ผู้ก่อตั้ง Foxconn ประกาศชิงตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวัน

Gou ก้าวลงจากตำแหน่งนายใหญ่ Foxconn ในปี 2019 และเริ่มเสนอชื่อตัวเองชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีเดียวกันนั้น อย่างไรก็ตาม Gou ต้องรับความพ่ายแพ้ตั้งแต่การชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีนมาเป็นเวลายาวนาน

เขาทำการเสนอตัวเพื่อเป็นผู้สมัครของพรรคก๊กมินตั๋งอีกครั้งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จัดขึ้นในเดือนมกราคมของปีนี้ แต่ทางพรรคได้เลือก Hou Yu-ih นายกเทศมนตรีเมืองนิวไทเปแทน

Gou ใช้เวลาสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาทัวร์ไต้หวันและจัดการเดินขบวนให้เหมือนการรณรงค์หาเสียง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความคิดว่าเขาอาจลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในฐานะผู้สมัครอิสระ โดยเขากล่าวว่า

“ภายใต้การปกครองของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา พวกเขาทำให้ไต้หวันเสี่ยงต่อภาวะสงคราม นโยบายการบริหารประเทศของพวกเขาเต็มไปด้วยข้อผิดพลาด ซึ่งตอนนี้ ยุคแห่งการปกครองของผู้ประกอบการได้เริ่มขึ้นแล้ว”

“ผมขอโอกาสแค่ 4 ปี แล้วผมสัญญาว่าจะนำสันติภาพ 50 ปีมาสู่ไต้หวัน รวมถึงสร้างรากฐานของความเชื่อมั่น ไต้หวันต้องไม่เป็นเหมือนยูเครน และผมจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น”

ประเด็นหลักที่ Gou นำเสนอขณะการรณรงค์คือ วิธีเดียวที่จะเลี่ยงการทำสงครามกับจีนได้คือต้องทำให้พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าลงจากตำแหน่งบริหาร

ตามระเบียบการเลือกตั้ง Gou จะต้องรวบรวมลายมือชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งราว 300,000 รายให้ได้ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายน จึงจะมีคุณสมบัติเป็นผู้สมัครอิสระ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งจะตรวจสอบลายเซ็นและประกาศผลการสมัครภายในวันที่ 14 พฤศจิกายน

อย่างไรก็ตาม รองประธานาธิบดี William Lai ของไต้หวัน ทั้งยังเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ถือเป็นตัวเต็งที่คาดว่าจะชนะการเลือกตั้งครั้งต่อไป 

ทั้งนี้ เมื่อถามถึงกรณีปัญหาความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของ Gou ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Foxconn ที่มีการลงทุนอย่างมหาศาลในจีนแผ่นดินใหญ่ เขากล่าวว่าเขาพร้อมที่จะ "เสียสละ" ทรัพย์สินส่วนตัวของเขา หากถูกทางการจีนโจมตี นอกจากนี้ เขายังเพิ่มเติมว่าเขาไม่เคยอยู่ภายใต้การควบคุมของสาธารณรัฐประชาชนจีน และจะไม่ทำตามคำสั่งใดๆจากทางการจีน