เทรนด์ผมไหนมา ออทัมน์/วินเทอร์นี้
เผยเทรนด์ผมล่าสุดในช่วงออทัมน์/วินเทอร์ จาก 2 สุดยอด แฮร์สไตลิสต์ จาก เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์
เผยเทรนด์ผมล่าสุดในช่วงออทัมน์/วินเทอร์ จาก 2 สุดยอด แฮร์สไตลิสต์ จาก เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์
เรื่อง : พุสดี สิริวัชระเมตตา
เพื่อให้มั่นใจว่าสาวไทยจะไม่ตกเทรนด์หรือเสียความมั่นใจเพราะทรงผมสุดเอาต์ เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ เลยไม่พลาดจับผู้นำแฟชั่นผมระดับโลกและอยู่เบื้องหลังงานแฟชั่นวีกมานับไม่ถ้วน ทั้งในนิวยอร์ก ลอนดอน มิลาน และปารีส ได้จับเอาสองส่วนผสมที่ลงตัวมาอย่าง 2 สุดยอดแฮร์สไตลิสต์ ยูจีน โซไลมาน เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ โกลบอล ครีเอทีฟ ไดเรกเตอร์ แคร์ แอนด์ สไตลิง และจอช วูด เวลล่า โปรเฟสชั่นแนลส์ โกลบอล ครีเอทีฟ ไดเรกเตอร์ คัลเลอร์ มาแท็กทีมกับบรรดาดีไซเนอร์ชื่อดัง เพื่อรังสรรค์ทรงผมแบบใหม่รับซีซันออทัมน์-วินเทอร์ที่จะถึงนี้ถึงกว่า 20 โชว์เลยทีเดียว
แต่ละเทรนด์เก๋ไก๋ ล้วนได้แรงบันดาลใจมาจากเทรนด์วิชัน 2011 ผสานกับสไตล์การออกแบบเสื้อผ้าของเหล่าดีไซเนอร์ชั้นนำของโลก กลายเป็น 4 ธีมหลักแห่งปี
1.ลูมิน่า (Lumina)
มาจากแนวคิดแบบก้าวล้ำสุดขั้ว ผสานกับเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ ช่วยสร้างภาพของโลกแห่งอนาคตอันไร้ที่ติ เน้นความแวววาวแบบเมทัลลิก ซึ่งเทรนด์ผมในซีซันนี้จะถูกถ่ายทอดผ่านการใช้สีขาว ซึ่งเป็นสีแห่งฤดูหนาวเป็นหลัก
“เป็นการสร้างสรรค์ความเปล่งประกายเงางามให้แก่เส้นผม เน้นย้ำความทันสมัยและเทคโนโลยี ทรงผมในซีซันนี้จึงถูกออกแบบให้มีความเป็นเรขาคณิตทั้งในแง่รูปทรงและโครงสร้างต่างๆ” ยูจีน อธิบาย
และเพื่อครีเอตให้เข้ากับแบรนด์ อิสเซ มิยาเกะ ยูจีนได้ครีเอตการรวบหางม้าแบบ Futuristic ขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์รูปทรงศีรษะแนวใหม่ที่สามารถสะท้อนลายกราฟฟิกได้อย่างชัดเจน
ขณะที่ จอช วูด อธิบายถึงสีสันของทรงผมสไตล์นี้ว่า “ลูมิน่าเน้นการใช้สีบลอนด์คู่กับสีโทนเมทัลลิกเพื่อเพิ่มประกายให้แก่เส้นผม โดยใช้เทคนิคเดียวกับการไฮไลต์บนผิวหน้าเพื่อให้ผิวแลดูเปล่งปลั่ง ทั้งนี้ การเพิ่มสีโรสโกลด์ แพลทินัม หรือสีโลหะเพื่อสร้างไฮไลต์ให้กับเส้นผม ช่วยทำให้ลุคนี้ดูสบายตายิ่งขึ้น”
2.แกลมมาซอน (Glamazon)
ในมุมมองของยูจีน ธีมแกลมมาซอน คือ การค้นหาธรรมชาติและความงามที่ซ่อนอยู่ โดยมีแรงบันดาลใจจากชนเผ่า (Tribalism) เป็นสิ่งสำคัญ และมีอิทธิพลในการรังสรรค์ทรงผมของซีซันนี้ เพียงแต่เติมความหรูหราและความโมเดิร์นเข้าไปในลุคด้วย
“สร้างเสน่ห์ด้วยการครีเอตเทกซ์เจอร์ผมให้ดูเป็นธรรมชาติ” ยูจีน กล่าวถึงทรงผมในโชว์ของปีเตอร์ ซอม ที่ได้ไอเดียผมเกล้าสูงแบบรังผึ้งอันยอดฮิตในช่วงทศวรรษที่ 1950 ยูจีนจึงคิดค้นทรงผมแบบ Trashing Elegance ที่ยุ่งเหยิงแต่ดูคลาสสิก
นอกจากนี้ แนวคิดการสร้างสรรค์เทรนด์ที่ผสานความเป็นธรรมชาติยังปรากฏให้เห็นในแบรนด์ดังอย่าง นาร์ซิโซ โรดริเกซ (Narciso Rodriguez) ซึ่งยูจีนใช้เทคนิครวบผมเป็นมวยไว้ด้านหลัง ดึงปอยผมออกมาให้ดูสบายๆ เป็นธรรมชาติ
“ปอยผมที่หลุดลุ่ยออกมาทำให้ทรงผมดูเก๋ ดูเป็นธรรมชาติและเป็นทรงง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ในเพียงไม่กี่นาที” เขา กล่าว
