ทรัมป์ลงนามคำสั่งขาย TikTok ในสหรัฐ มูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร รับรองแผนการขายกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ ชี้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความมั่นคงแห่งชาติในกฎหมายปี 2024
KEY
POINTS
- ทรัมป์ลงนามคำสั่งขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ โดยบริษัทใหม่ที่จัดตั้งขึ้นจะมีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์
- เป้าหมายหลักของการขายกิจการคือเพื่อคุ้มครองข้อมูลผู้ใช้งานชาวอเมริกัน โดยอัลกอริทึมจะถูกตรวจสอบและควบคุมโดยบริษัทในสหรัฐฯ
- กลุ่มนักลงทุนที่นำโดย Oracle และ Silver Lake จะเข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัทใหม่ ขณะที่ ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่จากจีนจะลดสัดส่วนการถือครองลง
เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดี ระบุว่า บริษัทใหม่ที่จัดตั้งขึ้นในสหรัฐฯ จะมีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์หลายฝ่ายที่เคยประเมินไว้สูงกว่านี้
คำสั่งดังกล่าวยังได้เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายแบน TikTok ออกไปจนถึงวันที่ 20 มกราคม เพื่อเปิดทางให้มีการเจรจาขายสินทรัพย์ในสหรัฐฯ จัดหานักลงทุนรายใหม่ รวมถึงรอการอนุมัติจากรัฐบาลจีน
แวนซ์กล่าวว่า แม้จะมีการต่อต้านบางส่วนจากฝ่ายจีน แต่สหรัฐฯ มีเป้าหมายหลักคือการทำให้ TikTok สามารถดำเนินงานต่อไปได้ พร้อมทั้งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานชาวอเมริกันตามที่กฎหมายกำหนด โดยอัลกอริทึมแนะนำเนื้อหาของ TikTok จะถูกฝึกใหม่และตรวจสอบโดยพันธมิตรด้านความมั่นคงของบริษัทใหม่
ทรัมป์ยืนยันว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน ได้แสดงความเห็นชอบต่อแนวทางดังกล่าวหลังการหารือกัน พร้อมกล่าวว่า “นี่จะเป็นการดำเนินการโดยชาวอเมริกันอย่างเต็มรูปแบบ”
สำหรับการลงทุนครั้งนี้จะมีบุคคลสำคัญและบริษัทระดับโลกเข้าร่วม อาทิ ไมเคิล เดลล์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Dell Technologies, รูเพิร์ต เมอร์ด็อก แห่ง Fox Corp และ News Corp รวมถึงนักลงทุนรายใหญ่อีกหลายราย
ขณะเดียวกัน กลุ่มนักลงทุนที่นำโดย Oracle และ Silver Lake จะถือหุ้นประมาณ 50% ของ TikTok U.S. ขณะที่ผู้ถือหุ้นเดิมใน ByteDance จะถือครองราว 30% โดย ByteDance เองจะถือครองไม่ถึง 20% เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายปี 2024 ที่กำหนดให้ต้องลดสัดส่วนการถือหุ้นลง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันได้เรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจว่าดีลนี้จะเป็นการตัดขาดจากอิทธิพลของรัฐบาลจีนอย่างแท้จริง
TikTok ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ByteDance จากจีน ปัจจุบันมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ มากถึง 170 ล้านคน และทรัมป์เองมีผู้ติดตามกว่า 15 ล้านบัญชีในแพลตฟอร์มดังกล่าว


