ด่วน สหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีต่างตอบแทน ไทย 19% ลดจาก 36% ก่อนหน้านี้

เว็บไซต์ทำเนียบขาวประกาศอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทนล่าสุด มีผลบังคับตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2568 ใช้ภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้าที่ไม่ร่วมมือ สหรัฐฯ เตรียมเพิ่มภาษีสูงสุด 40% กับสินค้าที่เลี่ยงภาษี โดยไทยถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 19 เท่ากับอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา และมาเลเซีย ขณะเวียดนามถูกเก็บร้อยละ 20

 

วันที่ 31 กรกฎาคม 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยภาวะฉุกเฉินและอำนาจทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้:

 

 

 

มาตรา 1: สหรัฐฯ ประกาศ “ภาวะฉุกเฉินทางการค้า” เหตุขาดดุลการค้าต่อเนื่อง

 

ประธานาธิบดีระบุว่า การขาดดุลการค้าสินค้าของสหรัฐฯ ที่มากและต่อเนื่องเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ โดยต้นเหตุมาจากแนวปฏิบัติของประเทศคู่ค้าที่ไม่เป็นธรรม เช่น การกำหนดอัตราภาษีและอุปสรรคที่ไม่เท่าเทียมกับสหรัฐฯ

 

ขณะที่บางประเทศแสดงความร่วมมือในการเจรจาการค้าและความมั่นคง สหรัฐฯ ยังคงเผชิญกับคู่ค้าที่เพิกเฉยต่อการเจรจาและไม่ดำเนินการใด ๆ เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลด้านการค้า

 

เพื่อตอบโต้สถานการณ์ดังกล่าว สหรัฐฯ จึงประกาศใช้ภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มเติม (ad valorem duties) ต่อประเทศคู่ค้าบางประเทศอย่างเป็นทางการ

 

มาตรา 3: สหรัฐฯ ขึ้นภาษี 40% สำหรับสินค้าที่ถูกขนส่งผ่านประเทศที่สามเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี

 

กรมศุลกากรสหรัฐฯ (CBP) ได้รับอำนาจในการตรวจสอบและกำหนดบทลงโทษที่เข้มงวดต่อสินค้าที่ใช้ “การขนส่งผ่านประเทศที่สาม” (transshipment) เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี

 

สินค้าที่ตรวจพบว่าใช้วิธีการดังกล่าวจะต้องเสีย:

• ภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 40% แทนภาษีเดิม

• ค่าปรับตามกฎหมายศุลกากร

• ภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นของประเทศต้นทาง

 

CBP จะไม่อนุญาตให้มีการลดหย่อนหรือยกเว้นค่าปรับในกรณีดังกล่าว

พร้อมกันนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ จะเผยแพร่รายชื่อประเทศและโรงงานที่เกี่ยวข้องกับการเลี่ยงภาษีทุก 6 เดือน เพื่อประกอบการพิจารณาด้านความมั่นคงและการจัดซื้อภาครัฐ

 

 

 

มาตรา 4: รัฐบาลกลางทุกหน่วยงานได้รับคำสั่งให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน

 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินมาตรการตามคำสั่งฉบับนี้โดยทันที

 

การดำเนินงานจะมีการประสานกับ:

• กระทรวงการต่างประเทศ

• กระทรวงการคลัง

• คณะที่ปรึกษาประธานาธิบดีด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการผลิต

• คณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ

 

หน่วยงานต่าง ๆ สามารถระงับหรือแก้ไขกฎระเบียบชั่วคราว ออกแนวทางหรือข้อบังคับใหม่ และใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อให้คำสั่งมีผลในทางปฏิบัติ

 

มาตรา 7: ย้ำสถานะคำสั่ง — ไม่กระทบอำนาจหน่วยงานอื่น และไม่ก่อสิทธิ์ทางกฎหมายแก่ประชาชน

 

คำสั่งนี้ระบุอย่างชัดเจนว่า:

• ไม่กระทบต่ออำนาจของหน่วยงานรัฐบาลหรือหัวหน้าหน่วยงานตามกฎหมาย

• ไม่กระทบต่อหน้าที่ด้านงบประมาณของสำนักงานบริหารและงบประมาณ (OMB)

• ไม่ได้สร้างสิทธิ์ทางกฎหมายให้กับบุคคลใดในการฟ้องร้องหรือเรียกร้องผลประโยชน์จากรัฐบาลกลาง

 

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการเผยแพร่คำสั่งฉบับนี้จะเป็นความรับผิดชอบของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