ดูไบแอร์โชว์จะแสดงความต้องการเครื่องบินภายใต้สถานการณ์ในตะวันออกกลาง

โดยทั่วไปแล้ว Dubai Airshow ที่จัดขึ้นทุกๆ สองปีจะเป็นเครื่องวัดสำหรับอุตสาหกรรมการบิน และในอดีตได้ก่อให้เกิดข้อตกลงทางการค้ามากมายสำหรับผู้ผลิตเครื่องบินแอร์บัส และโบอิ้ง นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสในการตรวจอารมณ์ของผู้ซื้ออาวุธอีกด้วย

นักวิเคราะห์กล่าวว่าสงครามในฉนวนกาซามีแนวโน้มที่จะเสริมความต้องการอาวุธ หลังจากที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่สหรัฐฯ และพันธมิตรติดอาวุธยูเครนเพื่อต่อต้านรัสเซีย

วอชิงตันให้คำมั่นว่าจะจัดหาอาวุธที่จำเป็นแก่อิสราเอลในการต่อสู้กับกลุ่มฮามาส ซึ่งทางการอิสราเอลกล่าวว่าสังหารผู้คนไป 1,400 รายเมื่อบุกโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. การโจมตีตอบโต้ของอิสราเอลต่อฉนวนกาซาได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 11,000 ราย ตามการระบุของหน่วยงานสาธารณสุขใน พื้นที่ที่ถูกปิดล้อม

แต่ Byron Callan จาก Capital Alpha Partners กล่าวว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจส่งผลกระทบที่ไม่เป็นบวกต่อข้อตกลงด้านอาวุธในตะวันออกกลาง โดยข้อตกลงเร่งด่วนบางประการมีแนวโน้มที่จะปิดลงในระหว่างการแสดง

“ธุรกิจสามารถทำสำเร็จได้มากเพียงใดในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ อาจจะไม่มากนัก” เขากล่าว

ถึงกระนั้นก็ตาม ข้อตกลงอุตสาหกรรมหรือบันทึกความร่วมมือใหม่ๆ อาจช่วยให้เห็นภาพรวมของบรรยากาศทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นภายหลังความขัดแย้ง 

ผู้จัดงานกล่าวว่าพวกเขาคาดหวังว่าจะมีบริษัทมากกว่า 1,400 แห่งจาก 95 ประเทศ รวมถึงสี่แห่งที่จดทะเบียนในอิสราเอลเข้าร่วมงาน

การสู้รบในอิสราเอลได้ขัดขวางการเดินทางของสายการบินเชิงพาณิชย์บางราย โดยสายการบินต่างๆ ระงับเที่ยวบินไปยังอิสราเอล ซึ่งสนามบินตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากกลุ่มฮามาส และการท่องเที่ยวก็พังทลายลง

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตะวันออกกลางเตือนถึงความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมในภูมิภาค นักเดินทางจึงยกเลิกหรือเลื่อนวันหยุดพักผ่อนตามแผนไปยังตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือในช่วงนี้ด้วย

งานในวันที่ 13-17 พฤศจิกายน "จะเป็นงานแสดงที่น่าสนใจจริงๆ จากมุมมองทางภูมิรัฐศาสตร์" Richard Aboulafia จาก AeroDynamic Advisories กล่าว

คาดว่าสงครามในอิสราเอลจะไม่กระทบคำสั่งซื้อที่วางแผนไว้ยาวนาน แต่สายการบินในพื้นที่ ที่ต้องการเพิ่มการเดินทางทางอากาศแบบทวีคูณ เช่น ซาอุดีอาระเบีย อาจเผชิญกับคำถามว่าความขัดแย้งดังกล่าวทำให้แผนการเติบโตในอนาคตลดลงหรือไม่ 

อาเดล อัล เรดฮา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของสายการบินเอมิเรตส์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าอุปสงค์จากตลาดในบางส่วนของเอเชีย "ได้รับผลกระทบเล็กน้อย" จากสงครามครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 แล้ว

อย่างไรก็ตาม งานแสดงสินค้านี้คาดว่าจะได้รับคำสั่งซื้อที่เน้นย้ำถึงความต้องการเครื่องบินเจ็ตระยะไกลที่ฟื้นตัว โดยเอมิเรตส์จะเพิ่มขนาดเครื่องบิน Airbus A350, Boeing 787 หรือ Boeing 777X มากขึ้น

คำถามหลักอยู่ที่ความสามารถของผู้ผลิตในการเอาชนะปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานหรือการรับรองเพื่อส่งมอบรุ่นล่าสุดไปยังภูมิภาค โดยเฉพาะรุ่น 777X

คำสั่งซื้อใหม่ของเอมิเรตส์ที่คาดหวังกันอย่างกว้างขวางจะช่วยส่งเสริมเครื่องบิน 777X ซึ่งล่าช้าไปห้าปีแล้ว