posttoday

WeWork Labs ผนึก 3 องค์กร เปิดตัวโครงการ SPACE- F ปั้นสตาร์ทอัพสายฟู้ดเทค

13 กรกฎาคม 2562

จับมือ สนช.ไทยยูเนี่ยน และคณะวิทย์ฯ มหิดล สร้างอีโคซิสเต็มบ่มเพาะสตาร์ทอัพนวัตกรรมอาหารแห่งแรกของโลกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

จับมือ สนช.ไทยยูเนี่ยน และคณะวิทย์ฯ มหิดล สร้างอีโคซิสเต็มบ่มเพาะสตาร์ทอัพนวัตกรรมอาหารแห่งแรกของโลกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย

นายเอเดรียน ตัน หัวหน้าฝ่าย WeWork Labs ของ WeWork ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า WeWork Labs ประกาศความร่วมมือในโครงการ SPACE-F (สเปซ-เอฟ) ระหว่างสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อสร้าง ecosystem ที่ยั่งยืน สำหรับสตาร์ทอัพฟู้ดเทคในประเทศไทย

โดย SPACE-F เป็นโครงการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตของสตาร์ทอัพนวัตกรรมอาหารแห่งแรกของโลกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยจะให้บริการด้านนวัตกรรมที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพนวัตกรรมอุตสาหกรรมอาหาร

แบ่งออกเป็น 2 โปรแกรม คือ โปรแกรม Incubator สำหรับสตาร์ทที่อยู่ในระยะบ่มเพาะ และโปรแกรม Accelerator สำหรับบริษัทสตาร์ทอัพที่อยู่ในระยะเร่งการเติบโต โดยเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 นี้

นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สนช. กล่าวว่าจากความร่วมมือกับ WeWork Labs จะช่วยส่งเสริมให้เกิดความคิดริเริ่มใหม่ๆ ที่นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พัฒนาความมั่นคงทางด้านอาหารระดับโลก การสร้างงานด้านนวัตกรรม และแสดงความสามารถของประเทศไทยในการแข่งขันบนเวทีระดับโลก

ดร.ธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มด้านนวัตกรรม บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการร่วมมือกับ WeWork Labs จะเป็นการเปิดลู่ทางใหม่ เพื่อให้สตาร์ทอัพได้พิสูจน์ไอเดีย ตามแนวคิดมุ่งผลักดันประเทศไทยให้ก้าวไปสู่เวทีโลก และหวังว่าจะได้ต้อนรับคลื่นลูกใหม่ที่เป็นสตาร์ทอัพฟู้ดเทคที่จะเข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมนี้

นางกัณยารัตน์ สุไพบูลย์วัฒน รองคณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่าการเสริมสร้างระบบ ecosystem คือ สิ่งที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้บริษัทสตาร์ทอัพสามารถเติบโตและสร้างผลงานได้

สำหรับโครงการ SPACE-F ตั้งอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้บริการห้องแล็บ ด้วยเครื่องมือทันสมัย ช่วยให้การวิจัยและการพัฒนาทางความคิดเป็นไปได้อย่างสะดวก นอกจากนี้การขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ก็สามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วยการเข้าถึงพื้นที่ทำงานของ WeWork Labs ได้ใน 60 แห่งทั่วโลก

รวมถึงการสนับสนุนของเครือข่ายทั่วโลกของ ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป และโปรแกรมของสนช. ที่ส่งเสริมสตาร์ทอัพสู่ตลาดต่างประเทศ ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ SPACE-F สามารถยื่นขอสมาร์ทวีซ่ากับรัฐบาลไทยได้ ซึ่งจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย ทั้งนี้จะช่วยดึงดูดสตาร์ทอัพชาวต่างชาติที่มีทักษะให้เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น

SPACE-F เป็นโครงการในรูปแบบที่ไม่มีการถือหุ้นในบริษัทสตาร์ทอัพ ซึ่งผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพมีกรรมสิทธิ์ในไอเดียและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของตนเอง และเมื่อโปรแกรมสิ้นสุดลงจะมีโอกาสพบปะกับนักลงทุนที่มีศักยภาพ ซึ่งรวมถึงไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กองทุนร่วมลงทุน และองค์กรต่างๆ ที่มีหน่วยงานลงทุนในสตาร์ทอัพ

สำหรับโปรแกรม Incubator มีระยะเวลาสูงสุด 15 เดือน และโปรแกรม Accelerator มีระยะเวลา 3-8 เดือน และด้วยความร่วมมือของ WeWork Labs ในครั้งนี้ บริษัทสตาร์ทอัพจะได้เรียนรู้และได้คำแนะนำจากทั้งเมนเทอร์ชาวไทยและชาวต่างชาติซึ่งมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในทุกแง่มุมเกี่ยวกับธุรกิจ