posttoday

เปิดตัวแท็กซี่ไร้คนขับเต็มรูปแบบและปัญหาที่เกิดขึ้น

12 กันยายน 2566

รถยนต์ไร้คนขับเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพูดถึงมาพักใหญ่ ล่าสุดพวกเขาได้รับอนุญาตให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ดูท่าความสำเร็จนี้คงไม่ง่ายนัก เมื่อมีรายงานอุบัติเหตุมากมายจนนำไปสู่การตั้งคำถามต่อ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ

การพัฒนาของรถยนต์ไร้คนขับได้รับการพูดถึงอย่างต่อเนื่อง หลายภาคส่วนเร่งพัฒนาทั้งตัวรถและระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเพื่อรองรับการใช้งาน จากการผลักดันของหลายภาคส่วนตั้งแต่สตาร์ทอัพไปจนบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ สู่ความพยายามในการจัดตั้งบริการ แท็กซี่ไร้คนขับ

 

          ตามที่กล่าวไปความพยายามในให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับเกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป หรือจีน ล้วนเปิดให้ทดลองใช้บริการฟรีเพื่อเก็บข้อมูล จนล่าสุดก็เริ่มมีบริษัทที่ได้รับอนุญาตสำหรับให้บริการเชิงพาณิชย์ สู่บริการขนส่งที่พร้อมจัดเก็บค่าโดยสารจากผู้ใช้บริการในที่สุด

 

          วันนี้เราจึงพาไปดูกันว่าผู้ให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับอยู่ที่ใดและเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ

 

เปิดตัวแท็กซี่ไร้คนขับเต็มรูปแบบและปัญหาที่เกิดขึ้น

 

ครั้งแรกในโลกสู่บริการแท็กซี่ไร้คนขับเต็มรูปแบบ

 

          บริษัทที่ประสบความสำเร็จในการขอเปิดให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับเชิงพาณิชย์คือ Cruise ค่ายลูกของบริษัทรถยนต์ GM และ Waymo สตาร์พอัพจาก Google หลังได้รับอนุญาตจากองค์กรส่วนท้องถิ่น ให้สามารถนำรถแท็กซี่ไร้คนขับออกวิ่งเรียกเก็บเงินค่าโดยสารทั่วเมืองซานฟราซิสโกได้ตลอดเวลา

 

          ที่ผ่านมาการให้บริการแท็กซี่ไร้คนขับได้รับอนุญาตในเวลาและพื้นที่จำกัด อีกทั้งยังต้องมีคนขับไว้สำหรับควบคุมเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน และอนุญาตให้สามารถเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บริการได้เพียงบางส่วน นี่จึงถือเป็นการได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการรับส่งผู้โดยสารเชิงพาณิชย์ของระบบรถยนต์ไร้คนขับครั้งแรกในโลก

 

          นี่ถือเป็นก้าวสำคัญในการคิดค้นและพัฒนาระบบรถยนต์ไร้คนขับทั่วโลก เป็นการนำเสนอทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้โดยสารที่ต้องการใช้บริการแท็กซี่ในตลาด ด้วยจุดเด่นในด้านความสะดวกในการเข้าถึงในทุกพื้นที่ ทางบริษัทเชื่อว่าพวกเขามีศักยภาพในการแข่งขันกับระบบขนส่งดั้งเดิมเหลือเฟือ

 

          ปัจจุบันแท็กซี่ไร้คนขับของ Waymo สามารถทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ราว 104 กิโลเมตร/ชั่วโมง แม้ในสภาพอากาศเลวร้าย ในขณะที่ Cruise จำกัดความเร็วไว้อยู่ที่ 56 กิโลเมตร/ชั่วโมง และไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานหากสภาพอากาศไม่เป็นใจ โดยปัจจุบันทั้งสองบริษัทมีแท็กซี่ไร้คนขับพร้อมให้บริการรวมกันอยู่ราว 500 คัน

 

          อย่างไรก็ตามข้อกังวลในด้านความปลอดภัยยังคงไม่หมดไป แม้จะได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลโดยตรง แต่ทั้งภาคประชาชนยังคงแคลงใจ เช่นเดียวกับหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต่างแสดงความไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจในครั้งนี้

 

          ข้อโต้แย้งนี้ทำให้เราต้องย้อนกลับมาตั้งคำถามเช่นกันว่า ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติพร้อมแค่ไหนในการใช้งานจริง?

