posttoday

เร่งพัฒนาคนสู่ดิจิทัล

02 กุมภาพันธ์ 2561

เอไอเอสสวนกระแส ลั่นไม่มีแผนลดคน แต่หากทนไม่ไหวก็ไม่รั้ง พร้อมส่งหลักสูตรพัฒนาคุณภาพบุคลากรให้เท่าทันยุคดิจิทัล

เอไอเอสสวนกระแส ลั่นไม่มีแผนลดคน แต่หากทนไม่ไหวก็ไม่รั้ง พร้อมส่งหลักสูตรพัฒนาคุณภาพบุคลากรให้เท่าทันยุคดิจิทัล

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เปิดเผยว่า จากกระแสการลดพนักงานเพื่อให้ทันต่อยุคดิจิทัลนั้น ต้องยอมรับว่าไม่ว่าจะอุตสาหกรรมการเงินหรือโทรคมนาคมที่มีพนักงานจำนวนมาก ต่างก็ต้องหากลยุทธ์ในการปรับแผนลดต้นทุนที่ต่างกัน ซึ่งเอไอเอสแม้จะมีพนักงานกว่า 1.2 หมื่นคน แต่ก็ไม่มีแผนลดพนักงาน แต่จะเร่งสร้างคุณภาพให้แทน

ทั้งนี้ แม้ว่าเอไอเอสจะมุ่งเน้นเรื่องของดิจิทัล นำเรื่องของเทคโนโลยีและคุณภาพเข้ามาใช้แทนที่การให้บริการ เช่น การให้ลูกค้าจ่ายเงินกับตู้จ่ายเงินอัตโนมัติแทนการรอคิวจ่ายเงินหน้าเคาน์เตอร์ เพื่อให้คุณภาพงานบริการดีขึ้น แต่ก็มีการโยกพนักงานไปให้บริการด้านอื่นแทน

ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าการปรับกลยุทธ์นั้น อาจจะมีบางส่วนที่ไม่พอใจและไม่อยากปรับตัว ก็มีคนที่ลาออกไปบ้างแต่ไม่ได้เป็นจำนวนมากจนมีนัยสำคัญ เพราะเอไอเอสมองว่า การที่เติบโตจนเป็นเบอร์หนึ่งทุกวันนี้ มาจากทีมงานและพนักงานที่มีความแข็งแรง ทำให้บริษัทสามารถก้าวมาสู่จุดนี้ได้

นอกจากนี้ การมีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแรงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ เอไอเอสจึงมีการพัฒนาหลักสูตรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้แก่พนักงาน โดยพนักงานใหม่ทุกคนต้องได้รับการอบรมในมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้รู้ว่ากว่าจะมาถึงวันนี้บริษัทเป็นมาอย่างไร รวมทั้งมีคอร์สอัพเกรดที่เจาะจงเฉพาะความสามารถของคนแต่ละกลุ่ม แต่ละระดับ ที่ต้องการเปิดรับความรู้ใหม่ๆ

"การปรับตัวหลายอย่างของเอไอเอส ทั้งเรื่องของการลดระดับขั้นระหว่างผู้บริหารและพนักงานให้ทำงานร่วมกันได้อย่างใกล้ชิด เปิดโอกาสให้พนักงานรุ่นใหม่มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น พนักงานที่มีความสามารถจะได้รับการผลักดันให้ก้าวสู่ ตำแหน่งใหม่ๆ และมีวันโนมีตติ้งเดย์ (งดประชุม) ก็ช่วยให้พนักงานมีเวลาว่างไปหาความรู้ใหม่ๆ รวมทั้งใครที่มีความคิดสร้างสรรค์บริษัทก็พร้อมให้เงินทุนเพื่อนำไปต่อยอดและพัฒนาจนเกิดเป็นสินค้าใหม่ได้ด้วย" นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวต่อว่า เอไอเอสมีคนยุคเบบี้บูมเมอร์ประมาณ 2% ที่เหลือคือเจนเอ็กซ์และเจนวายผสมกัน แม้ว่าโครงสร้างแบบเดิมจะทำให้บริษัทสามารถเป็นเบอร์หนึ่งได้แบบทุกวันนี้ แต่ก็ต้องปรับปรุงให้เข้ากับพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ โดยวางแผนปรับปรุงโครงสร้างพนักงานที่เตรียมความพร้อมมาแล้ว 3 ปี และตั้งเป้าจะเข้าสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลที่ทรานส์ฟอร์เมชั่นได้เต็มรูปแบบในปี 2563 หรือภายใน 5 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นไปตามที่วางแผนไว้ได้ครึ่งทางแล้ว

นอกจากนี้ บริการต่างๆ ที่วางแผนไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฟิกส์บรอดแบนด์ การเข้าซื้อกิจการล็อกซอินโฟเพื่อต่อ ยอดเรื่องอินเทอร์เน็ตไร้สาย หรือความร่วมมือกับผู้ให้บริการด้านคอนเทนต์ต่างก็มีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้

ทางด้านของไทยคมนั้น บริษัทมีความร่วมมือในการใช้ดาวเทียมมาเสริมในการให้บริการด้านมีเดีย เพื่อให้บริการในพื้นที่ห่างไกลอยู่แล้ว และยังไม่ได้มีแผนงานใหม่ การปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลของไทยคมจึงต้องดูว่ามีแนวทางอย่างไร และจะให้เอไอเอสเข้าไปเสริมในจุดไหน ซึ่งบริษัทพร้อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี