posttoday

มีผู้เสียชีวิตเกือบ 40 คน จากการโจมตีแก้แค้นของสหรัฐในอิรัก เยเมนและซีเรีย

04 กุมภาพันธ์ 2567

สหรัฐฯ เปิดการโจมตีทางอากาศในเยเมน อิรักและซีเรียต่อเป้าหมายมากกว่า 85 จุดที่เกี่ยวข้องกับกองกำลังติดอาวุธที่อิหร่านอยู่เบื้องหลัง โดยมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตเกือบ 40 คน เพื่อตอบโต้การโจมตีกองทหารสหรัฐฯ จนมีผู้เสียชีวิต

การโจมตีดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลบี-1 ที่บินจากสหรัฐฯ ถือเป็นการโจมตีครั้งแรกเพื่อตอบโต้การโจมตีดังกล่าวในจอร์แดนเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วโดยกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และคาดว่าจะมีปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า 

 

นอกจากนี้ สหรัฐฯ และอังกฤษเปิดฉากโจมตีเป้าหมาย 36 แห่งในเยเมน โจมตีโรงงานจัดเก็บอาวุธ ระบบขีปนาวุธ เครื่องยิงจรวด และยุทโปกรณ์อื่นๆ ของฮูตีที่ถูกซ่อนไว้ ซึ่งใช้ในการโจมตีการขนส่งทางทะเลแดง

 

การโจมตีดังกล่าวเพิ่มอุณหภูมิความขัดแย้งที่ขยายออกไปในภูมิภาค นับตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นระหว่างอิสราเอลและฮามาส หลังจากกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์โจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค.

นัสเซอร์ คานาอานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ระบุในแถลงการณ์ว่า การโจมตีดังกล่าวแสดงให้เห็น “ความผิดพลาดเชิงกลยุทธ์อีกครั้งหนึ่งของสหรัฐฯ ที่จะส่งผลให้เกิดความตึงเครียดและความไม่มั่นคงเพิ่มมากขึ้น”

มีผู้เสียชีวิตเกือบ 40 คน จากการโจมตีแก้แค้นของสหรัฐในอิรัก เยเมนและซีเรีย

อิรักเรียกอุปทูตสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดดเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการ

“อิรักย้ำว่าตนปฏิเสธที่จะให้ดินแดนของตนเป็นเวทีสำหรับการสู้รบหรือแสดงกำลังของประเทศที่ทำสงครามกัน” กระทรวงการต่างประเทศอิรักระบุในแถลงการณ์

 

Popular Mobilization Forces ซึ่งเป็นกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลอิรัก รวมถึงกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ระบุว่า สมาชิก 16 คนถูกสังหาร รวมทั้งนักรบและหน่วยแพทย์ ก่อนหน้านี้รัฐบาลกล่าวว่ามีพลเรือนอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิต 16 คนด้วย

 

ในซีเรีย การโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 23 ราย รามี อับดุลราห์มาน ผู้อำนวยการกลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย ซึ่งรายงานเกี่ยวกับสงครามในซีเรีย กล่าว

 

แม้จะมีการโจมตีดังกล่าว เพนตากอนกล่าวว่าไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน และไม่เชื่อว่าเตหะรานต้องการทำสงครามเช่นกัน แม้ว่าพรรครีพับลิกันจะกดดันประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ให้จัดการกับการโจมตีโดยตรงก็ตาม

 

อิหร่านซึ่งสนับสนุนกลุ่มฮามาส พยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในภูมิภาค แม้ว่าจะสนับสนุนกลุ่มต่างๆ ที่เข้าร่วมการต่อสู้จากเลบานอน เยเมน อิรัก และซีเรีย ซึ่งเป็นศัตรูกับอิสราเอลและ ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

มีผู้เสียชีวิตเกือบ 40 คน จากการโจมตีแก้แค้นของสหรัฐในอิรัก เยเมนและซีเรีย

ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวหลังการโจมตีว่า “นี่คือจุดเริ่มต้นของการตอบสนองของเรา เราไม่แสวงหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางหรือที่อื่นใด แต่ประธานาธิบดีและผมจะไม่ยอมให้โจมตีกองกำลังอเมริกัน” 

 

กองทหารสหรัฐฯ ถูกโจมตีมากกว่า 160 ครั้งในอิรัก ซีเรีย และจอร์แดน ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการใช้จรวดและโดรนโจมตี ส่งผลให้สหรัฐฯ ต้องเพิ่มการโจมตีตอบโต้หลายครั้งก่อนที่จะมีการโจมตีครั้งล่าสุด

 

สหรัฐฯ ประเมินว่าโดรนที่สังหารทหาร 3 นายและบาดเจ็บอีกกว่า 40 คนในจอร์แดนนั้นฝีมือของอิหร่าน 

 

“การตอบสนองของเราเริ่มต้นในวันนี้ และจะดำเนินต่อไปตามเวลาและสถานที่ที่เราเลือก” ประธานาธิบดี โจ ไบเดนกล่าวในการแถลงข่าว

ข่าวล่าสุด

ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต “เชษฐ์ปาดัง” เลขานายกปาดังเบซาร์