posttoday

จุฬาค้นพบประโยชน์ใหม่ของขมิ้น รักษากรดไหลย้อนได้ไม่แพ้ยาปฏิชีวนะ

05 ตุลาคม 2566

ขมิ้น อีกหนึ่งสมุนไพรพื้นฐานที่มีการใช้งานแพร่หลายทั่วไป ได้รับความนิยมในฐานะผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เสริมความงาม ไปจนรักษาโรคนานาชนิด ถือเป็นยาสารพัดประโยชน์ในทุกแขนง ล่าสุดคุณค่าของมันจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อมีการใช้ขมิ้นรักษากรดไหลย้อน

เชื่อว่าทุกท่านต้องรู้จัก ขมิ้น หรือ ขมิ้นชัน กันไม่มากก็น้อย กับสมุนไพรสามัญประจำบ้านที่มีการใช้งานอยู่ทั่วไปสามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ได้รับความนิยมแพร่หลายโดยเฉพาะใช้ในการประกอบอาหาร ถือเป็นเครื่องเทศอีกชนิดที่ขาดไม่ได้จากอาหารจานโปรดของใครหลายคน

 

          อีกหนึ่งรูปแบบที่ได้รับความนิยมคือการใช้งานในทางยา ขมิ้นถือเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณครอบจักรวาลใช้ในการรักษาโรคหลากชนิด ตั้งแต่แก้ไอ, แก้ไข้, แก้หวัด, แก้อักเสบ, แก้ท้องอืด ฯลฯ อีกทั้งยังได้รับการใช้งานในฐานะสมุนไพรเสริมความงามไปจนเครื่องสำอางหลากหลายชนิดอีกด้วย

 

          ล่าสุดเริ่มมีการค้นพบว่าขมิ้นที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน อาจสามารถใช้ในการรักษาโรคกรดไหลย้อนได้อีกด้วย

 

จุฬาค้นพบประโยชน์ใหม่ของขมิ้น รักษากรดไหลย้อนได้ไม่แพ้ยาปฏิชีวนะ

 

ข้อโต้แย้งของขมิ้นกับกรดไหลย้อน

 

          กรดไหลย้อนถือเป็นหนึ่งในโรคน่าปวดหัวสำหรับหลายท่านที่ยังประสบความทรมานจนตอนนี้ กับอาการจุกเสียด, แน่นท้อง, ปวดแสบปวดร้อนบริเวณอก, คลื่นไส้ ไปจนอาหารไม่ย่อย ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่น้ำย่อยไหลจากกระเพาะขึ้นมาถึงหลอดอาหาร นำไปสู่อาการระคายเคืองและอักเสบที่รู้สึกกัน

 

          ส่วนขมิ้นเป็นพืชสมุนไพรสารพัดประโยชน์ที่ถูกนำมาใช้ในการรักษาหลายรูปแบบ ตั้งแต่บำรุงผิวพรรณ, รักษาโรคผิวหนัง, ลดอาการคัน, แก้ไข้, แก้หวัด, แก้วิงเวียน, ขับลม, ขับของเสีย, แก้ท้องอืด, ท้องเฟ้อ, แก้อักเสบ, ขจัดสารพิษ, ลดคอเรสเตอรอล, ลดความดัน ฯลฯ

 

          คุณสมบัติที่เราจะหยิบมาพูดในส่วนนี้คือ ลดอาการจุกเสียด แน่นท้อง ลดการอักเสบ และรักษาแผลในกระเพาะ ทั้งหมดล้วนเป็นต้นตอของอาการกรดไหลย้อน จึงเกิดสมมติฐานว่าหากใช้ขมิ้นเป็นส่วนประกอบตัวยาในการรักษา ก็น่าจะช่วยให้อาการกรดไหลย้อนหายขาดได้เช่นกัน

 

          อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาข้อสันนิฐานนี้ไม่ได้การยอมรับมากนัก จากข้อโต้แย้งว่าอาการกรดไหลย้อนสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งการรับประทานอาหารและพักผ่อนไม่เป็นเวลา, เกิดความผิดปกติต่อน้ำย่อย, กระเพาะอาหารบีบตัวผิดปกติ ไปจนหูรูดเสื่อมสภาพตามช่วงวัย ล้วนเป็นสาเหตุได้ทั้งสิ้น

 

          อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ไม่ได้รับการยอมรับในการรักษากรดไหลย้อนคือ ยังไม่มีข้อมูลงานวิจัยศึกษาคุณสมบัติส่วนนี้ของขมิ้นมากเพียงพอ ไม่มีการทดสอบทางคลินิกมายืนยัน ปัจจุบันขมิ้นจึงยังไม่ถูกนับเป็นยารักษากรดไหลย้อน แม้แต่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เองก็ยังยืนยันว่าขมิ้นมีไว้ใช้รักษาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และจุกเสียดเท่านั้น

