ตลาดหุ้นสหรัฐร่วง หลังทรัมป์ขู่เก็บภาษีเพิ่มจากยุโรปอีก 25%
ดัชนีหุ้นสหรัฐปิดลดลง จากข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดกระทบความเชื่อมั่น ขณะหุ้นเทคโนโลยี ร่วงลงหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% จากยุโรป
ข้อมูลระบุว่ามีผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอยู่ที่ 242,000 ราย สูงกว่าประมาณการที่ 221,000 ราย
นักลงทุนมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลรายจ่ายการบริโภคส่วนบุคคลรายเดือน ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ Federal Reserve ต้องการ ซึ่งจะครบกำหนดในวันศุกร์
หุ้นของ Nvidia ซึ่งรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าที่คาดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พลิกผันไปสู่การขาดทุนเนื่องจากนักลงทุนจับสัญญาณของการใช้จ่ายด้าน AI ที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรม
ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.59% ปิดที่ 5,861.57 จุด
ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 2.78% สู่ 18,544.42 จุด ซึ่งเป็นการลดลงวันเดียวที่มากที่สุดในรอบเดือน
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 0.45% ที่ 43,239.50 จุด
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 2% ในวันพฤหัสบดี จากความกังวลด้านอุปทานกลับมาอีกครั้งหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถอนใบอนุญาตของเชฟรอน บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการในเวเนซุเอลา
นักลงทุนยังคงจับตาดูสัญญาณของข้อตกลงสันติภาพที่อาจเกิดขึ้นในยูเครน ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำมันของรัสเซียว่งออกได้มากขึ้น
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 1.51 ดอลลาร์ หรือ 2.1% อยู่ที่ 74.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.5% เป็น 70.35 ดอลลาร์
ราคาทองคำร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่าสองสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
นักลงทุนกำลังรอข้อมูลเงินเฟ้อที่อาจให้ภาพเส้นทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ
ราคาทองสปอตลดลง 1.1% อยู่ที่ 2,885.13 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ในช่วงเช้า
ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ลดลง 1.2% อยู่ที่ 2,895.9 ดอลลาร์


