posttoday

ชาวจีนเถียงกันอย่างดุเดือด ตรุษจีนปี2024นี้ “ห้ามจุดดอกไม้ไฟ”

31 ธันวาคม 2566

ชาวจีนร่วมอภิปรายออนไลน์อย่างดุเดือดว่า ควรใช้ดอกไม้ไฟเพื่อเฉลิมฉลองวันตรุษจีนในเดือนกุมภาพันธ์หรือไม่ พวกเขากล่าวว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะสั่งห้ามดอกไม้ไฟโดยเด็ดขาดในประเทศที่เป็นผู้ประดิษฐ์ดอกไม้ไฟ

ฝ่ายนิติบัญญัติออกความเห็นว่า ควรมีเกณฑ์การห้ามจุดดอกไม้ไฟเพื่อความปลอดภัยจากเหตุไฟไหม้และเพื่อไม่ให้เกิดมลพิษทางอากาศ แต่ประชาชนบางส่วนยังเกิดความไม่เข้าใจเกี่ยวกับการออกกฎที่ไม่ชัดเจนของการห้ามแสดงดอกไม้ไฟนี้

 

ในปี 2560 พบว่าเมือง 444 แห่งมีกฎหมายควบคุมดอกไม้ไฟ แต่หลังจากนั้นในบางเมืองก็มีการลดหย่อนกฎเกณฑ์ลงบ้าง ทำให้บางเมืองก็มีการอนุญาตให้จัดแสดงดอกไม้ไฟได้ในช่วงตรุษจีน

 

แต่ในเดือนนี้ หลายเทศมณฑลติดป้ายบอกว่าไม่อนุญาตให้จุดพลุ จึงเป็นเหตุให้มีการนำเรื่องนี้ขึ้นมาอภิปรายกันอีกครั้ง

 

หลายแอคเคาท์ในบล็อกชื่อดังของจีนอย่าง Weibo ได้โพสต์ว่า "เรามีสิทธิ์ที่จะได้ดูดอกไม้ไฟนะ"

ตามตำนานของจีน ดอกไม้ไฟครั้งแรกถูกสร้างขึ้นเมื่อ 2,000 ปีก่อนเพื่อไล่ "เหนียน" สัตว์ประหลาดที่ไล่กินคนและสัตว์ในคืนก่อนวันตรุษจีนหรือเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ

 

หลังจากนั้น ดอกไม้ไฟก็ถูกนำมาใช้เพื่อเพลิดเพลินกับกิจกรรมอื่นๆด้วย ตัวอย่างเช่น ในเดือนมกราคม หลังจากประกาศข้อจำกัดเกี่ยวกับโรคโควิด-19 เป็นเวลา 3 ปี บางคนก็ฝ่าฝืนกฎและจุดพลุดอกไม้ไฟ

 

แต่ชาวจีนบางคนกล่าวว่าการห้ามแสดงดอกไม้ไฟมีความจำเป็นเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

 

“ควรได้รับการควบคุมเนื่องจากมลภาวะและความเสี่ยงจากไฟไหม้” ผู้ใช้ Weibo รายหนึ่งกล่าว

 Beijing Youth Daily ได้ทำการสำรวจออนไลน์ และผู้คนมากกว่า 80% กล่าวว่าพวกเขาคิดว่าควรอนุญาตให้จุดพลุดอกไม้ไฟในช่วงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นวันหยุดที่สำคัญที่สุดในจีน

 

บางคนยังคิดว่ามันตลกดีที่คำสั่งห้ามเกิดขึ้นหลังจากที่สหประชาชาติกำหนดให้เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ(Spring Festival หรือวันตรุษจีน)เป็นวันหยุดราชการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งชาวจีนก็ต่างยินดี

 

“เทศกาลตรุษจีนมีไว้สำหรับทุกคนบนโลก แต่สำหรับชาวจีนมันใกล้จะจบลงแล้ว” แอคเคาท์บน Weibo กล่าว

 

ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน การส่งออกดอกไม้ไฟในมณฑลหูหนานทางตอนใต้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ มีมูลค่าถึง 4.11 พันล้านหยวน (579 ล้านดอลลาร์) ซึ่งมากกว่ายอดขายภายในประเทศอย่างมาก