 

          แต่ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเมื่อล่าสุดมีผลการทดสอบทางคลินิกจาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

 

จุฬาค้นพบประโยชน์ใหม่ของขมิ้น รักษากรดไหลย้อนได้ไม่แพ้ยาปฏิชีวนะ

 

การพิสูจน์ประสิทธิภาพของขมิ้นต่อกรดไหลย้อน

 

          อันที่จริงความพยายามในการพิสูจน์คุณสมบัติรักษากรดไหลย้อนของขมิ้นไม่ได้เกิดเป็นครั้งแรก ปี 2019 ได้มีการพิสูจน์ว่าสารประกอบ Curcumin ในขมิ้น มีกลไกช่วยในการป้องกันหลอดอาหารซึ่งส่งผลต่อการควบคุมกรดในกระเพาะ ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับยา Lansoprazole ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการหลั่งกรด

 

          อย่างไรก็ตามขมิ้นก็ไม่เป็นที่ยอมรับในฐานะยารักษาโรคกรดไหลย้อน ด้วยที่ผ่านมางานวิจัยและการทดลองไม่ประสบความสำเร็จนัก จนกระทั่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเริ่มทดลองแบบปิดในกลุ่มควบคุมในช่วงปี 2019 – 2021 เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพในการรักษาของขมิ้น

 

          ในการทดลองทางคลินิกล่าสุดพวกเขาได้ทดสอบกับกลุ่มผู้ป่วย 206 ราย โดยใช้สารสกัด  Curcumin และ Omeprazole ตัวยาที่ใช้ในการรักษาอาการกรดไหลย้อนทั่วไป โดยการแบ่งกลุ่มทดลองออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกได้รับ Curcumin, กลุ่มสองได้รับ Omeprazole และยาทั้งสองชนิดผสมกัน

 

          ผลปรากฏว่ากลุ่มที่ได้รับสาร Curcumin มีแนวโน้มทิศทางอาการที่ดีขึ้นเทียบเท่ากับกลุ่มที่ใช้ยา Omeprazole หลังผ่านการทดสอบไป 56 วัน แม้ระดับอาการปวดแสบปวดร้อนจะไม่แตกต่างกันนัก แต่อาการคลื่นไส้, จุกเสียด, แน่นท้อง และอาหารไม่ย่อยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้ป่วยในกลุ่มนี้มีอาการทุเลาลงกว่าการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเห็นได้ชัด

 

          ข้อดีสำคัญของกลุ่มผู้ป่วยที่ใช้ขมิ้นในการรักษากรดไหลย้อนคือ ท้องเสีย, ท้องผูก, คลื่นไส้, อ่อนเพลีย, วิงเวียน และเมื่อใช้เป็นเวลานานอาจทำให้ความเป็นกรดในกระเพาะลดลง นำไปสู่การติดเชื้อบางชนิดทั้งในทางเดินอาหารและทางเดินหายใจได้ง่าย อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการกระดูกเปราะ โรคหลอดเลือดสมอง  และสมองเสื่อมอีกด้วย

 

          ในอนาคตนี่จึงอาจเป็นยารักษาโรคกรดไหลย้อนตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและให้ผลข้างเคียงน้อยกว่ายาปฏิชีวนะ

 

 

 

 

 

          อย่างไรก็ตามสำหรับท่านที่ประสบปัญหากรดไหลย้อน อย่าเพิ่งเข้าใจว่านี่คือข้อสรุปใหม่ที่ช่วยยืนยันว่าขมิ้นใช้ในการรักษากรดไหลย้อนได้ เพราะในกลุ่มทดลองแม้ไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง แต่ผู้ป่วยบางรายเมื่อใช้สารสกัดจากขมิ้นเป็นเวลานานกลับพบบาดแผลบริเวณตับ แม้ไม่ใช่สถิติข้อมูลที่น่ากังวลแต่ก็จำเป็นต้องได้รับการศึกษาให้แน่ชัดต่อไป

 

          ส่วนการใช้ขมิ้นในการรักษากรดไหลย้อนเป็นทางการ อาจต้องรอรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมมากกว่านี้อีกสักหน่อย

 

 

          ที่มา

 

          https://www.pobpad.com/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99

 

          https://www.poonrada.com/sickness/detail/486

 

          https://newatlas.com/medical/turmeric-acid-reflux/

 

          https://newatlas.com/medical/acid-reflux-medicine-dementia/

 

          https://www.opsmoac.go.th/surin-local_wisdom-preview-422891791843

 

          https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/qa_full.php?id=788