เซอร์ เดวิด เบ็คแฮม! รับบรรดาศักดิ์อัศวินอย่างเป็นทางการ
ตำนานลูกหนังอังกฤษขึ้นแท่น "เซอร์" อย่างสมเกียรติ! ยลโฉม เบ็คแฮม เข้ารับพระราชทานยศอัศวิน ณ วินด์เซอร์ พร้อมชุดที่ วิคตอเรีย ออกแบบให้เป็นครั้งแรก
เซอร์เดวิด เบ็คแฮม อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ วัย 50 ปี ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์อัศวิน (Knighthood) จากพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ณ พระราชวังวินด์เซอร์ ในพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อยกย่องคุณูปการที่เขามีต่อวงการฟุตบอลและสังคมอังกฤษโดยรวม
เบ็คแฮม มีชื่ออยู่ในรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์วันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ฯ ในช่วงต้นปี68 ได้กล่าวถึงความรู้สึกของตนว่า
"ผมภูมิใจมาก และคงไม่สามารถบรรยายความรู้สึกนี้ไปได้มากกว่าที่มันจะระเบิดออกมาได้มากแค่ไหน" อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษเดวิด เบ็คแฮมกล่าว
"ผู้คนรู้ว่าผมรักชาติแค่ไหน ผมรักประเทศของผม"
"สถาบันพระมหากษัตริย์ที่ก็มีความสำคัญกับครอบครัวของผมมากที่สุดเช่นกัน"
วิคตอเรีย เบ็คแฮม เบื้องหลังความสำเร็จและชุดเกียรติยศ
ในพิธีอันทรงเกียรติครั้งนี้ วิคตอเรีย เบ็คแฮม ภรรยาของเขา ซึ่งเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์และอดีตสมาชิกวงสไปซ์เกิร์ล ได้เข้าร่วมชมพิธีด้วยความภาคภูมิใจ
การก้าวมาถึงจุดสูงสุดของเดวิด เบ็คแฮม ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสนามฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังมีวิคตอเรียอยู่เบื้องหลัง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำธุรกิจและภาพลักษณ์สาธารณะ ความพิเศษสำหรับพิธีรับพระราชทานบรรดาศักดิ์ครั้งนี้คือ วิคตอเรียได้เตรียมความพร้อมสำหรับวาระสำคัญ
โดยวิคตอเรียได้ ออกแบบและตัดชุด (Morning Suit) สำหรับผู้ชาย ซึ่งเป็นเสื้อคลุมแบบมีหาง (tailcoat) ให้แก่สามีของเธอ นับเป็นครั้งแรกที่เธอเคยทำเสื้อผ้าให้กับเซอร์เดวิด เบ็คแฮม โครงการลับนี้เริ่มต้นขึ้นในเดือนมิถุนายน หลังจากที่ทั้งคู่ทราบว่าอดีตดาวเตะแมนฯ ยูไนเต็ดจะได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ในงาน King’s Birthday Honours เพื่อนสนิทของคู่รักคู่นี้กล่าวว่า การที่เดวิดสวมชุดที่ออกแบบโดยวิคตอเรีย เบ็คแฮม จะทำให้วันพิเศษนี้ยิ่งมีความพิเศษมากขึ้นไปอีก
คุณูปการอันยิ่งใหญ่ทั้งในและนอกสนาม
ผลงานของ เซอร์เดวิด เบ็คแฮม คือตำนานที่เขาสร้างมานานตั้งแต่เลื่อนชั้นจาก อะคาเดมี่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อปี 1995 นอกจากผลงานของเขาในสนาม โดดเด่นตลอดอาชีพการค้าแข้ง และขยายไปไกลกว่าสนามแข่งขันมาก
งานการกุศลและสังคม: เขาเคยมีบทบาทในการช่วยให้ลอนดอนได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก ปี 2012 และได้ทำงานร่วมกับองค์การยูนิเซฟ (Unicef) ตั้งแต่ปี 2005 ในฐานะทูตสันถวไมตรี ในปี 2015 มีการตั้งกองทุนในชื่อของเขาเพื่อฉลองความร่วมมือสิบปีกับองค์กรนี้
บทบาทด้านการศึกษา: เมื่อปีที่แล้ว (2024) เขาได้รับแต่งตั้งเป็นทูตของ King's Foundation ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลด้านการศึกษาที่ก่อตั้งโดยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ตั้งแต่ปี 1990 โดยเขาให้การสนับสนุนโครงการด้านการศึกษาของพระเจ้าชาร์ลส์ และความพยายามเพื่อให้เยาวชนมีความเข้าใจธรรมชาติมากขึ้น
ธุรกิจฟุตบอล: เขายังเป็นเจ้าของร่วมสโมสรซัลฟอร์ด ซิตี้ (Salford City) ในลีกทู (League Two) ร่วมกับแกรี่ เนวิลล์ อดีตเพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและอังกฤษ และยังเป็นเจ้าของร่วมสโมสรอินเตอร์ ไมอามี (Inter Miami) ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ (MLS)
ตำนานลูกหนังทีมชาติและสโมสร
เซอร์เดวิด เบ็คแฮม มาเป็นชาวอีสต์ลอนดอน และไปเติบโตกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทีมที่เขาเชียร์ตามคุณปู่มาตั้งแต่เด็ก
ทีมชาติ: เขาเคยเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ (Three Lions) เป็นเวลาหกปีระหว่างปี 2000 ถึง 2006 และลงเล่นให้ทีมชาติรวม 115 นัด รวมถึงการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 ครั้ง และฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (European Championships) 2 ครั้ง
สโมสร: เขามาจากอะคาเดมีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปี 1992 และใช้เวลา 11 ปีในทีมชุดใหญ่ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย และเอฟเอ คัพ 2 สมัย และเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่คว้าชัยชนะในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกในปี 1999 ก่อนจะย้ายไปเรอัล มาดริด ในปี 2003 ด้วยมูลค่า 25 ล้านปอนด์
จากนั้นเล่นให้แอลเอ กาแล็กซี มีการยืมตัวไปเอซี มิลาน สองครั้ง และปิดท้ายอาชีพค้าแข้งที่ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในปี 2013
นอกจากนี้ เขายังเป็นที่รู้จักในเรื่องของแฟชั่น และเคยได้รับการยกย่องให้เป็นผู้ชายที่มีสไตล์ที่สุดแห่งปีจากนิตยสาร GQ ในปี 1998


