ฮ่องกงสั่งปิดโรงเรียนและธุรกิจ เตรียมรับซูเปอร์ไต้ฝุ่น รากาซา
ฮ่องกงเตรียมรับมือซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซา พายุเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดของโลกปีนี้ ทางการสั่งปิดโรงเรียนและธุรกิจ ขณะเที่ยวบินโดยสารถูกระงับจนถึงเช้าวันพฤหัสบดี
KEY
POINTS
- ฮ่องกงเตรียมยกระดับสัญญาณเตือนไต้ฝุ่นเป็นระดับ 8 ส่งผลให้ธุรกิจและระบบขนส่งส่วนใหญ่ต้องปิดทำการ และกระทบเที่ยวบินกว่า 700 เที่ยว
- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซามีความเร็วลมสูงสุด 220 กม./ชม. คาดว่าจะทำให้เกิดฝนตกหนักและคลื่นพายุซัดฝั่งรุนแรง
- ประชาชนเร่งกักตุนสิ่งของจำเป็นทำให้สินค้าขาดแคลน ขณะที่ทางการแจกจ่ายกระสอบทรายเพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ
ซูเปอร์ไต้ฝุ่นรากาซามีกำลังลมสูงสุดถึง 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีน ตามการเปิดเผยของหอสังเกตการณ์ฮ่องกง
เจ้าหน้าที่เตรียมยกระดับสัญญาณเตือนไต้ฝุ่นขึ้นสู่ระดับ 8 ซึ่งเป็นระดับที่สามสูงสุด ภายในเวลา 14.20 น. ซึ่งจะนำไปสู่การปิดให้บริการของธุรกิจและระบบขนส่งจำนวนมาก โดยมีเที่ยวบินกว่า 700 เที่ยว ได้รับผลกระทบแล้ว
หอสังเกตการณ์ระบุว่า อาจจำเป็นต้องออกคำเตือนในระดับที่สูงกว่านี้ในช่วงค่ำวันอังคารหรือเช้าวันพุธ ขณะที่คาดว่าลมแรงจะพัดเข้ามายังพื้นที่นอกชายฝั่งและบนที่สูงของฮ่องกง พร้อมฝนตกหนักที่อาจก่อให้เกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง (storm surge) รุนแรง
ทั้งนี้ ระดับน้ำทะเลอาจสูงขึ้นราว 2 เมตร ตามแนวชายฝั่ง และอาจสูงสุดถึง 4–5 เมตร ในบางพื้นที่ คล้ายกับสถานการณ์ในช่วงไต้ฝุ่นฮาโตะปี 2017 และไต้ฝุ่นมังคุตปี 2018 ซึ่งสร้างความเสียหายมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
ทางการได้แจกจ่ายกระสอบทรายเพื่อช่วยชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำเสริมความแข็งแรงให้ที่อยู่อาศัย ขณะที่ประชาชนจำนวนมากเร่งกักตุนสิ่งจำเป็นประจำวัน ส่งผลให้เกิดคิวซื้อสินค้ายาวที่ซูเปอร์มาร์เก็ต โดยนมและเนื้อสัตว์ถูกซื้อหมดเกลี้ยง ขณะที่ราคาผักสดในตลาดเพิ่มขึ้นถึง สามเท่า
แม้ว่าสภาพอากาศเลวร้าย แต่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงยังคงเปิดทำการตามนโยบายใหม่ที่ประกาศเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
จีน ได้เริ่มมาตรการควบคุมน้ำท่วมในหลายมณฑลทางใต้ ขณะที่ มาเก๊า ประกาศปิดโรงเรียนและเตรียมแผนการอพยพ ประชาชนในเมือง เซินเจิ้น ได้รับการจัดเตรียมศูนย์พักพิงฉุกเฉินกว่า 800 แห่ง
ในอีกด้านหนึ่ง รัฐบาลไต้หวันได้อพยพประชาชนกว่า 7,600 คน ออกจากพื้นที่ภูเขาทางตอนใต้และตะวันออก ขณะเดียวกันระบบขนส่งได้รับผลกระทบต่อเนื่อง โดยมีเที่ยวบินยกเลิกแล้ว 273 เที่ยว และบางเส้นทางรถไฟต้องหยุดให้บริการ


