posttoday

ชีวิตและความสมดุล ดร.บัณลักข ถิรมงคล

14 พฤษภาคม 2555

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ / ภาพ ทวีชัย ธวัชปกรณ์

โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ / ภาพ ทวีชัย ธวัชปกรณ์

ความหวังที่ดี ย่อมเป็นความทรงจำที่ดี แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความหวังหรือความทรงจำ หากเป็นเป้าหมายและการเดินทางไปให้ถึง ซึ่ง ดร.บัณลักข ถิรมงคล กรรมการ บริษัท บัณลักข เจ้าของดีสปายน์ ไคโรแพรคติก คลินิก และบางกอก โฮลิสติก คลินิก ผู้เดินทางไปถึงก่อนบอกเป็นนัยว่ายาก เรื่องนี้ยากแต่ก็ไม่ได้ยากจนฝึกไม่ได้...ฝึกที่จะคิด ฝึกที่จะเรียนรู้ เคล็ดลับความสำเร็จและความสุขของผู้หญิงเก่งวัย 45 ปี เจ้าของไคโรแพรคติกคลินิกแห่งแรกๆ ของไทยคนนี้

เริ่มเมื่อ 15 ปีก่อนสำหรับดีสปายน์ ไคโรแพรคติก คลินิก แพทย์ทางเลือกด้านการปรับโครงสร้างกระดูก เรื่องของเรื่องเริ่มต้นที่เจ้าตัวเป็นเอง (ฮา) ช่วงหนึ่งของชีวิตที่ตรากตรำทำงาน กระทั่งสุขภาพส่งเสียงเตือน ต้องบินไปรักษาตัวที่สหรัฐด้วยวิธีปรับโครงสร้างกระดูก ปรากฏว่าหาย จึงศึกษาจนเข้าใจถึงสมดุลแห่งโครงสร้าง ร่างกายเมื่อเข้าสู่สมดุล ย่อมนำมาซึ่งสุขภาพที่ต้องการ

“เป็นศาสตร์ทางเลือกที่เกิดขึ้นกว่า 100 ปีแล้ว ในสหรัฐการปรับโครงสร้างกระดูกแพร่หลายมาก คนส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจและนิยมใช้บริการ เหมือนเซเว่นอีเลเว่นที่มีให้เห็นทั่ว คลินิกปรับกระดูกในสหรัฐก็เป็นอย่างนั้น”

บลูโอเชียนที่กว้างใหญ่มองเห็นอยู่ตรงหน้า ดร.บัณลักข ตัดสินใจกลับมาเปิดไคโรแพรคติกคลินิกแห่งแรกของเธอที่เมืองไทย ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ ก้าว จนปัจจุบันเปิดดีสปายน์ฯ ไปแล้วถึง 6 สาขา ตัวเธอเองต่อมายังกลับไปเรียนต่อ The Open University มหาวิทยาลัยเกี่ยวกับแพทย์ทางเลือกที่มีชื่อเสียงที่สุดของศรีลังกา และเปิดสาขาอยู่ที่สหรัฐ เพื่อศึกษาแนวทางของแพทย์ทางเลือกเกี่ยวกับพลังของจิตบำบัด ล่าสุดได้ขยายแนวทางของแพทย์ทางเลือกใหม่ๆ เปิดคลินิกเกี่ยวกับพลังจิตบำบัดชื่อ บางกอก โฮลิสติก ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก

“พลังจิตบำบัดเป็น Energy Medicine ซึ่งองค์การอนามัยโลกให้การยอมรับ หลักสูตรเป็นการเรียนรู้พลังงานของจิต ความคิดที่เป็นบวก พลังบำบัดซึ่งเยียวยาลึกลงไป” ดร.บัณลักข กล่าว

การเรียนรู้ในพลังที่ขับเคลื่อนและการสร้างสนามแม่เหล็กพลังบวก ทำให้เธออยากแบ่งปัน ทุกวันนี้มีความสุขกับความสำเร็จและเป้าหมายที่ได้มีส่วนช่วยเหลือสังคม ปัจจุบัน ดร.บัณลักข รับเชิญเป็นที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรม เขตวัฒนา ซึ่งก็ได้พยายามที่จะรณรงค์ทั้งเรื่องวัฒนธรรม และการให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับปัญหามลพิษมลภาวะ ภัยรอบตัวจากสิ่งแวดล้อม

ชีวิตและความสมดุล ดร.บัณลักข ถิรมงคล

 

ย้อนหลังไปไกลกว่านั้น คือจุดที่ชีวิตพลิกผัน ในวัย 17 ปี ขณะนั้นเรียน OLevel อยู่ที่อังกฤษ กำลังจะเรียนต่ออุดมศึกษา คุณพ่อชิต ถิรมลคล เสียชีวิต ดร.บัณลักข จึงเปลี่ยนไปเรียนที่สหรัฐ เพื่อที่จะทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยได้ หาเงินเรียนเอง และเนื่องจากเป็นคนชอบทำงาน จึงสนุกมากกับชีวิตที่อเมริกา

