posttoday

คาดผลผลิตข้าวไปจนถึงน้ำมันปาล์มลดลง จากปรากฏการณ์เอลนิโญรุนแรงขึ้น

31 สิงหาคม 2566

เดือนสิงหาคมที่แห้งแล้งผิดปกติ จะส่งผลกระทบต่อพืชธัญพืชและเมล็ดพืชน้ำมันในเอเชีย เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนิโญทวีความรุนแรงขึ้น และคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำฝนที่ยังคงลดลงในเดือนกันยายนกำลังคุกคามภาคเกษตรกรรมต่อไป

นักอุตุนิยมวิทยา และนักวิเคราะห์ระบุว่า การคาดการณ์ผลผลิตข้าวสาลีจะลดลงเนื่องจากสภาพอากาศแห้งในออสเตรเลีย ผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับสองของโลก และมีฝนมรสุมที่ต่ำเป็นประวัติการณ์จะลดปริมาณพืชผล รวมถึงข้าว ในอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ขนส่งธัญพืชรายใหญ่ที่สุดของโลกในปีนี้   ขณะเดียวกัน ฝนตกไม่เพียงพอในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจทำให้อุปทานน้ำมันปาล์มซึ่งเป็นน้ำมันพืชที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลกเสียหาย ในขณะที่สภาพอากาศที่รุนแรงในจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตข้าวโพดชั้นนำและผู้นำเข้าถั่วเหลือง กำลังทำให้ผลผลิตอาหารตกอยู่ในความเสี่ยง

คาดผลผลิตข้าวไปจนถึงน้ำมันปาล์มลดลง จากปรากฏการณ์เอลนิโญรุนแรงขึ้น

คริส ไฮด์ นักอุตุนิยมวิทยาจาก Maxar Technologies ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลสภาพภูมิอากาศในสหรัฐฯ กล่าวว่า

“เรากำลังเผชิญกับสภาพอากาศเอลนิโญเต็มรูปแบบในหลายพื้นที่ของโลก และจะมีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงปลายปี”

เอลนิโญคือภาวะน้ำอุ่นในน่านน้ำแปซิฟิก ซึ่งโดยทั่วไปส่งผลให้เกิดสภาพอากาศที่แห้งทั่วเอเชีย และมีฝนตกหนักมากเกินไปในบางส่วนของอเมริกาเหนือและใต้ โดยในปีนี้ฤดูมรสุมของอินเดียซึ่งมีความสำคัญต่อพืชผลฤดูร้อน เช่น ข้าว อ้อย ถั่วเหลือง และข้าวโพด มีแนวโน้มจะอ่อนค่าที่สุดในรอบ 8 ปี

“ผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนิโญนั้นรุนแรงกว่าที่เราคาดไว้มาก” เจ้าหน้าที่อาวุโสของกรมอุตุนิยมวิทยาอินเดียกล่าว “เดือนนี้ ปริมาณน้ำฝนลดลงมากกว่า 30% ถือเป็นเดือนสิงหาคมที่แห้งแล้งที่สุดเป็นประวัติการณ์ เอลนิโญจะส่งผลต่อปริมาณน้ำฝนในเดือนกันยายนด้วย”

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้อินเดีย ซึ่งถือครองสัดส่วน 40% ของการส่งออกข้าวทั่วโลก ได้ประกาศควบคุมการส่งออก ส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ขณะเดียวกัน ข้าว น้ำมันปาล์ม อ้อย และกาแฟได้รับปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าปกติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอินโดนีเซียและไทยได้รับผลกระทบหนักที่สุด

คาดผลผลิตข้าวไปจนถึงน้ำมันปาล์มลดลง จากปรากฏการณ์เอลนิโญรุนแรงขึ้น

“ภาคตะวันออกของอินโดนีเซีย และประเทศไทยส่วนใหญ่มีฝนตกน้อยมากในช่วง 30 ถึง 40 วันที่ผ่านมา” ไฮด์กล่าว

“โดยปริมาณน้ำฝนในช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่ 50% ถึง 70% ของค่าเฉลี่ย ในขณะที่เดือนกันยายนคาดว่าปริมาณน้ำฝนจะต่ำกว่าปกติอย่างมากทั้งในประเทศไทยและอินโดนีเซีย”

ในสหรัฐอเมริกา พืชผลข้าวโพดและถั่วเหลืองได้รับความเดือดร้อนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากความแห้งแล้ง แม้ว่าสภาพอากาศจะไม่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์เอลนิโญก็ตาม อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ ฟาร์มในสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบในเชิงบวกจากปรากฏการณ์เอลนิโญ่ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในรัฐทางตอนใต้ ซึ่งส่งผลดีต่อข้าวสาลีฤดูหนาว รวมทั้งคาดว่าสภาพอากาศในอเมริกาใต้จะเป็นมิตรกับพืชผลสำหรับถั่วเหลืองและข้าวโพด ซึ่งจะเก็บเกี่ยวได้ในต้นปี 2567

ข่าวล่าสุด

นครชัยแอร์ ผนึก NEX ชิงดีลรถเมล์ไฟฟ้า ขสมก. 1,520 คัน มูลค่า 1.53 หมื่นล้าน