posttoday

ผู้บริโภคสหรัฐฯ หวั่น พบพลาสติกปนเปื้อนในอาหารจากซูเปอร์มาร์เก็ต

05 มกราคม 2567

รายงานจาก Consumer Reports เผย พลาสติกปนเปื้อนในอาหารเป็นวงกว้าง ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ พร้อมเรีบกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลประเมินความปลอดภัยของพลาสติกที่ต้องสัมผัสกับอาหารระหว่างการผลิตอีกครั้ง

รายงานระบุว่าจากการทดสอบอาหารจากซูเปอร์มาร์เก็ตและฟาสต์ฟู้ด 85 รายการ มี 84 รายการในสหรัฐฯ ที่มีสาร "พลาสติไซเซอร์" ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้เพิ่มความอ่อนนุ่ม ยืดหยุ่น และทนทานให้กับพลาสติก นอกจากนี้ ยังพบสารบิสฟีนอลเอ (BPA) และสารบิสฟีนอลชนิดอื่นๆ ในอาหารถึง 79% ของตัวอย่าง แม้ว่าปริมาณจะลดลงจากการทดสอบในปี 2009

แม้ปริมาณสารที่พบไม่ได้เกินค่ามาตรฐานที่หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐอเมริกาและยุโรปตั้งไว้ แต่ Consumer Reports ชี้แจงว่า ยังอยู่ในเกณฑ์น่ากังวล เพราะนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าสารชนิดดังกล่าวต้องอยู่ในปริมาณเท่าใดจึงจะปลอดภัยต่อสุขภาพ

สารพลาสติไซเซอร์และสาร BPA เป็นสารเคมีที่พบได้ทั่วไปในพลาสติก ซึ่งสามารถส่งผลต่อระบบควบคุมฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนอื่นๆ และอาจส่งผลให้ความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง เบาหวาน ภาวะมีบุตรยาก พัฒนาการทางระบบประสาท โรคอ้วน และปัญหาสุขภาพอื่นๆ

จากการทดสอบอาหารจากซูเปอร์มาร์เก็ต 85 รายการ พบว่า ราวิโอลี่ชีส ของ Annie's Organic มีปริมาณสารพลาสติไซเซอร์มากที่สุดที่ 53,579 นาโนกรัม ถีดมาคือลูกพีชหั่นของ Del Monte และพิงค์แซลมอนของ Chicken of the Sea

รายงานยังพบความแตกต่างของระดับสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกัน เช่น นักเก็ตไก่ทอดกรอบของ Wendy's  มีปริมาณสาร "พลาสติไซเซอร์" สูงกว่านักเก็ตไก่ของ McDonald's ถึง 4 เท่า 

ผลการทดสอบยังพบว่า น้ำอัดลมรสราสเบอร์รี่มะนาวของ Polar เป็นผลิตภัณฑ์เดียวที่ไม่พบการปนเปื้อนของสารพลาสติไซเซอร์

แม้การพบสารพลาสติไซเซอร์ในอาหารหลายชนิดชี้ให้เห็นถึงความแพร่กระจายอย่างกว้างขวางของสารชนิดนี้ แต่ผลการตรวจสอบยังพบว่า อาหารบางประเภทมีปริมาณสารที่ต่ำกว่ามาก ซึ่งหมายความว่ามีวิธีการลดปริมาณสารดังกล่าวในอาหารได้

ทั้งนี้ Consumer Reports ย้ำว่า การประเมินโดยองค์การอาหารและยา (FDA) และหน่วยงานอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ยังมีความล้าหลัง ซึ่งจำเป็นต้องทำการประเมินใหม่อีกครั้ง