“เป็นคนใช้เงินเก่งค่ะ ถูกเลี้ยงมาแบบนั้น เคยได้ในสิ่งที่อยากได้ แต่ถ้าจะไม่ได้อีก ก็ไม่เป็นไร คิดว่าก็หาเอาสิ แล้วก็ใช้เงินอย่างที่เราอยากใช้ อยู่อเมริกาทำหลายอย่าง ไล่ไปตั้งแต่พนักงานเสิร์ฟ บาร์เทนเดอร์ งานตกแต่งบ้าน เป็นผู้ช่วยช่างไม้ ติดสอยห้อยตามทีมงานชาวอิตาเลียนที่เก่งมาก รับแต่งบ้านคนรวยในเบเวอรีฮิล หรืองานเบื้องหลังกองถ่ายของ สตีเวน สปีลเบิร์ก ก็ทำมาแล้ว”

ชีวิตคือประสบการณ์ ดร.บัณลักข บอกว่า เหมือนความกระหายที่อยากทะยานไป ชีวิตนี้ไม่เคยกลัวคน ไม่เคยกลัวใคร แต่สนุกกับโอกาสที่ได้พบเจอ สนุกที่จะเผชิญหน้ากับคนใหม่ๆ ท้าทายตัวเองว่ามีอะไรจะให้เรียนรู้ได้อีก โลกมีความรู้มากมาย

ความรู้ความสามารถคิดเสมอว่า จะต้องกลับมาใช้ที่เมืองไทย ตอบแทนบ้านเกิดเมืองนอน วันนั้นมาถึงในอีก 7 ปีต่อมา ดร.บัณลักข จบคณะบริหารธุรกิจ Santa Monica College แล้วตัดสินใจว่าจะกลับเมืองไทยเพื่อดูแลมารดา นิตยา ถิรมงคล เธอเป็นพี่สาวคนโต ตอนนั้นน้องชายอีกคนเรียนหนังสือที่อังกฤษและกลับเมืองไทยมาก่อน แต่บ้านขาดผู้นำ

เธอกลับมาเริ่มต้นกับงานโรงแรม ไปอยู่บริษัทเทรดดิง บริษัทเครื่องครัวต่างประเทศ และสุดท้ายทำธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ของตัวเอง กับรับเหมาตกแต่งภายในอยู่ 7 ปีเศษ มุงานจนสุขภาพย่ำแย่ ปวดหัวปวดตาปวดตัว ชาร่างกายไปซีกหนึ่ง ต้องบินไปรักษาที่ต่างประเทศอย่างที่เล่า เรื่องร้ายกลายเป็นดี การเจ็บป่วยในครั้งนั้น ไม่เพียงทำให้ได้รู้จักกับไคโรแพรคติก ยังทำให้ได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญที่แท้จริงของการใช้ชีวิต

“ความสมดุลคือสิ่งสำคัญ” ดร.บัณลักข ว่า

จากหัวใจไปสู่เป้าหมาย

1.นิตยา ถิรมงคล

คุณแม่เป็นคนมีระเบียบ มีวินัย ที่สำคัญเป็นผู้มีความพร้อมต่อทุกสถานการณ์ในชีวิต รวมทั้งตระเตรียมให้ลูกๆ ทุกคนให้มีความพร้อมต่อการใช้ชีวิต นอกจากนี้ก็เป็นหญิงเก่งผู้ไม่เคยยอมแพ้ ถ้าไม่สำเร็จจะไม่ยอมเลิก นิสัยนี้ลูกสาวคนโตคงได้มาบ้างไม่มากก็น้อย

2.ราชินีราเนีย

นิยมยกย่องควีนราเนียแห่งจอร์แดน ในฐานะของสตรีที่สนับสนุนบทบาทและสิทธิสตรี ต่อสู้เรื่องกฎหมายเพื่อความทัดเทียม และแม้จะยากก็ไม่เคยที่จะแสดงความอ่อนแอหรืออ่อนล้า

3.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ประทับใจในบุคลิกภาพ การวางตัว และความโดดเด่นในฐานะผู้นำหญิง มีความเป็นธรรมชาติ อ่อนโยน ยิ่งไปกว่านั้น คือ ความสามารถในการทำงาน ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าสตรีและบุรุษทำงานด้วยกันได้


4.ม.ล.สราลี กิติยากร

มีโอกาสได้รู้จักเมื่อคราวเรียนหนังสือด้วยกันที่มินิเอ็มบีเอ จุฬาฯ ได้ค้นพบว่าเธอเป็นราชนิกุลที่ติดดิน สามารถเดินซื้อของสำเพ็งอย่างสนุก ขณะเดียวกันก็ใส่ใจผู้คน โอบอ้อม ใครเดือดร้อนรีบเข้าช่วยเหลือ นอกจากนี้ก็ชอบทำบุญ ได้ร่วมทำบุญในโอกาสต่างๆ ด้วยกันเสมอ

5.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

อดีตรัฐมนตรีสาธารณสุข ชื่นชมในนโยบายประกันสุขภาพถ้วนหน้า 30 บาท รักษาทุกโรค รู้สึกสำนึกในประโยชน์ของ พ.ร.บ.ดังกล่าว มารดาของ ดร.บัณลักข เมื่อไม่นานมานี้เป็นโรคเนื้องอกในสมอง ต้องผ่าตัดใหญ่อยู่ไอซียูเป็นเดือน โชคดีที่คุณแม่มีบัตรทอง จึงเสียค่าใช้จ่ายเพียงน้อยนิด