 

เปิดตัวแท็กซี่ไร้คนขับเต็มรูปแบบและปัญหาที่เกิดขึ้น

 

ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ

 

          อันที่จริงปัญหาอุบัติเหตุจากรถยนต์ไร้คนขับเกิดขึ้นตลอด สำหรับแท็กซี่ไร้คนขับมีรายงานการเกิดอุบัติเหตุมากมาย ข้อมูลจากหน่วยงานจราจรส่วนท้องถิ่นพบว่า ในปี 2023 มีรายงานอุบัติเหตุจากแท็กซี่ไร้คนขับมากถึง 240 ครั้ง ตั้งแต่ตั้งแต่การเปิดไฟเลี้ยวผิดด้าน, หยุดรถกะทันหันเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ, กีดขวางการจราจร, กีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัย ฯลฯ

 

          อีกหนึ่งข้อจำกัดสำคัญของรถยนต์ไร้คนขับคือ การไม่สามารถตอบสนองได้กับเหตุการณ์และพื้นที่ฉุกเฉิน โดยเฉพาะการไม่รับรู้ถึงการกั้นพื้นที่ต่างๆ มีรายงานว่าแท็กซี่ไร้คนขับขัดขวางการติดต่อ กันพื้นที่ และรุกล้ำเข้ามาในเขตอุบัติเหตุหลายครั้ง รวมถึงเคยเกือบพลาดชนกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและดับเพลิงแสดงความเห็นค้านกับการอนุญาตนี้

 

          จากข้อทักท้วงในด้านความปลอดภัยและการทำงานของระบบรถยนต์ไร้คนขับนี่เอง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดินทาง รวมถึงป้องกันการเข้าไปในพื้นที่ล่อแหลมซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรมได้ง่าย ทั้งสองบริษัทจึงกำหนดขอบเขตพื้นที่และระยะเวลาให้บริการในวงจำกัดเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบมากเกินไป

 

          ความกังวลดังกล่าวที่สุดก็เกิดขึ้นจริง เมื่อคืนวันที่ 18 สิงหาคม 2023 แท็กซี่ไร้คนขับของ Cruise จอดออกันอยู่บนท้องถนนแห่งหนึ่งภายในเมือง รถยนต์ไร้คนขับพากันหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว ส่งผลให้เกิดการจราจรในเส้นทางนั้นติดขัดเป็นเวลายาวนานกว่า 15 นาที

 

          ไม่มีแถลงการณ์ชี้แจงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นจากทางบริษัท แต่คาดว่าอาการเหล่านี้เกิดจากปัญหาขัดข้องของระบบสัญญาณโทรศัพท์มือถือ จากการจัดเทศกาลดนตรีในบริเวณใกล้เคียงกันส่งผลให้มีการใช้สัญญาณมือถือปริมาณมาก นำไปสู่ความล่าช้าของสัญญาณ ส่งผลกระทบต่อระบบแผนที่และการนำทาง จนน่าจะเป็นสาเหตุของเรื่องดังกล่าว

 

          อีกทั้งในวันที่ 17 สิงหาคม มีรายงานว่าแท็กซี่ไร้คนขับของ Cruise ไม่ทันระวังรถพยาบาลที่กำลังนำส่งผู้ป่วย จนเกิดอุบัติเหตุทำให้ผู้โดยสารที่อยู่ภายในแท็กซี่ได้รับบาดเจ็บและต้องนำส่งโรงพยาบาล เช่นเดียวกับการชนเข้ากับรถยนต์อีกคันภายในคืนเดียวกัน นำไปสู่การตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของรถยนต์ไร้คนขับอีกครั้ง

 

          ล่าสุดจึงเริ่มมีการเกิดข้อทักท้วงจากกรมยานยนต์ให้ Cruise ลดจำนวนให้บริการของรถยนต์ไร้คนขับลง 50% และยังจำกัดจำนวนรถแท็กซี่ไร้คนขับที่ให้บริการเหลือเพียง 50 คัน ในช่วงเวลากลางวัน และ 150 คันในช่วงเวลากลางคืน ระหว่างการสอบสวนความเสี่ยงที่มีต่อสาธารณะ ที่อาจพิจารณาใบอนุญาตที่ทำการมอบให้ต่อไป

 

 

          ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างรถฉุกเฉินกับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติไม่ใช่ของใหม่ และดูจะไม่ใช่เรื่องที่แก้ไขได้ในเร็ววัน อีกทั้งยังมีปัญหาอีกหลายด้าน ทั้งการเชื่อมต่อกับระบบนำทาง, ข้อบกพร่องภายในเซ็นเซอร์ LIDAR เอง หรือการขัดข้องรูปแบบต่างๆ ที่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงอีกมากกว่าแท็กซี่ไร้คนขับจะพร้อมใช้งานทั่วไป

 

          ที่เหลือเราคงต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบและปรับปรุงแก้ไขรูปแบบใดขึ้นมารองรับ

 

 

 

          ที่มา

 

          https://interestingengineering.com/transportation/driverless-cars-can-now-operate-24-7-in-san-francisco

 

          https://www.cnbc.com/2023/08/14/cruise-traffic-jam-after-california-approves-24-7-robotaxi-service.html

 

 

ข่าวล่าสุด

‘ชาติพัฒนา’ มีมติไม่ส่งผู้สมัคร สส. ชี้หลายปัจจัยไม่เอื้อพรรคเล็ก