การประชุมสุดยอด ASEAN กร่อย เสียงแตกเรื่องเมียนมา ไร้เงาไบเดน
การประชุม ASEAN ที่นำโดยอินโดนีเซีย ส่อเค้าวุ่น เหตุปัญหาความแตกแยกในภูมิภาค ขณะที่ไบเดนแจง ไม่เข้าร่วมการประชุม
การประชุมสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) จะจัดขึ้นในวันอังคาร ณ กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ภายใต้การรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ระบุว่าจะไม่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว เนื่องจากต้องเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ในอินเดีย และเดินทางต่อไปยังเวียดนามเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ส่งผลให้สถานการณ์โดยรวมของการประชุม ASEAN เป็นไปอย่างซบเซา
อย่างไรก็ตาม รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสของสหรัฐฯ จะเป็นตัวแทนเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้
ทั้งนี้ ทางสหรัฐฯระบุว่า ไบเดนไม่ได้ผลักลำดับความสำคัญ แต่ยังมีความพยายามที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกาและภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ขณะที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของชาติอาเซียนได้รวมตัวหารือกันเมื่อวันจันทร์เพื่อสรุปวาระสำหรับผู้นำในการประชุมที่จะเกิดขึ้น ส่วนทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของอินโดนีเซีย Retno Marsudi ยอมรับว่าสถานการณ์ในภูมิภาคขณะนี้อยู่ในช่วงยากลำบาก ซึ่งรวมถึงวิกฤตในเมียนมา ทั้งนี้ จะทำการทบทวนแผนที่ผู้นำประเทศต่างๆเคยวางไว้ในปี 2021 อีกครั้ง ว่าด้วยแผน 5 ประการเพื่อช่วยนำเมียนมากลับสู่ภาวะปกติ
อย่างไรก็ตาม หลังจากการประชุมในวันอังคาร ผู้นำ ASEAN จะพบปะกับผู้นำประเทศในเอเชียและตะวันตกตั้งแต่วันพุธถึงวันพฤหัสนี้ ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเจรจาเรื่องการค้าเสรี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความมั่นคงระหว่างประเทศกับสหรัฐ-จีน และบรรดาประเทศพันธมิตร
ทางด้าน Marty Natalegawa อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ยังระบุว่า เป็นเรื่องน่าผิดหวังที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะไม่ปรากฏตัวในการประชุม ASEAN ซึ่งมีความสำคัญในเชิงสัญลักษณ์ที่เปรียบเสมือนภูมิภาค ASEAN ถูกลดความสำคัญลง
เธอยังเสริมว่า ความพยายามจัดการด้านสิทธิมนุษยชนกับรัฐบาลทหารของเมียนมาของ ASEAN นั้นเป็นไปอย่างเงียบงันจนน่าใจหาย และนับว่าเป็นความล้มเหลว ขณะที่ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ ก็เป็นหนึ่งในข้อตอกย้ำความทะเยอทะยานของภูมิภาคนี้ และทำให้ศูนย์กลางการทูตของเอเชียถูกตั้งคำถาม
อินโดนีเซียพยายามเน้นการให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างเศรษฐกิจในภูมิภาคด้วยธีม “ASEAN Matters: Epicentrum of Growth” แต่ปัญหาทางภูมิศาสตร์และความมั่นคงยังถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางการทูต
ทั้งนี้ Dinna Prapto Raharja นักวิเคราะห์และศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในกรุงจาการ์ตา กล่าวว่าความน่าเชื่อถือของ ASEAN จะตกอยู่ในความเสี่ยงหากวิกฤตในเมียนมายังดำเนินต่อไป และ ASEAN ควรมีแนวทางควบคุมอิทธิพลดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหาภายในภูมิภาค