‘หัวใจเต้นเป็นอิเล็กโทร เทคโน ป๊อป’ พิชญะ นิธิไพศาลกุล
ภาพศิลปินเด็กผมทองคู่พี่น้อง กอล์ฟ พิชญะ และ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล สุดฮอตยังคงติดตาแฟนเพลง มาวันนี้พวกเขาโตขึ้น
ภาพศิลปินเด็กผมทองคู่พี่น้อง กอล์ฟ พิชญะ และ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล สุดฮอตยังคงติดตาแฟนเพลง มาวันนี้พวกเขาโตขึ้น
โดย..วราภรณ์
ภาพศิลปินเด็กผมทองคู่พี่น้อง กอล์ฟ พิชญะ และ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล สุดฮอตยังคงติดตาแฟนเพลง มาวันนี้พวกเขาโตขึ้น โดยเฉพาะคนพี่ กอล์ฟ พิชญะ ที่ขอแยกเดี่ยวเฉพาะกิจ สร้างสรรค์เพลงแนวอิเล็กโทร เทคโน ป๊อป นำสมัย ออกมาให้แฟน ๆ ได้ฟัง ซึ่งก่อนหน้านี้หลังจากปล่อยซิงเกิลในฐานะศิลปินเดี่ยวออกมาแล้วถึง 2 เพลง ได้แก่ Take Me To ur bed และ I Can’t Breathe กระแสตอบรับดีแบบเกินคาด สามารถขึ้นอันดับต้นๆ ของทุกชาร์ต ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้หนุ่มกอล์ฟปล่อยอัลบั้ม “อินเวชั่น” เป็นอัลบั้มเดี่ยวชิ้นแรก และปล่อยซิงเกิลที่ 3 เพลง “แบล็คโฮล” ออกมาให้แฟนๆ ได้เต้นอีกครั้งกับแนวดนตรีที่ผ่านมุมมองความคิดใหม่ๆ ซึ่งเป็นแนวเพลง Electro Pop แน่นไปด้วยซาวด์สุดล้ำ บีตชวน “เต้น” ที่ใครได้ฟังต้องอยากขยับแข้งขยับขาแดนซ์สุดฤทธิ์ ซึ่งเป็นแนวเพลงใหม่มากในบ้านเรา เรียกว่าสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลงเมืองไทยเลยก็ว่าได้
ในซิงเกิลที่ 3 นี้ กอล์ฟโชว์การเติบโตด้วยการโปรดิวซ์และเรียบเรียงดนตรีเอง กอล์ฟเปิดเผยการทำงานกับซิงเกิลใหม่ล่าสุดว่า เขาชอบดนตรีแนวใช้เสียงสังเคราะห์อิเล็กโทรมาสร้างสรรค์เป็นเพลงผสมกับเนื้อร้อง ที่แสดงถึงความโตขึ้นด้วยการนำความรู้ที่เรียนที่ S.A.E. (Sound Audio Engineering) เป็นมหาวิทยาลัยของอังกฤษที่มีชื่อเสียงวิศวกรรมด้านเสียง ทำให้เขาได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับเทคโนโลยีสร้างสรรค์ดนตรีมากขึ้น การทำงานในอัลบั้มเดี่ยวครั้งนี้ กอล์ฟมีโอกาสที่ดีได้ร่วมงานกับทีมงานเก่งๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เขาสามารถพัฒนาตัวเองได้
“ผมอยากทำดนตรีในแบบที่ชอบ นำเสนออะไรใหม่ๆ เป็นทางเลือกให้คนฟัง ประกอบกับบ้านเราก็ยังไม่มีใครทำ ตอนทำเพลงนี้ผมวางคอนเซปต์ขึ้นมาก่อน ว่าอยากให้เป็นเพลงสนุก ตื๊ดๆ เราก็คิดท่อนตื๊ดออกมา แล้วก็เริ่มทำดนตรี จนออกมาเป็นมิวสิกวิดีโอ คือกอล์ฟทำงานเพลงจะใช้เทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ตลอดเวลา ออกแนวอิเล็กโทร เทคโน ป๊อป คือผมชอบดนตรีแนวนี้ เวลาได้ฟังก็รู้สึกชอบ ความชอบยิ่งชัดเจนที่ซาวด์ของดนตรี ประกอบกับผมได้ครูที่สอนในมหาวิทยาลัยชาวแดนมาร์ก นำพาผมไปพบกับดีเจ นักเปิดแผ่นชาวอเมริกันที่มีเสียงโด่งดังระดับโลก ก็ยิ่งทำให้ผมค้นพบแนวทางของตัวเองได้เร็วขึ้น ”
มิวสิกวิดีโอแบล็คโฮล ปล่อยออกมาได้เพียง 3 อาทิตย์ น่าชื่นใจที่มีแฟนคลับคลิกเข้าไปชมในยูทูบมากกว่า 1.5 แสนวิวแล้ว บางคนคอมเมนต์ว่า คุณได้ปฏิวัติวงการเพลงไทย ทำให้หนุ่มกอล์ฟปลื้มซะไม่มี
“ตอนเด็กๆ เราไม่รู้ว่าเราชอบแนวไหน แต่พอได้ทำอัลบั้มเดี่ยวทำให้ความชอบของเราชัดเจน แต่พอชุดที่ 3 เราเริ่มทำโปรแกรมเพลงเอง ด้วยการทำผลงานเพลง 1 เพลง คือ มาย ซูเปอร์สตาร์ ผมเลือกซาวด์เอง พออัลบั้มเดี่ยวทำเพลงเองหมด มีการพัฒนา จนมาเป็นอัลบั้มชุดนี้ คือคนที่ติดตามเพลงของกอล์ฟ พอมาฟังซิงเกิลเพลงนี้ อย่างกลุ่มเพื่อนพอลองให้เขาฟังเพลง เขาจะบอกว่า แนวเพลงเปลี่ยนไปเยอะมาก ดูทันสมัย ซึ่งเมืองไทยตลาดเพลงใหญ่ๆ ยังไม่มีเพลงแนวอิเล็กโทร เทคโน ป๊อป เท่าไหร่ แต่ที่ยุโรปและอเมริกาแนวเพลงอิเล็กโทรนิยมกันมาก ซึ่งจริงๆ ตลาดเพลงไทยน่าจะเปิดรับฟังเพลงแนวอิเล็กโทร เทคโน กันมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวที่เราชอบ ไม่ใช่ฟังกันแต่ป๊อปหรือร็อกเท่านั้น ซึ่งเกาหลีก็ยังไม่นิยมแนวนี้ ส่วนใหญ่เป็นแนวฮิปฮอป อาร์แอนด์บี ป็อป เป็นต้น ”
ค่าที่ชอบเทคโนโลยีด้านเสียงมาก หนุ่มกอล์ฟจึงมีความฝันในวงการบันเทิงอยู่ 2 อย่าง คือ อยากเป็นผู้กำกับ อาทิ กำกับมิวสิกวิดีโอของตัวเอง และอยากทำงานเพลงที่เป็นตัวเองมากที่สุด โดยอยากให้คนเปิดรับฟังแนวเพลงแนวอิเล็กโทร เทคโน ป๊อป กันมากขึ้น เช่นเดียวกับที่คนไทยที่เปิดรับการเต้นมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ในชีวิตการทำงานด้านเสียงเพลงและสร้างสรรค์งานเพลง เทคโนโลยีด้านเสียงเพลงจึงจำเป็นสำหรับชีวิตการทำงานของหนุ่มกอล์ฟมาก เทคโนโลยีคู่ใจที่เขาขาดไม่ได้ ได้แก่ ไอโฟน 4 และแมคบุ๊ก โปร ที่ใช้ประจำวัน และอุปกรณ์หนุ่มกอล์ฟใช้ในการสร้างสรรค์งานเพลง อาทิ Synthesizer OP1 ตัวสร้างเสียงสังเคราะห์ มีทั้งเสียงกลอง ฯลฯ สามารถพกไปไหนได้ และไม่ต้องเสียบปลักมีลำโพงในตัว ทำให้การสร้างสรรค์เพลงเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น แม้เป็นเพียงนักศึกษา แต่ขอบอกว่าเครื่องไม้เครื่องมือที่เขาใช้ก็ระดับมืออาชีพนะจ๊ะ
