่เป็นศูนย์รวมของทุกอย่าง ทั้งการติดต่อสื่อสาร ความบันเทิง หรือใช้ในการทำงานบ้างในบางครั้ง เป็นตัวกลางในการตอบทุกข้อสงสัย เพราะเวลาอยากได้คำตอบเรื่องอะไรแบบเฉพาะหน้า จะเข้าถามกูเกิลผ่านไอโฟนทันที

2.เน็ตบุ๊ก ใช้ทำงานเป็นหลัก ใช้หาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารหรือเรื่องๆ ต่างทางอินเทอร์เนต เหมือนเป็นการย่อโลกใบใหญ่ให้เล็กลง เราสามารถเดินทางไปได้ทุกที่

3.เอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์ ปกติจะใช้คอมพิวเตอร์พีซีที่บ้านเป็นตัวเก็บข้อมูลหลัก ส่วนเอ็กซ์เทอร์นอลฮาร์ดดิสก์จะเป็นตัวกลางในการขนย้ายข้อมูลมากกว่า ซึ่งมีมหาศาล มีทั้งชีวิต ทั้งหนัง เพลง สูตรอาหาร

4.เกมพกพา ทั้ง X Box PSP มีเกมหลายแบบเพราะเป็นคนชอบเล่นเกมมาก แต่ทุกวันนี้ไม่ค่อยมีเวลาเล่นแล้ว สิ่งหนึ่งที่ชอบเกมคือ เป็นคนโลกส่วนตัวสูง ดังนั้นการเล่นเกมก็เหมือนพาตัวเองเข้าไปในอีกโลกส่วนตัวหนึ่ง

5.รถยนต์พรีอุส “อาจจะดูแปลกที่เลือกชิ้นนี้ แต่สำหรับผมมันเป็นอะไรที่ล้ำมาก ทั้งเรื่องประหยัดน้ำมันหรือดีไซน์ในตัวรถที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนอยู่บนเครื่องบิน