ไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้ พญ.เดือนเต็ม จ่างพันธุ์

โดย...วราภรณ์

คุณหมอด้านความสวยความงามอย่าง หมอปุ่นพญ.เดือนเต็ม จ่างพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ความงาม และเลเซอร์ จาก เดซี่ ดิว่า และอิมเมจินี่ คลินิก ดีกรีแพทยศาสตรบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยม และไปศึกษาต่อปริญญาโทด้านผิวหนัง ที่ คิงส์ คอลเลจ ลอนดอน และศึกษาต่อด้านเลเซอร์และด้านความงามก็รู้ดีถึงกระแสความสวยงาม

“สมัยก่อนผู้หญิงจะนิยมหน้ารูปไข่ แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไปแฟชั่นก็เปลี่ยนตาม ยุคนี้ผู้หญิงต้องมีรูปหน้าเรียวเล็ก คางยาวเป็นวีเชฟ ลุคต้องดูโฉบเฉี่ยว แต่ผู้หญิงเอเชียรูปหน้าจะป้านๆ หญิงสาวที่นิยมมาหาหมอส่วนใหญ่จะอยากได้ใบหน้าเรียวเล็กลง บางคนทำได้ บางคนก็ทำไม่ได้ ต้องดูความเหมาะสมของใบหน้าและรูปหน้าเป็นหลัก

นอกจากนี้ผู้หญิงยังนิยมเติมเสริมจมูก เติมร่องแก้ม ร่องใต้ตา ด้วยสารฟิลเลอร์ ซึ่งมีข้อดีตรงไม่ต้องพักฟื้นเหมือนการไปทำศัลยกรรม”

เหตุที่หมอปุ่นเลือกเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านความสวยความงาม เพราะงานนี้ต้องใช้ฝีมือ อีกทั้งเหมือนเป็นที่ปรึกษาด้านความสวยความงาม ซึ่งเป็นงานไม่เครียด เมื่อได้เห็นคนไข้สวยสมใจกลับบ้านไป ตัวคุณหมอเองก็มีความสุข เพราะเห็นผู้หญิงมีบุคลิกภาพและความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น หมอเดือนเต็ม ทำงานประจำที่อิมเมจินี่มาได้ 3 ปีแล้ว แต่ก่อนหน้าที่ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชน โดยเป็นคุณหมอด้านอายุรกรรมตรวจรักษาโรคทั่วไป แต่ทำงานไปพักหนึ่งค้นพบว่าเธอชอบทำงานโดยใช้ทักษะมือมากกว่า

“การเป็นหมอด้านความสวยความงาม ต้องใช้มือในการรักษา ดังนั้นหมอด้านความงามต้องฝึกฝนฝีมือและต้องมีทักษะ เมื่อเห็นคนไข้สวยกลับไป เราก็เกิดความสุขทางใจ โดยวัดจากการที่คนไข้กลับมาหาเราเรื่อย บางครั้งก็กลายเป็นเพื่อนกันไปเลยก็มี”

งานหลักของคุณหมอปุ่นคือ การวิเคราะห์และให้คำแนะนำเรื่องใบหน้าแก่คนไข้ ว่ามีปัญหาด้านไหนของใบหน้าที่อยากแก้ เช่น ปัญหาสีผิว รูปหน้า สร้างมิติให้กับรูปหน้า โดยปัจจุบันนิยมใช้สารฟิลเลอร์ และโบทอกซ์ ผู้หญิงยุคนี้นิยมรูปหน้ามีมิติ เสริมจุดเด่นใบหน้าไม่เหมือนเมื่อ 1020 ปีที่แล้ว ที่คนฮิตใบหน้ารูปไข่ แต่คุณหมอปุ่นก็เตือนว่า ผู้หญิงที่อยากสวย ต้องมีสติ คือ ควรเลือกเสริมความงามให้ปลอดภัย ไม่ซื้อยาตามอินเทอร์เน็ต ไม่ไปฉีดสารด้านความงามกับหมอเถื่อน ซึ่งมีความอันตราย

