ทะเลสาบติติกากาในอเมริกาใต้ใกล้ระดับน้ำต่ำเป็นประวัติการณ์จากเอลนีโญ

Milagros Quispe วิศวกรจากหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาแห่งชาติของเปรู กล่าวว่า น้ำในทะเลสาบน้ำจืดที่แผ่กิ่งก้านสาขาในเทือกเขาแอนดีสลดลงเฉลี่ย 10 ซม. ต่อเดือนตั้งแต่เดือนเมษายน

สภาพความแห้งแล้งที่รุนแรงและอุณหภูมิสูงผิดปกติส่งผลให้แนวชายฝั่งที่ติติกากา ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้และเป็นแหล่งน้ำที่สามารถเดินเรือได้สูงที่สุดในโลก ขณะนี้ระดับน้ำอยู่สูงกว่าระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปี พ.ศ. 2486 ประมาณ 13 นิ้ว (33 ซม.)

Quispe กล่าวว่าความแห้งแล้งและความร้อนจัดเป็นสองเท่าทำให้เกิดการระเหยของน้ำที่สูงกว่าปกติ ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ระดับน้ำในทะเลสาบลดลง 29 นิ้ว (74 ซม.) ตามข้อมูลของ Senamhi

ปริมาณน้ำฝนที่จำกัดในพื้นที่ภูเขาไม่เพียงพอที่จะรักษาแนวชายฝั่งของทะเลสาบให้คงที่ Quispe กล่าวเสริม

เอลนิโญทำให้เกิดฝนตกหนักตามแนวชายฝั่งแปซิฟิกของเปรู แต่ทำให้เกิดความแห้งแล้งในพื้นที่สูง

เมื่อเดือนที่แล้ว สำนักงานศึกษาสภาพภูมิอากาศของเปรูเพิ่มความน่าจะเป็นที่ปรากฏการณ์เอลนิโญจะรุนแรงขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนซึ่งมีความรุนแรงเพียงปานกลางเท่านั้น

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเป็นสองเท่าจากผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนิโญทางธรรมชาติ ซึ่งได้แก่ ความร้อนที่สะสมอยู่สูงกว่าปกติ หรือปริมาณน้ำฝนที่มากเกินไป

นั่นรวมถึงติติกากาด้วย “แอ่งน้ำและระบบนิเวศของทะเลสาบได้รับผลกระทบอันเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน” Quispe กล่าว