ตลาดหุ้นสหรัฐปิดเกือบทรงตัว หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรคลายตัว
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากความผันผวนคลี่คลายลงจากการที่สภาคองเกรส ผ่านร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณของ ทรัมป์
ร่างกฎหมายที่ผ่านโดยเสียงข้างมากจากพรรครีพับลิกันจะเพิ่มหนี้รัฐบาลอีก 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า ตามการประเมินของสำนักงานงบประมาณรัฐสภา (CBO) แม้จะตอบสนองต่อคำมั่นของทรัมป์ในช่วงหาเสียง
ก่อนหน้านี้ ตลาดถูกกดดันจากความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้น แต่ในวันพฤหัสบดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวกลับลดลง โดยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีลดลง 5.4 จุดพื้นฐาน มาอยู่ที่ 4.543% หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลกระทบของภาษีนำเข้าที่รัฐบาลทรัมป์กำหนด โดยเฉพาะต่อราคาสินค้าอุปโภคบริโภคภายในประเทศ
ดัชนีทั้งสามตัวฟื้นตัวจากการร่วงหนักที่สุดในรอบเดือนเมื่อวันก่อนหน้า หลังผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งจากความวิตกเรื่องหนี้
ดัชนีหุ้นหลักทรงตัว นักลงทุนจับตาหนี้และภาษีนำเข้า
• Dow Jones ลดลงเล็กน้อย 1.35 จุด ปิดที่ 41,859.09
• S&P 500 ขยับลง 2.60 จุด (-0.04%) ปิดที่ 5,842.01
• Nasdaq บวก 53.09 จุด (+0.28%) ปิดที่ 18,925.74
ราคาน้ำมันและทองคำปรับลด นักลงทุนกังวลอุปทานน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังมีรายงานว่า OPEC+ อาจเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสร้างความกังวลว่าอุปทานอาจสูงเกินความต้องการ
• Brent ลดลง 47 เซนต์ (-0.72%) อยู่ที่ 64.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
• WTI ลดลง 37 เซนต์ (-0.6%) อยู่ที่ 61.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาทองคำกลับตัวลง หลังจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าและนักลงทุนเทขายทำกำไรจากราคาที่ขึ้นมาแตะจุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้
• ราคาทองสปอต ลดลง 0.6% อยู่ที่ 3,295.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์


