จับตา 10 เทรนด์ไอทีโลกปี 2018
แนวโน้มเทคโนโลยีที่จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในเชิงกลยุทธ์สำหรับปี 2018
โดย...นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์
ขณะที่ปี 2017 กำลังจะสิ้นสุดลง การ์ทเนอร์ บริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยีสหรัฐได้คัดเลือกแนวโน้มเทคโนโลยีที่จะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในเชิงกลยุทธ์สำหรับปี 2018 นี้ไว้ 10 อย่างด้วยกัน ซึ่งสรุปสั้นๆ มาได้ดังนี้
1.ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
หลังการพัฒนาและประยุกต์ใช้ เอไอเกิดขึ้นตลอดปีที่ผ่านมา ในปีหน้านี้เอไอจะเข้ามาเป็นรากฐานของโมเดลธุรกิจและระบบการดำเนินการต่างๆ ในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมข้อมูลเพื่อการตัดสินใจต่างๆ หรือการเสริมสร้างงานบริการลูกค้า แนวโน้มดังกล่าวคาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2025
2.แอพพลิเคชั่นอัจฉริยะ
การ์ทเนอร์ ระบุว่า ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าแอพพลิเคชั่นจะเพิ่มความอัจฉริยะมากขึ้นจากการผสมผสานเข้ากับเอไอ และกลายเป็นผู้ช่วยเสมือนจริงทั้งสำหรับภาคธุรกิจและผู้บริโภค รวมถึงพลิกโฉมรูปแบบและโครงสร้างการทำงานในองค์กร
3.อุปกรณ์อัจฉริยะ
ในปีหน้านี้อุปกรณ์และเครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้านจะสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ได้มากขึ้นและใช้งานได้หลากหลายด้าน เช่น เครื่องดูดฝุ่นแบบกำหนดทิศทางได้เอง หรืออุปกรณ์เก็บเกี่ยวผลผลิตเกษตรอัตโนมัติ นอกจากนี้อุปกรณ์อัจฉริยะจะเปลี่ยนจากการใช้งานแบบเดี่ยวไปเป็นแบบกลุ่ม ที่อุปกรณ์ต่างๆ จะทำงานร่วมกันและเชื่อมต่อถึงกันเป็นเครือข่าย
4.ดิจิทัล ทวิน
ดิจิทัล ทวิน คือ บันทึกข้อมูลดิจิทัลของอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งได้มาจากเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บนตัวอุปกรณ์ เพื่อบ่งบอกสถานะและการทำงานของอุปกรณ์ในแบบเกือบเรียลไทม์ โดยการ์ทเนอร์ คาดว่าจุดเชื่อมต่อดิจิทัล ทวิน จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 2.1 หมื่นล้านจุด ในปี 2020
5.เอดจ์ คอมพิวติ้ง (Edge com puting)
เทคโนโลยีดังกล่าวเป็นการย้ายการประมวลผลและรวบรวมข้อมูลไปใกล้กับแหล่งข้อมูลมากขึ้น ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพและลดความล่าช้า เมื่อนำไปผสมผสานกับคลาวด์ คอมพิวติ้ง เทคโนโลยีเอดจ์ คอมพิวติ้งจะช่วยเติมเต็มการเชื่อมต่อต่างๆ ในระบบได้ดีขึ้น
6.ระบบการสนทนากับคอมพิวเตอร์
ระบบดังกล่าวจะเปลี่ยนการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะได้รับการพัฒนาให้มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น และทำได้มากกว่าการตอบคำถามธรรมดา เช่น การนำไปใช้เป็นพยานยืนยันเหตุอาชญากรรม หรือสเกตช์ภาพผู้ต้องสงสัยก่อเหตุจากข้อมูลเบื้องต้น
7.อิมเมอร์ซีฟ เอ็กซ์พีเรียนส์
การ์ทเนอร์ ระบุว่า อิมเมอร์ซีฟ เอ็กซ์พีเรียนส์ เป็นการสร้างประสบการณ์รับรู้โดยผสานโลกจริงกับโลกออนไลน์ ด้วยการใช้เทคโนโลยี เออาร์ วีอาร์ และเอ็มอาร์ (Mixed Reality) ทำให้ผู้ใช้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุต่างๆ ทั้งในโลกจริงและโลกดิจิทัลได้มากขึ้น
8.บล็อกเชน
แม้ขณะนี้บล็อกเชนยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่และยังไม่มีระเบียบกำกับดูแลชัดเจน แต่เทคโนโลยีดังกล่าวจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงภาคอุตสาหกรรม และมีการใช้งานในวงกว้างนอกจากด้านการเงิน
9.Event-Driven
การ์ทเนอร์ อธิบายว่า ธุรกิจดิจิทัลในอนาคตจะขับเคลื่อนจากกระแสและความเคลื่อนไหวต่างๆ (Event-Driven) การนำเอไอ อุปกรณ์ไอโอที หรือเทคโนโลยีอื่นๆ มาใช้ จึงจะช่วยให้ตรวจจับกระแสต่างๆ ได้รวดเร็วกว่า และวิเคราะห์ข้อมูลได้ตรงจุดมากกว่า
10.ระบบป้องกันความเสี่ยงแบบยืดหยุ่นได้
เนื่องจากธุรกิจดิจิทัลมีความ ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น การพัฒนาระบบป้องกันความเสี่ยงและภัยคุกคามต่างๆ จึงมีความสำคัญ การประเมินความเสี่ยง ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์จึง เข้ามาช่วยในการตัดสินใจแบบเรียลไทม์ โดยจะต้องเปลี่ยนให้คนเป็นศูนย์ กลางระบบ และเปิดให้นักพัฒนารับผิดชอบมาตรการด้านความปลอดภัยต่างๆ มากขึ้น n