ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงต่อ จากแนวโน้มสงครามการค้า

การกำหนดภาษีนำเข้า 25% สำหรับการนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา พร้อมด้วยภาษีศุลกากรสองเท่าสำหรับสินค้าจีน มีผลบังคับใช้ในวันอังคาร 

 

ทำให้จีนและแคนาดาประกาศตอบโต้ทันที ในขณะที่ประธานาธิบดีเม็กซิโก คลอเดีย ชีนบัม ยืนยันว่าจะตอบโต้เช่นเดียวกันด้วย

 

Nasdaq Composite ปิดตัวลงหลังจากเข้าสู่แนวต้าน จากการซื้อขายที่ขาด ๆ หาย ๆ ดัชนีปิดตัวลง 9.3% จากระดับการลดลงที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ลดลง 670.25 จุด หรือ 1.55% ปิดที่ 42,520.99 จุด

 

ส่วนดัชนี S&P 500 (.SPX) ลดง 71.57 จุด หรือ 1.22% ปิดที่ 5,778.15 จุด

 

และดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) หายไป 65.03 จุด หรือ 0.35% เป็น 18,285.16 จุด

 

ราคาน้ำมันดิ่งลงเมื่อวันอังคาร และตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือน หลังจากรายงานว่า OPEC+ วางแผนเพิ่มผลผลิตในเดือนเมษายน และข่าวการเก็บภาษีของสหรัฐฯ 

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเบรนท์ ลดลง 58 เซนต์ หรือ 0.8% อยู่ที่ 71.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

 

ราคาต่ำสุดของวันอยู่ที่ 69.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน

 

ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐ ร่วงลง 11 เซนต์ต่อบาร์เรล หรือ 0.2% อยู่ที่ 68.26 ดอลลาร์ 

 

ก่อนหน้านี้ราคาลดลงเหลือ 66.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน

 

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น 

 

ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นภายหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษีใหม่

 

ราคาทองสปอตเพิ่มขึ้น 0.6% อยู่ที่ 2,911.88 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ

 

จนถึงตอนนี้ Bullion เพิ่มขึ้นเกือบ 11% ในปีนี้และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,956.15 ดอลลาร์ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์

 

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ สูงขึ้น 0.7% ที่ 2,920.60 ดอลลาร์