NASA ประกาศข้อบ่งชี้ อาจพบซากฟอสซิลสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร
NASA ค้นพบสัญญาณชีวิตโบราณบนดาวอังคาร รอยหินลายจุดเสือดาวอาจเป็นซากฟอสซิลโบราณที่บ่งชี้หลักฐานว่ามีสิ่งมีชีวิตนอกโลก
KEY
POINTS
- ยานสำรวจเพอร์เซเวียแรนซ์ของ NASA พบร่องรอยทางชีวภาพ (potential biosignature) บนหินดาวอังคาร ซึ่งอาจเป็นหลักฐานของสิ่งมีชีวิตโบราณ
- หลักฐานสำคัญคือการพบแร่ธาตุที่มีเหล็กเป็นส่วนประกอบ (วิเวียนไนต์และไกรไจต์) ซึ่งบนโลกมักมีความเชื่อมโยงกับกระบวนการของจุลินทรีย์
- การค้นพบนี้ยังไม่ใช่การยืนยัน และจำเป็นต้องนำตัวอย่างหินกลับมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการบนโลกเพื่อพิสูจน์ขั้นสุดท้าย
องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (NASA) ได้ประกาศการค้นพบที่สำคัญจากภารกิจสำรวจดาวอังคาร โดยรถสำรวจเพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance) ได้พบหลักฐานที่อาจบ่งชี้ถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตโบราณบนดาวเคราะห์สีแดง
นักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจพบลายเซ็นทางชีวภาพที่เป็นไปได้ (potential biosignature) บนหินก้อนหนึ่งที่มีชื่อว่า "Cheyava Falls" ในแหล่งหิน "Bright Angel" หินดังกล่าวมีลักษณะพิเศษที่คล้ายจุดลายเสือดาวและเมล็ดป๊อปปี้
การวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือ PIXL (Planetary Instrument for X-ray Lithochemistry) และ SHERLOC (Scanning Habitable Environments with Raman & Luminescence for Organics & Chemicals) พบว่าจุดเหล่านี้อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีเหล็ก ประกอบด้วย วิเวียนไนต์ (vivianite) และไกรไจต์ (greigite)
ดร. ไมเคิล ไทซ์ นักวิจัยในทีมอธิบายว่า "บนโลก แร่ธาตุเหล่านี้บางครั้งก่อตัวขึ้นในตะกอนที่จุลินทรีย์กำลังใช้สสารอินทรีย์เป็นอาหารและใช้สนิมเหล็กและซัลเฟตในการหายใจ การปรากฏตัวของแร่ธาตุเหล่านี้บนดาวอังคารจึงทำให้เกิดคำถามว่ากระบวนการที่คล้ายกันเคยเกิดขึ้นที่นั่นหรือไม่"
จุดเด่นของการวิจัย
1. หินที่มีอายุน้อยกว่าที่คาดคิด
หินที่พบมีอายุน้อยที่สุดเท่าที่ภารกิจเพอร์เซเวียแรนซ์เคยสำรวจมา ซึ่งบ่งชี้ว่าสภาวะที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตบนดาวอังคารอาจคงอยู่นานกว่าที่เคยคาดการณ์
2. การตรวจสอบที่รัดกุม
ทีมวิจัยได้พิจารณาทั้งสมมติฐานที่มีสิ่งมีชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้อง (biotic) และที่ไม่มีสิ่งมีชีวิต (abiotic) ในการเกิดลวดลายดังกล่าว ผลการตรวจสอบไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าหินเคยผ่านสภาวะที่รุนแรง เช่น อุณหภูมิสูงหรือความเป็นกรดจัด
3. ขั้นตอนต่อไปของการวิจัย
การพิสูจน์ที่แน่ชัดจำเป็นต้องนำตัวอย่างหิน "Sapphire Canyon" ที่เจาะมาจากหิน Cheyava Falls กลับมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการบนโลก อย่างไรก็ตาม อนาคตของภารกิจดังกล่าวยังไม่แน่นอนเนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ
เคที สแตก มอร์แกน (Katie Stack Morgan) นักวิทยาศาสตร์โครงการเพอร์เซเวียแรนซ์ เน้นย้ำว่า "การกล่าวอ้างทางดาราชีววิทยา โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบสิ่งมีชีวิตนอกโลกในอดีต ต้องการหลักฐานที่ไม่ธรรมดา"
การประกาศครั้งนี้ผ่านกระบวนการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ (peer-reviewed) และใช้มาตรวัด "ระดับความเชื่อมั่นในการตรวจจับสิ่งมีชีวิต (CoLD)" เพื่อประเมินหลักฐานอย่างเป็นระบบ
แม้การค้นพบนี้ไม่ได้เป็นการยืนยันการพบสิ่งมีชีวิตนอกโลก แต่เป็นก้าวสำคัญในกระบวนการค้นหาคำตอบสำหรับคำถาม "เราอยู่ลำพังในจักรวาลหรือไม่" ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่รัดกุม การยืนยันสุดท้ายจะต้องรอการวิเคราะห์ตัวอย่างในห้องปฏิบัติการบนโลก ซึ่งจะให้คำตอบที่แน่ชัดมากยิ่งขึ้น


