posttoday

หลายสัญญาณ

28 มกราคม 2554

เมื่อวานนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ บริษัทจัดอันดับเครดิต ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือเครดิตระยะยาวของญี่ปุ่นลงจากระดับ AA มาที่ AA

เมื่อวานนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ บริษัทจัดอันดับเครดิต ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือเครดิตระยะยาวของญี่ปุ่นลงจากระดับ AA มาที่ AA

โดย...ธนพล ไชยภาษี

 เมื่อวานนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ บริษัทจัดอันดับเครดิต ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือเครดิตระยะยาวของญี่ปุ่นลงจากระดับ AA มาที่ AA

ถึงแม้จะไม่มีเสียงเตือนมาก่อน แต่ก็พอคาดเดาได้ครับ เพราะแม้ว่าความมั่นใจต่อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งพูดกันตรงๆ นั้นยังดีเยี่ยมกว่าอีกหลายชาติยุโรป แต่ญี่ปุ่นก็มีปัจจัยเสี่ยงติดลบอยู่เยอะไม่น้อยเช่นกัน

ญี่ปุ่นเป็นประเทศในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ที่มีระดับหนี้สาธารณะมากสุดในโลก มากกว่า 200% ของจีดีพี เนื่องจากญี่ปุ่นมีภาระกับการจ่ายค่าบำเหน็จบำนาญมหาศาลในแต่ละปี

คนญี่ปุ่น (รุ่นเก่า) ไม่ค่อยจะใช้เงินกันนักครับ เอาแต่เก็บๆ พอแก่ตัวลงก็เอาเงินเก็บไปใช้ที่เมืองนอกกัน เพราะถูกกว่า ส่วนค่ารักษาตัว ค่าดูแลตอนแก่ก็อาศัยเงินบำเหน็จบำนาญ

นี่คือปัญหาของญี่ปุ่นที่เรื้อรังมานาน ทำให้เกิดทั้งภาวะเงินฝืดในประเทศ และหนี้ของภาครัฐรุงรังมานาน

แต่การหั่นลดอันดับเครดิตของญี่ปุ่นในครั้งนี้ ในอีกด้านหนึ่งก็ส่งสัญญาณดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นครับ เพราะนักลงทุนจะหนีออกจากตลาดเงินญี่ปุ่น ทำให้ค่าเงินเยนหล่นฮวบลงในทันที อย่างเมื่อวานนี้พอมีข่าวดังกล่าว ค่าเงินเยนก็หล่นลงมาเกือบ 2% จากที่ 82.12 เยนต่อเหรียญสหรัฐ ไปอยู่ที่ 83.20 เยนต่อเหรียญสหรัฐทันที

ยิ่งเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่าลงเท่าไหร่ ก็จะเป็นผลดีต่อการส่งออกของญี่ปุ่นมากขึ้นเท่านั้น หากจำกันได้ เมื่อปีที่แล้วนักลงทุนหนีจากตลาดเงินเหรียญสหรัฐ หนีจากเงินยูโรมาซบเงินเยนกัน ทำให้เงินเยนแข็งโป๊ก

เอกชนญี่ปุ่นที่ต้องพึ่งพาการขายสินค้าในต่างประเทศได้เงินเป็นเงินเหรียญสหรัฐมาแลกเป็นเงินเยน (ที่แข็งโป๊ก) ก็เหลือกำไรนิดเดียว อีกทั้งหลายบริษัทรีบหนีย้ายการลงทุนออกจากญี่ปุ่นกันแทบไม่ทันเพื่อลดต้นทุนการผลิตลง

พูดง่ายๆ ก็คือ การถูกหั่นลดเครดิตของญี่ปุ่นในครั้งนี้ จะช่วยผ่อนคลายความกดดันให้กับเศรษฐกิจญี่ปุ่นโดยรวมได้ในระดับหนึ่งทีเดียว

ก็ต้องจับตากันต่อไปครับว่าในปีนี้เงินเยนจะอ่อนค่าลงไปมากขนาดไหน และแน่นอนว่าเงินเหรียญสหรัฐน่าจะเริ่มแข็งค่าขึ้นมาเรื่อยๆ เช่นกัน

การหั่นลดอันดับเครดิตญี่ปุ่นในครั้งนี้ ในอีกด้านหนึ่งยังเป็นเสียงเตือนถึงปัญหาหนี้ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะสหรัฐ

ขณะนี้สหรัฐยังถือว่าเป็นประเทศที่คงอันดับเครดิตสูงที่สุดในโลก แต่ก็มีเสียงเตือนมาหลายครั้งครับว่าสหรัฐจะต้องเร่งแก้ปัญหาหนี้ท่วมตัวให้ได้ ถ้าหากต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง

เมื่อปี 2010 ระดับหนี้สาธารณะของสหรัฐพุ่งทะลุ 13 ล้านล้านเหรียญสหรัฐไป หรือคิดเป็น 95% ของตัวเลขจีดีพี ก็ถือว่าหนักหนาสาหัสเอาการ

แต่ที่ยังไม่ถูกหั่นเครดิตลง เพราะสหรัฐมีนโยบายที่ชัดเจน และเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาหนี้ และการกระตุ้นเศรษฐกิจครับ