posttoday

มาเลเซียยกเลิกแผนออกกฎหมายมลพิษทางอากาศข้ามพรมแดน

08 พฤศจิกายน 2566

กระทรวงสิ่งแวดล้อมของมาเลเซียระบุว่า ได้ล้มแผนร่างกฎหมายที่มุ่งหยุดยั้งมลพิษทางอากาศข้ามพรมแดน โดยอ้างถึงความยากลำบากในการหาข้อมูลเพื่อดำเนินคดี

เกือบทุกฤดูแล้ง ควันจากเพลิงไหม้เพื่อแผ้วถางพื้นที่สำหรับปลูกน้ำมันปาล์มและสวนป่าเพื่อผลิตเยื่อกระดาษในอินโดนีเซีย จะปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของภูมิภาค นำไปสู่ความกังวลต่อสุขภาพของประชาชน เช่นเดียวกับการหยุดชะงักของธุรกิจการเดินทางและการท่องเที่ยว

กลุ่มสิ่งแวดล้อมกล่าวว่าประเทศต่างๆ ควรใช้กฎหมายเพื่อติดตามบริษัทผู้ปลูกในต่างประเทศที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้รับผิดชอบต่อมลพิษ

สิงคโปร์ผ่านกฎหมายดังกล่าวในปี 2014 โดยมีเป้าหมายที่จะลงโทษผู้ที่ก่อให้เกิดหมอกควันทั้งทางอาญาและทางแพ่ง แต่กระทรวงสิ่งแวดล้อมของมาเลเซียระบุในการตอบเป็นลายลักษณ์อักษรต่อรัฐสภาเมื่อวันจันทร์ว่า จะไม่ดำเนินการตามกฎหมายดังกล่าว โดยอ้างถึงความยากลำบากในการบังคับใช้กฎหมาย

“เพื่อให้สามารถบังคับใช้ร่างกฎหมายมลพิษหมอกควันข้ามพรมแดนได้ หลักฐานที่ชัดเจนว่าหมอกควันข้ามแดนมีต้นกำเนิดจากประเทศเพื่อนบ้าน จะต้องได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลที่เพียงพอ เช่น แผนที่ตำแหน่ง พิกัด ข้อมูลเจ้าของที่ดิน และบริษัทที่ดำเนินงานในสถานที่ที่เกิดเพลิงไหม้” 

กระทรวงฯ ระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องยากที่จะเข้าถึงได้ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับเรื่องการรักษาความลับ ความมั่นคง และอธิปไตยของชาติ โดยชี้ว่าแนวทางทางการทูตผ่านการเจรจาเป็นแนวทางที่ดีกว่าในการ แก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามพรมแดนร่วมกัน

อินโดนีเซียเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเพื่อนบ้านและกลุ่มสิ่งแวดล้อมอยู่เป็นประจำ จากการล้มเหลวในการดับไฟป่า แม้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินการอย่างจริงจัง แต่มลพิษก็จะกลับมาเกือบทุกฤดูแล้ง

เมื่อเดือนที่แล้ว มาเลเซียเรียกร้องให้อินโดนีเซียหยุดไฟป่าอีกครั้ง และยังได้เรียกร้องให้สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งทั้งสองประเทศเป็นสมาชิกอยู่ จัดการเรื่องนี้ด้วย

กลุ่มสิ่งแวดล้อมกรีนพีซได้รณรงค์ให้มีกฎหมายหมอกควันข้ามพรมแดน โดยระบุว่ากฎหมายเหล่านี้มีความสำคัญในการป้องปราม และสามารถช่วยตัดสินได้ว่าบริษัทใดเป็นผู้จุดไฟ

เฮง เคียห์ ชุน นักยุทธศาสตร์รณรงค์ระดับภูมิภาคของกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวในแถลงการณ์ว่า

“จากประสบการณ์ของสิงคโปร์ แม้ยังไม่มีใครถูกปรับหรือถูกฟ้องร้อง แต่ไม่ได้หมายความว่าพระราชบัญญัติหมอกควันข้ามพรมแดนไม่ได้ผล เนื่องจากบริษัทบางแห่งถูกสอบสวนภายใต้พระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับไฟป่า”