posttoday

กสทช.ลดค่าต๋งอุ้มทีวีดิจิทัล

19 ตุลาคม 2560

กสทช.มีมติลดค่าธรรมเนียมทีวีดิจิทัล ระบุข้อเรียกร้องผู้ประกอบการไม่จ่ายเงินที่เหลืออีก 1.6 หมื่นล้าน เกินอำนาจ

กสทช.มีมติลดค่าธรรมเนียมทีวีดิจิทัล ระบุข้อเรียกร้องผู้ประกอบการไม่จ่ายเงินที่เหลืออีก 1.6 หมื่นล้าน เกินอำนาจ

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า มติที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 11/2560 วันที่ 18 ต.ค. 2560 เห็นชอบแนวทางลดค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์

ทั้งนี้ ให้ปรับลดอัตราค่าธรรมเนียม ดังนี้ 1.รายได้ 0-100 ล้านบาท คิดอัตราค่าธรรมเนียม 0.125% 2.รายได้ 100-500 ล้านบาท คิดค่าธรรมเนียม 0.25% 3.รายได้ 500-1,000 ล้านบาท คิดค่าธรรมเนียม 0.5% 4.รายได้ 1,000-5,000 ล้านบาท คิดค่าธรรมเนียม 0.75% 5. รายได้เกิน 5,000 ล้านบาท คิดค่าธรรม เนียม 1.5% โดยจะนำร่างประกาศ เรื่อง ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์ฯ (ฉบับที่ 3) ไปรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ต่อไป

สำหรับกรณีที่สมาคมทีวีดิจิทัลแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการปฏิรูปสื่อ เสนอปรับโครงสร้างอุตสาห กรรมทีวีดิจิทัลไปอยู่ในแผนปฏิรูปสื่อ ของประเทศ เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมข้อเสนอ 3 ข้อ คือ 1.ให้ผู้ประกอบการ ไม่ต้องชำระเงินค่าประมูลส่วนที่เหลืออีก 1.6 หมื่นล้านบาท 2.สถานการณ์ธุรกิจทีวี ดิจิทัลไม่เอื้ออำนวยให้ชำระเงินค่าประมูล 3.ให้นำเงินที่เหลือจากการแจกคูปอง 3-4,000 ล้านบาท มาชดเชย รวมทั้งให้นำคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ เปิดประมูลในส่วนกิจการโทรคมนาคมเพื่อนำเงินมาชดเชย

นายฐากร กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ซึ่งข้อเสนอของสมาคมทีวีดิจิทัลแห่งประเทศไทย ทั้ง 3 ประการ เกินอำนาจในการตัดสินของ กสทช. และเงินในการประมูลทีวีดิจิทัล รวมทั้งเงินที่เหลือจากการแจกคูปองทีวีดิจิทัล สำนักงาน กสทช.ต้องนำส่งเป็นรายได้ของรัฐ ดังนั้นหากจะดำเนินการตามข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการต้องรอกฎหมายพิเศษในการช่วยเหลือต่อไป โดยการใช้อำนาจตามมาตรา 44 เป็นต้น

นอกจากนี้ มติที่ประชุมยังเห็นชอบ ให้สำนักงาน กสทช. จัดประมูลหมายเลขสวยครั้งที่ 3-2560 วันที่ 19 พ.ย. 2560 ณ สำนักงาน กสทช. จำนวน 95 เลขหมาย เป็นเลขหมายสวย รวยมงคล ราคาเริ่มต้นการประมูลที่ 5 แสน- 3 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถนำรายได้ส่งเข้ารัฐไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท