กัมพูชาเตรียมฟ้องศาลโลกปมชายแดน ลั่นพร้อมรบหากถูกรุกราน

สมเด็จ ฮุน เซน (Hun Sen) ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์เฟสบุ๊คทระบุว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติและวุฒิสภา มีมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 182 เสียง ต่อแผนการดำเนินการของ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการยื่นข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทยต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก (ICJ)

 

สมเด็จฮุน เซน ระบุว่า เมื่อเช้าวันที่ 2 มิถุนายน ในการประชุมของคณะกรรมการสภานิติบัญญัติแห่งชาติและวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา สมัชชาทั้งหมดแสดงการสนับสนุน โดยมีสมาชิกวุฒิสภาและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 182 คนลงคะแนนเห็นชอบ ให้รับรองคำชี้แจงการดำเนินการของนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ในการยื่นข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทยต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

 

ก่อนหน้านี้ พลเอก ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์เฟสบุ๊ค ระบุว่า

 

หลังจากปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศเสร็จสิ้น ข้าพเจ้าได้เดินทางไปพบกับผู้นำทางทหารของเรา ณ ชายแดน เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์จริงบริเวณชายแดนกัมพูชา–ไทย

 

ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้แล้ว กัมพูชายึดมั่นในการแก้ไขปัญหาพรมแดนโดยสันติวิธี ผ่านกลไกทางเทคนิคและกฎหมายระหว่างประเทศเป็นหลักสำคัญ ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยเขตแดนกัมพูชา–ไทย (JBC) ดำเนินการดังต่อไปนี้:

1. จัดการประชุม JBC ร่วมกับฝ่ายไทยโดยทันที เพื่อดำเนินงานสำรวจ พิสูจน์แนวเขต และติดตั้งหลักเขตแดนระหว่างสองประเทศให้ต่อเนื่อง

2. เตรียมบรรจุวาระการประชุม JBC เพื่อเสนอให้นำกรณีปัญหาเกี่ยวกับ

• ปราสาทตาเมือนธม

• ปราสาทตาเมือนโต๊จ

• ปราสาทตาควาย

• และพื้นที่บริเวณมุมไบ(สามเหลี่มมรกต)

ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ)

 

ในช่วงที่ผ่านมา ความตึงเครียดในพื้นที่มุมไบ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาเมือนโต๊จได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการยั่วยุซ้ำซากโดยกลุ่มหัวรุนแรงขนาดเล็ก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงจุดกระแสชาตินิยมในทั้งสองประเทศ และอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าครั้งใหม่ในอนาคต ข้าพเจ้าหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถร่วมมือกันเพื่อบรรลุข้อตกลงสุดท้ายในพื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ รวมถึงดำเนินการสำรวจแนวเขต การตกลงร่วมกัน และติดตั้งหลักเขตแดนในพื้นที่ที่ยังไม่ได้ตกลงกัน โดยสันติวิธี บนพื้นฐานของกลไกทางเทคนิคและกฎหมายระหว่างประเทศ

 

ข้าพเจ้าขอย้ำอีกครั้งว่า แม้กัมพูชาจะยึดมั่นในการแก้ไขปัญหาชายแดนโดยสันติวิธี ตามหลักกลไกทางเทคนิคและกฎหมายระหว่างประเทศ แต่กัมพูชายังคงสงวนสิทธิ์ในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของตนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้กำลังทางทหาร หากมีการพยายามรุกรานดินแดนของกัมพูชาโดยใช้กำลังทหาร