ขณะที่ จอช ระบุว่า ในบรรดาเทรนด์สีผมทั้งหมดของเทรนด์วิชัน 2011 แกลมมาซอน ถือเป็นธีมที่มีสีผมใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ทั้งสีเอิร์ทโทน สีน้ำตาล ไปจนถึงสีทอง
“เทรนด์สีผมที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ ปลายผมจะมีสีจางกว่าบริเวณโคนผม ดูอิสระและแตกต่างมากกว่า” จอช อัพเดตถึงเทรนด์สีที่มาแรง
3.แพสชันนิสตา (Passionista)
จากสไตล์ย้อนยุคแบบเรโทรที่ดูมีเสน่ห์แพรวพราวดึงดูดใจ ภายใต้ธีมแพสชันนิสตา แสดงให้เห็นถึงโลกแห่งความงามที่เย้ายวน ดูมั่นใจในตนเอง แฝงความฉลาดทันคน ทำให้ในซีซันนี้เหล่าดีไซเนอร์ของแบรนด์ดังต่างสนุกสนานไปกับการใช้ผ้าขนสัตว์ ผ้าลูกไม้ และผ้าปักเลื่อม ในการรังสรรค์คอลเลกชันเสื้อผ้ากันอย่างเต็มที่
โดยเฉพาะแบรนด์ อันโตนิโอ มาร์ราส เน้นการใช้ผ้าซาติน ที่เรียบลื่น พลิ้วไหว ช่วยสะท้อนความงามแห่งสตรีเพศและรสนิยมชั้นสูงหรูหราได้อย่างลงตัว
ยูจีนจึงออกแบบทรงผม โดยอาศัยไอเดียจากทรงผมสไตล์ Pin-up ย้อนยุค เน้นการใช้เทคนิคม้วนผมที่ช่วยสร้างลุคให้สวยสง่า ดูอ่อนหวานและน่าค้นหายิ่งขึ้น
ในเรื่องของสีสัน จอชกล่าวถึงธีมนี้ ว่า เน้นการใช้โทนสีแดงเป็นหลัก ซึ่งเป็นโทนสีที่สามารถบ่งบอกเรื่องราวในตัวของมันเอง ซึ่งเทรนด์นี้จะปฏิเสธความเป็นธรรมชาติ โดยสีผมจะต้องดูย้อมแต่ง ตอกย้ำถึงความดื้อรั้น ความกล้า และเสน่ห์อันแพรวพราวของผู้หญิงที่แสดงออกอย่างชัดเจน
4.โพลาริส (Polaris)
สีดำตัดสีขาว ความสว่างขัดกับความมืด นำมาสู่ธีมโพลาริส ที่แสดงออกถึงสิ่งที่อยู่ตรงกันข้ามอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของธีมในซีซันนี้ ถูกสื่อออกมาผ่านการใช้ภาพกราฟฟิกที่ดูเกินจริง ปรากฏในแบรนด์มาแรงอย่าง ไฮเดอร์ แอ็คเคอร์แมนน์
นอกเหนือจากการใช้สีที่ตัดกันอย่างชัดเจนแล้ว ยังสามารถใช้เทกซ์เจอร์ที่ตรงข้ามกันเพื่อสื่อถึงความคอนทราสต์ ดั่งที่เห็นในงานของมิสโซนี่ ที่ใช้ผ้าลวดลายหนังสัตว์ตัดกับผ้าไหมพรม เป็นต้น
ในโชว์ของแบรนด์ ไฮเดอร์ แอ็คเคอร์แมนน์ ยูจีนได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์โชว์ให้ดูเป็นกองทัพนักรบสาวทรงพลัง ลุคที่ได้จะดูเหมือนอยู่ในอวกาศ ดูเก๋ไก๋มีสไตล์ เหมือนเอเลียนสาวแสนสวย แต่ยูจีนเลือกเติมแต่งอารมณ์ความขึงขังลงไปในทรงผม โดยทำให้รูปศีรษะดูยาวขึ้น แลดูเหมือนเกราะศีรษะของนักรบ เพื่อทำให้แนวคิดนี้ชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังเกล้าผมขึ้นให้เป็นหางม้าที่มีรูปทรงเหมือนหอกนักรบ โดยจอชรับหน้าที่สร้างสีสันบริเวณหางม้าให้เป็นสีเมทัลลิกแวววาว ดูโดดเด่นตัดกันกับผมส่วนที่เหลืออย่างมีเอกลักษณ์
ส่วนแบรนด์ มิสโซนี่ ยูจีน นำการคอนทราสต์มาเล่นกับธีมงาน โดยผสานความหวานของสีพาสเทลจากเครื่องแต่งกายกับความแข็งแกร่งของทรงผม ด้วยการหวีผมส่วนหน้าไปด้านหลังตามแบบสไตล์ฝรั่งเศสให้เรียบดูคลาสสิก เก็บผมด้านข้างและด้านหลัง ปล่อยผมด้านบนศีรษะให้หลวมๆ ไม่ต้องหวีเรียบ ซึ่งยูจีนบอกว่าลุคนี้จะค่อนข้างดูเป็น “ร็อกเกอร์” นิดๆ
สำหรับ จอช สรุปรวมทิศทางการทำสีผมในเทรนด์นี้ไว้ว่าสีผมต้องสุดขั้ว ดูล้ำยุค และถูกออกแบบมาอย่างสะดุดตา ดังเช่นการตัดกันของสีผมในทรงเดียว
อย่าลืมเลือกทรงผมโดนใจใน 4 ธีมนี้ ที่สามารถบ่งบอกความเป็นสาวยุคใหม่ไม่ตกเทรนด์ไปทำตามกันดู รับรองงานนี้มีแต่อิน ไม่มีเอาต์