“ผู้หญิงยุคนี้ทำงานเก่ง ซึ่งก็ต้องมาพร้อมกับการมีบุคลิกภาพที่ดี หากเรามีบุคลิกภาพที่ดีก็จะยิ่งเสริมความมั่นใจ แต่ผู้หญิงเราก็ไม่ได้สวยสมบูรณ์แบบ แต่จะไปพึ่งวิวัฒนาการด้านความสวยความงามก็ต้องระมัดระวัง ด้วยการเลือกสถานพยาบาลประกอบการที่เชื่อถือได้ มีหมอและพยาบาลวิชาชีพเป็นผู้ดูแลและให้การรักษา ราคาอาจสูงนิดหนึ่ง ความสวยความงามคือการลงทุน การซื้อสารมาแล้วฉีดเองไม่ปลอดภัยแน่นอน แถมวิธีแก้ไขจะแพงกว่า และยุ่งยากมากกว่า ไม่คุ้มค่าเลย”

อาชีพคุณหมอด้านความสวยงาม พญ.เดือนเต็ม มีหลักการทำงานง่ายๆ คือ ต้องซื่อสัตย์ จริงใจ และมีความรับผิดชอบ

“หน้าที่ของหมอคือ ให้คำแนะนำที่ถูกต้องด้านความงาม แต่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับคนไข้ ที่ผ่านมาหมอไม่มีปัญหา เพราะเราอาศัยการพูดคุยที่ซื่อสัตย์ และจริงใจ ทำแล้วต้องปลอดภัย ทุกอย่างมีข้อเสีย และมีผลข้างเคียง ต้องอธิบายให้คนไข้เข้าใจ และที่สำคัญต้องมีความรับผิดชอบ สมมติรักษาแล้วเกิดผลข้างเคียง ก็ต้องมาช่วยแก้ไขให้คนไข้”

ทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านความงามมานาน 6 ปี คุณหมอปุ่นพบอุปสรรคในการทำงานบ้างบางครั้ง แต่อาศัยวิธีแก้ไขคือ การพูดคุยอธิบายด้วยความจริงใจให้คนไข้เข้าใจ อาทิ คนไข้ไม่เข้าใจเรื่องราคา บางคนคาดหวังกับผลลัพธ์มากเกินความเป็นจริง ก็ต้องอาศัยการพูดคุยระหว่างผลลัพธ์ของการรักษา กับความคาดหวังของคนไข้ต้องตรงกัน

แม้การทำงานเกี่ยวกับความคาดหวังของคน บางครั้งอาจเกิดความเครียดบ้าง แต่หมอปุ่นมีวิธีผ่อนคลาย คือ การออกกำลังกาย ชมภาพยนตร์ และไปงานสัมมนาด้านวิชาการยังต่างประเทศ

“หมอทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ หากมีเวลาว่าง หมอพักผ่อนด้วยการออกกำลังกาย หรือชมภาพยนตร์ ซึ่งการได้ผ่อนคลายบ้าง หมอคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญ บางครั้งอาจขอหยุดยาว ๆ เพื่อไปประชุมทางวิชาการเพราะการเป็นหมอไม่ว่าจะเป็นสาขาไหนก็ต้องอัพเดตด้านวิทยาการทางการแพทย์ตลอดเวลา ต้องไปประชุมทั้งในและต่างประเทศ เพราะวงการแพทย์มีทั้งนวัตกรรมและเครื่องมือทางการแพทย์ปรับปรุงอยู่ตลอดเวลา หมอก็ต้องไปอัพเดตความรู้ทั้งเครื่องมือและวิธีการใหม่ๆ การขวนขวายหาความรู้ต้องไม่หยุดนิ่ง ยิ่งเครื่องมือด้านความงามพัฒนาไปเร็วมาก เพราะยุคสมัยยิ่งเปลี่ยนไป คนก็อยากดูดีด้วยกันทุกคนไม่ว่าจะเป็นอาชีพไหน”

ด้านรูปลักษณ์ พญ.เดือนเต็ม แนะว่า ผู้หญิงอย่าเสพติดกับความสวยความงามมากเกินไป แต่ดูให้เหมาะสมและพอดีๆ “ความงามมากไปน้อยไปก็ไม่ดี หมอจะพูดคุยกันกับคนไข้ ถ้าอยากได้และผลลัพธ์ออกมา อยากได้เป็นแบบไหน หมอคิดว่าการทำงานของหมอคือการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญมาก ต้องพูดคุยเกี่ยวกับความต้องการของคนไข้ บวกกับการรักษาของหมอให้ตรงกัน สมมติอย่างคนไข้อยากได้จมูกที่โด่งระดับหนึ่ง หมอทำให้ที่คิดว่าโด่งแล้ว แต่คนไข้ไม่พอใจ คิดว่ายังไม่โด่งพอ ก็ต้องอาศัยการพูดคุย การเข้าอกเข้าใจกัน”