posttoday

"อีลอน มัสก์" ใหญ่คับสหรัฐฯ ส่อแววฮั้วจีน ปมผลประโยชน์ทับซ้อน Tesla

06 กุมภาพันธ์ 2568

วิเคราะห์บทบาท "อีลอน มัสก์" ใหญ่คับสหรัฐฯ คุมกลไกอำนาจรัฐบาล ส่อแววฮั้วจีน ปมผลประโยชน์ทับซ้อน Tesla จนหลายฝ่ายเกิดคำถามว่าแท้จริงแล้วใครกุมบังเหียนประเทศ?

ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่งเริ่มต้นการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง “อีลอน มัสก์” กลับกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมกลไกอำนาจรัฐอย่างรวดเร็ว จนเกิดคำถามว่าแท้จริงแล้วใครกุมบังเหียนประเทศ? โจนาธาน เลอเมียร์ แห่ง The Atlantic ถึงกับประกาศว่า 'อีลอน มัสก์ คือประธานาธิบดี' สะท้อนภาพปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีพลเรือนคนใดทรงอิทธิพลได้ถึงเพียงนี้"

"อีลอน มัสก์" ใหญ่คับสหรัฐฯ ส่อแววฮั้วจีน ปมผลประโยชน์ทับซ้อน Tesla

เข้าถึงระบบการเงินของรัฐบาล

สถานการณ์ดังกล่าวได้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงยิ่งขึ้น เมื่อ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังคนใหม่ ได้มอบสิทธิ์ให้ Department of Government Efficiency (DOGE) ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของมัสก์ สามารถเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีความสำคัญระดับสูง 

ระบบดังกล่าวถือเป็น 'ศูนย์กลางการจัดการการเงินของรัฐบาลกลาง' ซึ่งมีหน้าที่ดูแลการไหลเวียนของเงินจำนวนมหาศาลในแต่ละปี และตามรายงานของ Wired มัสก์ และทีมวิศวกร ซึ่งส่วนใหญ่ยังขาดประสบการณ์ในการทำงานกับภาครัฐ กำลังดำเนินการเข้าถึงระบบที่มีความสำคัญยิ่งยวดเหล่านี้ โดยมีข้อกังขาว่าพวกเขาผ่านกระบวนการตรวจสอบประวัติความปลอดภัย (security clearance) ที่เหมาะสมหรือไม่

ความกังวลด้านกฎหมายและความโปร่งใส

การกระทำของมัสก์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าอาจเป็นการบั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ โดย เดวิด ซูเปอร์ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ แสดงความเห็นว่า การกระทำหลายอย่างของมัสก์นั้น "ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน"

อย่างไรก็ตาม เดวิด ซูเปอร์ ยังชี้ให้เห็นว่า แม้มัสก์จะมีพฤติกรรมขัดต่อกฎหมาย แต่ด้วยความผิดจำนวนนับไม่ถ้วน กลยุทธ์นี้จึงเปรียบเสมือน “เกมการเมือง” ที่จงใจให้เกิดภาระเกินกำลังกับระบบยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ไม่สามารถตามล้างตามเช็ดความผิดทั้งหมดไหว

ผลประโยชน์ทับซ้อนกับจีน

ความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่แน่นแฟ้นระหว่างมัสก์กับจีน ซึ่งเป็นประเทศที่เคยมีประวัติจารกรรมข้อมูลส่วนตัวของชาวอเมริกันจำนวนมาก ทำให้เกิดความกังวลในหลายด้านนอกเหนือไปจากประเด็นทางกฎหมาย วุฒิสมาชิก รอน ไวเดน ได้แสดงความกังวลว่า ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดนี้อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติ โดยชี้ให้เห็นถึงภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการที่มัสก์สามารถเข้าถึงระบบข้อมูลสำคัญต่างๆ

“การที่มัสก์มีธุรกิจขนาดใหญ่ในจีน ประเทศที่หน่วยข่าวกรองเคยขโมยข้อมูลสำคัญของชาวอเมริกันจำนวนมหาศาล ทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และผลประโยชน์ทับซ้อน” - วุฒิสมาชิก รอน ไวเดน 

 

"อีลอน มัสก์" ใหญ่คับสหรัฐฯ ส่อแววฮั้วจีน ปมผลประโยชน์ทับซ้อน Tesla

Tesla และ "สัมปทานพิเศษ" ในจีน

Tesla ประสบความสำเร็จอย่างมากในจีน ด้วยยอดขายสูงถึง 657,000 คัน และมีโรงงานผลิตขนาดใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จนี้สามารถพูดได้เต็มปากว่า “มีวันนี้เพราะพี่ให้” เนื่องจาก Tesla ได้รับ "สิทธิพิเศษ" ที่รัฐบาลจีนมอบให้ ไม่ว่าจะเป็นการอนุญาตให้ Tesla ดำเนินกิจการได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องมีพันธมิตรทางธุรกิจในจีน, เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ, และอัตราภาษีพิเศษเพียง 15% 

อย่างไรก็ตาม สิทธิประโยชน์เหล่านี้ถือว่ามีความเปราะบางค่อนข้างมาก เพราะอาจถูกยกเลิกได้ทันทีหากรัฐบาลจีนไม่พอใจกับการกระทำของมัสก์

มัสก์พบรองประธานาธิบดีจีน

ในการพบปะกับอีลอน มัสก์ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา รองประธานาธิบดีจีน หาน เจิ้ง ได้เชิญชวนให้ Tesla และบริษัทสัญชาติอเมริกันอื่นๆ "คว้าโอกาสและร่วมเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการพัฒนาของจีน" ซึ่งมัสก์เองก็ขานรับ โดยให้คำมั่นว่าจะ "กระชับความร่วมมือด้านการลงทุนกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น”

บทบาทของมัสก์ต่อ USAID และผลกระทบต่ออิทธิพลของสหรัฐฯ

บทบาทของมัสก์ในการยุบ USAID (U.S. Agency for International Development: หน่วยงานหลักของสหรัฐฯ ในการให้ความช่วยเหลือแก่ต่างประเทศ) ยิ่งกระตุ้นความกังวลของหลายฝ่ายว่าสหรัฐฯ กำลังเปิดช่องให้จีนแผ่นดินใหญ่แผ่ขยายอิทธิพลในเวทีโลก

ไมเคิล ชิฟเฟอร์ อดีตผู้ช่วยผู้บริหาร USAID ในเอเชีย วิจารณ์ว่า "การกระทำของฝ่ายบริหารทรัมป์นั้น ทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบ และเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับศัตรูตัวฉกาจของชาติอย่างจีน 

ภัยเงียบที่ต้องจับตา

ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน การที่มัสก์ ซึ่งมีทั้งผลประโยชน์ทางธุรกิจ, ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง, ขาดความโปร่งใส และอาจไม่ผ่านการตรวจสอบประวัติอย่างถี่ถ้วน เข้ามามีส่วนร่วมในการ "ปรับเปลี่ยน" การทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ นั้น เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง 

คำถามสำคัญคือ ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนนี้จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจเชิงนโยบายของสหรัฐฯ อย่างไร? นี่คือภัยเงียบที่อาจบั่นทอนอำนาจของสหรัฐฯ ในระยะยาว และเป็นประเด็นที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

ข่าวล่าสุด

อนุทิน โพสต์เฟสบุ๊กยังปฏิบัติการณ์ทางทหารต่อ โต้ระเบิดไม่ใช่อุบัติเหตุ