posttoday

'Made in Internet'

15 กรกฎาคม 2560

ในงานสัมมนา “Global Netrepreneurs Conference” จัดโดยอาลีบาบา กรุ๊ป ได้กล่าวถึงการแนะนำธุรกิจเอสเอ็มอีให้ยกระดับ

โดย...อาลีบาบา กรุ๊ป

ในงานสัมมนา “Global Netrepreneurs Conference” จัดโดยอาลีบาบา กรุ๊ป ได้กล่าวถึงการแนะนำธุรกิจเอสเอ็มอีให้ยกระดับการทำงานด้วยเทคโนโลยี รับเทรนด์ใหม่มาแรง “เมด อิน อินเทอร์เน็ต”

แจ็ค หม่า ประธานบริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า ธุรกิจขนาดย่อมควรหันมาใช้อินเทอร์เน็ตและนวัตกรรมบิ๊กดาต้าอย่างสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับระบบโลจิสติกส์ การเงิน และการประสานงานกับทั้งลูกค้าและคู่ค้า จนนำไปสู่การปรับรูปแบบธุรกิจให้เข้ากับโลกยุคใหม่ที่สินค้าไม่ได้ผลิตจากประเทศใดประเทศหนึ่งอีกต่อไป แต่เป็นผลงานจากกระบวนการสร้างสรรค์ที่ไร้พรมแดน จนเกิดเป็นนิยามใหม่ว่า “เมด อิน อินเทอร์เน็ต”

นอกจากนี้ยังคาดการณ์อีกว่าในช่วง 30 ปีข้างหน้า นวัตกรรมอินเทอร์เน็ต บิ๊กดาต้า คลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะพัฒนาศักยภาพไปอย่างรวดเร็วเหนือทุกความคาดหมาย จนกระทั่งทำให้ภาคอุตสาหกรรมการผลิตต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในทศวรรษหน้านี้

ขณะที่ผู้บริโภค หรือธุรกิจขนาดเล็ก อาจกลายเป็นผู้กำหนดปัจจัยในการผลิตสินค้า หรือแม้แต่แนวคิดการออกแบบผลิตภัณฑ์แทน ภายใต้โมเดลธุรกิจแบบ C2B (Consumer-to-Business) ที่ขับเคลื่อนด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลจากลูกค้า

“โครงสร้างธุรกิจแบบ C2B และการผลิตสินค้าให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าในระดับตัวบุคคล คืออนาคตของโลกธุรกิจในยุค ‘เมดอิน อินเทอร์เน็ต’ โดยคุณอาจจะออกแบบผลิตภัณฑ์ขึ้นในสหรัฐ ไปเข้าสู่สายการผลิตในเยอรมนี ก่อนจะประกอบในจีน และส่งออกไปขายทั่วโลกก็เป็นได้” หม่า กล่าว

ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อเทรนด์ใหม่ดังกล่าว แจ็ค หม่า ได้เผยถึงรายละเอียดของกลยุทธ์ “Five News” ที่อาลีบาบา กรุ๊ป ได้นำเสนอเป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา โดยครอบคลุมแนวคิดใหม่ทั้งในด้านธุรกิจค้าปลีก ภาคการผลิต การเงิน เทคโนโลยี และพลังงาน ซึ่งมองว่าในอนาคตตลาดค้าปลีกจะผสมผสานรูปแบบการทำธุรกิจของโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน ขณะที่ภาคการผลิตจะปรับรูปแบบการทำงานมาเป็นโมเดล C2B

ในส่วนของภาคการเงินจะเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเงินทุนได้อย่างเท่าเทียมกัน ควบคู่ไปกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการสามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจไว้ได้ด้วยบิ๊กดาต้าและคลาวด์ และข้อมูลในโลกดิจิทัลจะกลายเป็นพลังงานรูปแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีกให้สามารถส่งมอบสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้รวดเร็วกว่าที่เคย

แดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวเสริมว่าความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะไม่จำกัดอยู่แต่ในโลกออนไลน์เท่านั้น ปัจจุบันธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมีมูลค่าคิดเป็น 15% ของตลาดค้าปลีกทั้งหมดในจีน แต่เราต้องมุ่งเป้าไปที่การเสริมศักยภาพให้กับตลาดค้าปลีกออฟไลน์อีก 85% ที่เหลืออยู่ด้วยเทคโนโลยีในโลกดิจิทัลที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าได้

แนวคิดเกี่ยวกับ “Netrepreneur” หรือผู้ประกอบการในโลกออนไลน์นั้น เป็นผลงานการริเริ่มของ แจ็ค หม่า ในปี 2547 โดยนับจากนั้นเป็นต้นมา ผู้ประกอบการกลุ่มนี้ก็ได้กลายเป็นแรงผลักดันที่สำคัญเบื้องหลังการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ในโลกธุรกิจมากมาย