ตลาดหุ้นสหรัฐทำนิวไฮต่อ หุ้นAI-เซมิคอนดัคเตอร์หนุนตลาด
ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดทำสถิติสูงสุด จากหุ้นกลุ่มเซมิคอนดัคเตอร์ ขณะที่หุ้น Oracle พุ่งแรงจากกระแสการลงทุนด้าน AI
KEY
POINTS
- ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดตลาดในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
- หุ้นกลุ่ม AI และเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นำโดยหุ้น Oracle ที่พุ่งขึ้นแรงจากความต้องการบริการคลาวด์สำหรับ AI
- ข้อมูลเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดการณ์ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดตลาดในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพุธ (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นของบริษัท Oracle ที่พุ่งทะยานขึ้นอย่างมาก รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งช่วยสนับสนุนความเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
Oracle พุ่งแรงสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี
ราคาหุ้นของ Oracle เพิ่มขึ้นถึง 36% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นรายวันสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1992 หลังบริษัทเปิดเผยว่าความต้องการใช้บริการคลาวด์จากบริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้มูลค่าตลาดของ Oracle แตะ 922,000 ล้านดอลลาร์ แซงหน้าบริษัท Eli Lilly, JPMorgan Chase และ Walmart และเข้าใกล้มูลค่าตลาดของ Tesla ที่อยู่ที่ 1.12 ล้านล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่ม AI และเซมิคอนดักเตอร์หนุนตลาด
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ปรับตัวขึ้นตามกัน โดย Nvidia เพิ่มขึ้น 3.8%, Broadcom กระโดดขึ้น 10% และ AMD ขยับขึ้น 2.4% ส่งผลให้ดัชนี PHLX Semiconductor Index ขึ้น 2.3% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะเดียวกัน หุ้นผู้ผลิตพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล เช่น Constellation Energy, Vistra และ GE Vernova ต่างปรับขึ้นกว่า 6% อย่างไรก็ตาม หุ้น Apple ร่วงลง 3.2% ติดต่อกันเป็นวันที่สี่ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าบริษัทยังล้าหลังในการแข่งขันด้าน AI
แรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อและคาดการณ์ลดดอกเบี้ย
ข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาด ประกอบกับตลาดแรงงานที่ชะลอตัว ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมสัปดาห์หน้า โดยมีความเป็นไปได้ 10% ที่จะปรับลด 0.50% ตามข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME
ภาพรวมตลาดหุ้นสหรัฐ
• S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 19.43 จุด หรือ 0.30% ที่ 6,532.04 จุด
• Nasdaq Composite ปิดเพิ่มขึ้น 6.57 จุด หรือ 0.03% ที่ 21,886.06 จุด
• ดัชนี Dow Jones ลดลง 220.42 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 45,490.92 จุด
ความเคลื่อนไหวในตลาดพลังงานและทองคำ
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมากกว่า 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความกังวลต่อความเสี่ยงด้านอุปทาน หลังโปแลนด์สกัดโดรนในน่านฟ้า และสหรัฐเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรผู้ซื้อน้ำมันรัสเซียเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐที่เพิ่มขึ้นจำกัดการปรับขึ้นของราคา
โดยน้ำมันดิบสหรัฐ (WTI) ปิดที่ 63.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์
ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ 67.49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์
ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำได้ในวันก่อนหน้า
โดยทองสปอตเพิ่มขึ้น 0.4% อยู่ที่ 3,640.78 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าสหรัฐลดลงเล็กน้อย 0.03% ปิดที่ 3,642.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์