นอกจากนี้ ยังมี Keyboard piano รุ่น microKORG XL แม้ไม่สามารถปรับเสียงได้หลากหลายมากนัก แต่สะดวกมากกับการใช้ในการเล่นคอนเสิร์ต เพราะขนาดเล็กพกพาสะดวก สุดท้าย คือ ไมโครโฟน ยี่ห้อ ชัวร์ ด้วยขนาดเล็กจึงพกพาสะดวก เพราะไม่มีสาย สามารถเสียบหูฟัง ฟังเสียงของตัวเองได้ดี แล้วก็ใช้ร้องเพลงได้เลย เนื้อเสียงที่ออกมาแล้วไพเราะมาก ไมโครโฟนตัวนี้ใช้ในห้องอัดเสียง คุณภาพดีระดับหนึ่ง
“กอล์ฟไม่ค่อยเสียสตางค์กับเสื้อผ้า (หัวเราะ) แต่เสียเงินไปกับเทคโนโลยีด้านเสียง ต้องดูว่ามีประโยชน์ในด้านงานเพลงหรือเปล่า เพราะในงานเพลงต้องใช้ซาวด์ที่ทันสมัย ดังนั้นเทคโนโลยีเรื่องเสียงผมก็ต้องติดตาม แต่ต้องมีสติในการเลือกใช้ให้เหมาะกับตัวเองด้วย ”
5 คู่ใจนักร้องแนวอิเล็กโทร เทคโน ป๊อป
ไอโฟน 4 : ผมใช้ไอโฟนสำหรับโซเชียลเน็ตเวิร์ก ใช้ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาร์แกรม ยูทูบ ทวิตเตอร์ ฯลฯ อย่างอินสตาร์แกรม ผมมักใช้ในการโพสต์รูปว่าเราทำอะไรที่ไหน บางครั้งก็ถ่ายคลิปลงไปในเฟซบุ๊ก ตอนนี้มีสมาชิก 6.49 หมื่นคน ติดตามในทวิตเตอร์ของผม
โซเชียลเน็ตเวิร์ก : ผมคิดว่าการมีโซเชียลเน็ตเวิร์กดี ทำให้เราได้ใกล้ชิดกับแฟนคลับ แฟนคลับต่างประเทศก็สามารถติดตามผลงานของเราได้ ถ้าเราโพสต์รูปลงไปในอย่างทวิตเตอร์และมีแฟนๆ เข้าไปคลิกกดไลค์เยอะๆ ภายในไม่กี่นาที หน้าเฟซบุ๊กของเราจะขึ้นไปอยู่ใน ป๊อปปูลาร์เพจของทั่วโลก คนจากทั่วโลกก็จะสามารถติดตามงานของเราได้จำนวนที่เยอะขึ้น สำหรับข้อเสียของสังคมออนไลน์ คือ อย่าโพสต์อะไรแปลกๆ หรือไม่เหมาะสม อาจเกิดผลเสียกับตัวเอง ทำให้ผมต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น และต้องมีมุมที่เป็นส่วนตัวบ้าง อย่างบางภาพที่เป็นส่วนตัวมากๆ ก็ไม่ควรนำไปโพสต์ลง ผมจะมีการล็อกพื้นที่ส่วนตัวบ้างในเฟซบุ๊ก เป็นต้น
แมคบุ๊ก โปร : ผมมีโปรแกรมทำเพลงในโน้ตบุ๊กของผม เวลาบันทึกงานเพลงไว้ในแมคบุ๊กก็สามารถก๊อบปี้ไปทำงานในไอแมคที่บ้านได้ อีกทั้งใช้เล่นเน็ต แต่ส่วนใหญ่ใช้ทำงานเพลง
Keyboard piano : รุ่นที่ใช้อยู่คือ microKORG XL แม้ไม่สามารถปรับเสียงได้หลากหลายมากนัก แต่ข้อดีของมัน คือ ผมใช้ตัวนี้ในการเล่นคอนเสิร์ต ขนาดเล็กพกพาสะดวก
ไมโครโฟน : ยี่ห้อ ชัวร์ ได้ชื่อว่ามีคุณภาพที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก สำหรับรุ่นนี้ด้วยขนาดเล็กจึงพกพาสะดวก เพราะไม่มีสาย สามารถเสียบหูฟัง ฟังเสียงของตัวเองได้ดี แล้วก็ใช้ร้องเพลงได้เลย เนื้อเสียงที่ออกมาแล้วไพเราะมาก ไมโครโฟนตัวนี้ใช้ในห้องอัดเสียง คุณภาพดีระดับหนึ่ง


